รีวิว Peugeot 2008 Allure ใหม่ รถยุโรปราคาเอื้อมถึงง่าย แค่ 1.249 ล้านบาท

11 เม.ย. 2565 | 17:25 น.

หากพูดถึง “รถยุโรป” หลายคนคงนึกถึงรถยนต์หรูราคาแพงระยับที่ลำพังรายได้ของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คงเข้าถึงไม่ไหว แต่สำหรับใครที่ใฝ่ฝันอยากจะขับรถยุโรปแท้ๆ แล้วล่ะก็ แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสอย่าง “เปอโยต์” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะน้องใหม่ล่าสุดอย่าง “2008” ที่เพิ่งประกาศราคาไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมานี้เอง จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ

Peugeot 2008 ถือเป็นครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่สุดของเปอร์โยต์ในปัจจุบัน โดยในประเทศไทยถูกทำตลาดควบคู่ไปกับ 3008 และ 5008 ซึ่งเป็นเอสยูวีขนาด 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งตามลำดับ โดยเปอโยต์ประเทศไทย (ภายใต้การบริหารของ บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด) เน้นจุดขายของ 2008 ว่า “Be your first European car” หรือเป็นรถยุโรปคันแรกสำหรับที่ต้องการฉีกหนีจากแบรนด์ญี่ปุ่น แต่กำลังทรัพย์อาจยังเอื้อมไม่ถึงแบรนด์หรูจากเยอรมนีหรือสวีเดนนั่นเอง

แม้ว่าชื่อชั้นของ Peugeot คงไม่อาจเรียกว่าเป็นแบรนด์หรูได้เต็มปาก แต่จุดขายของเปอร์โยต์อยู่ที่จิตวิญญาณความเป็นฝรั่งเศสแท้ๆ เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ศิลปะ มีความฮิปเก๋ไม่เหมือนใคร จะเห็นได้จากงานออกแบบของเปอโยต์แทบทุกรุ่นที่มีความแตกต่างไปจากรถฝั่งญี่ปุ่นและเยอรมนีอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจุดนี้เองน่าจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างได้อย่างไม่ยากเย็น

สำหรับ Peugeot 2008 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยถูกประกอบที่โรงงานในประเทศมาเลเซีย มีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว นั่นคือ Allure กับราคาจำหน่ายราว 1 ล้านบาทต้น ใกล้เคียงกับคู่แข่งทางฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Toyota C-HR, Honda HR-V, Mazda CX-30 และ Subaru XV ทั้งยังถือว่าอยู่ในพิกัดเดียวกับแบรนด์จีนอย่าง Haval Jolion และ MG ZS อีกด้วย จะเห็นได้ว่ามีเพียง Peugeot 2008 เท่านั้นที่สามารถเรียกว่าเป็นรถยุโรปได้อย่างเต็มปาก (ในใจกำลังจะกัด MG อยู่ใช่ไหมล่ะ... รู้นะ)

ภายนอก

รูปลักษณ์ภายนอกของ Peugeot 2008 เน้นเส้นสายที่ดูโค้งมนโฉบเฉี่ยว ออกแบบด้านหน้าเน้นความดุดัน ภายใต้บอดี้ขนาดกะทัดรัดกว่า 3008 อย่างเห็นได้ชัด ติดตั้งไฟหน้าแบบ Full LED ที่ออกแบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันให้มีลักษณะคล้ายกับเขี้ยวสิงโตที่กันชนหน้า มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist ซึ่งจะทำงานในลักษณะเปิดไฟสูงสลับกับไฟต่ำอัตโนมัติตามสภาพการจราจรเบื้องหน้าเท่านั้น ไม่ถึงขั้นเลือกเปิดไฟสูงเฉพาะส่วนเหมือนกับไฟหน้าของรถหรูราคาแพงแต่อย่างใด

ขณะที่ไฟท้ายเป็นแบบ LED เช่นกัน ซึ่งออกแบบให้มีแถบสีดำพาดยาวเชื่อมเข้าหากันทั้งสองข้าง โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ไฟท้ายแบบ 3 แถบคล้ายกับกรงเล็บสิงโต มาพร้อมปลายท่อไอเสียแบบ 2 ข้าง และกระจกมองข้างปรับ-พับด้วยไฟฟ้า

ขณะที่เสา C-pillar ถูกออกแบบให้มีสีดำเพื่อสร้างความต่อเนื่องจากด้านข้างไปยังด้านท้าย พร้อมราวหลังคาสีดำเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม Fusion Orange ที่เห็นอยู่นี้ รวมถึงสีเทา Amazonite Grey, สีดำ Nera Black และสีขาว White Pearl โดยทุกรุ่นถูกติดตั้งล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 215/60 R17

ภายใน

ห้องโดยสารของ Peugeot 2008 ยังคงถูกตกแต่งไปในทิศทางเดียวกับรุ่นใหญ่กว่าอย่าง 3008 และ 5008 เน้นโทนสีดำเป็นหลัก เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังปรับระดับด้วยมือทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า แต่ถึงแม้ว่ารถระดับนี้จะไม่มีเบาะไฟฟ้ามาให้ แต่ก็ชดเชยด้วยตัวเบาะที่มีความหนานุ่ม รองรับสรีระได้ดี ให้ความกระชับตามสไตล์รถยุโรป แม้ว่าเราจะทดลองขับเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ก็มั่นใจว่าถ้าขับทางไกลก็สามารถนั่งโดยสารได้สบายหายห่วง

ส่วนเบาะนั่งแถวหลังสามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย แม้ว่าตัวเบาะจะสามารถรองรับสรีระได้ดีไม่แพ้เบาะนั่งด้านหน้า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีช่องแอร์ตอนหลังมาให้ ต้องอาศัยความเย็นจากด้านหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เน้นการใช้งานสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าเสียมากกว่า

Peugeot 2008 ยังคงติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 2 ก้าน ที่มีลักษณะตัดตรงทั้งส่วนบนและส่วนล่าง แบบเดียวกับ 3008 และ 5008 ทั้งยังมีรอบวงพวงมาลัยค่อนข้างเล็ก ให้ความรู้สึกกระชับมือ สามารถควบคุมรถได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบในรถเปอโยต์รุ่นใหม่ๆ ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ i-Cockpit ขนาด 10 นิ้ว ก็สามารถแสดงผลได้แบบ 3 มิติจริงๆ เพราะนอกจากจะมีหน้าจอขนาด 10 นิ้วแล้ว ยังมีแผ่นกระจกใสกั้นอยู่ด้านหน้าจอเพื่อสะท้อนข้อมูลจากจอที่ 2 ซึ่งถูกซ่อนไว้ด้านบน เท่ากับว่าเป็นการจำลองให้มีลักษณะคล้ายกับหน้าจอ 2 ชั้นนั่นเอง

บริเวณคอนโซลกลางโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มช็อตคัตที่เรียงรายอยู่ใต้ช่องแอร์เพื่อการเข้าถึงฟังก์ชันของตัวรถได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมกล้องมองหลังขณะถอย (Visio Park) และเซ็นเซอร์กะระยะทั้งหน้าและหลัง ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 6 จุดรอบห้องโดยสาร

นอกจากนี้ Peugeot 2008 ยังมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้แบบครบๆ อย่างที่รถยุคใหม่ควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัจฉริยะ (Automatic Handfree Access) ทำงานคู่กับระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start Button), ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร (Mood Lighting), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบโซนเดี่ยว, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control, ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า และปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ (Normal, Eco, Sport และ Manual) เป็นต้น

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Active Blind Spot, ระบบช่วยเตือนให้เบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวาง Active Safety Brake Warning (ซึ่งทำงานเฉพาะการส่งเสียงเตือนเท่านั้น ไม่มีระบบช่วยเหยียบเบรกให้อัตโนมัติแต่อย่างใด), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Keeping Assistant, ระบบอ่านป้ายจำกัดความเร็วและระบบจำกัดความเร็ว Speed Limit Recognition and Speed Limiter และระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า Driver’s Attention Warning System

ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ของ Peugeot 2008 ก็มีให้ครบครันตามมาตรฐานยุโรป ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP, ระบบเบรก ABS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย เป็นต้น

เครื่องยนต์

ขุมพลังของ Peugeot 2008 Allure เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Puretech แบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามารถปรับเป็นโหมดแมนนวลได้ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามที่ระบุใน ECO Sticker อยู่ที่ 17.2 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 136 กรัมต่อกิโลเมตร

การขับขี่

การตอบสนองของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ของ Peugeot 2008 ก็ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย เนื่องจากช่วงที่กดคันเร่งจะรู้สึกถึงอาการ Lag ของเทอร์โบอยู่บ้าง แต่เมื่อเทอร์โบเริ่มทำงานเต็มที่ ก็สามารถสร้างพละกำลังช่วยให้รถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว จนแทบจะลืมไปเลยว่ารถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาดเพียงแค่ 1.2 ลิตรเท่านั้น

ขณะที่ชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ก็ช่วยเพิ่มการตอบสนองให้รู้สึกขับสนุก เป็นธรรมชาติ ต่างจากเกียร์แบบ CVT อย่างเห็นได้ชัด ขณะที่การเปลี่ยนเกียร์ก็ทำได้อย่างลื่นไหลและนุ่มนวล ไม่มีอาการสะดุดให้เห็น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของ Peugeot 2008 เมื่อเทียบกับคู่แข่งในพิกัดเดียวกันเลยก็ว่าได้ ขณะที่โหมดการขับขี่สามารถเลือกได้ทั้ง Eco, Normal และ Sport ซึ่งจะเปลี่ยนการตอบสนองของคันเร่งและเกียร์ต่างกันออกไป

ขณะที่ช่วงล่างของ Peugeot 2008 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ตหนึบหนับ มีความติดกระด้างอยู่นิดๆ แต่ก็แลกมาด้วยความกระชับคล่องตัว สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ เข้ากันดีกับรถสไตล์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก แต่สิ่งที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือ “พวงมาลัย” ที่ใช้ไปแรกๆ อาจไม่คุ้นมือนัก เนื่องจากวงรอบมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่พอใช้งานจนเริ่มชินแล้วล่ะก็ จะรู้สึกได้เลยว่าทั้งขนาด, น้ำหนัก และอัตราทดของพวงมาลัย ต่างสอดประสานช่วยเพิ่มความคล่องตัวของรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี สามารถซอกแซกไปในเมืองได้อย่างสนุกสนานและมั่นใจ และเป็นสิ่งที่ทำให้ Peugeot 2008 กลายเป็นรถที่ขับสนุกทั้งในเมืองและนอกเมือง

สรุป

Peugeot 2008 Allure เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าคบหาสำหรับใครที่อยากฉีกหนีจากแบรนด์ญี่ปุ่นและจีน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขยับจากรถเก๋งมาเป็นเอสยูวี เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น แต่ยังคงมองหารถที่ให้ความคล่องตัว ไม่เทอะทะ แถมยังเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายความเป็นรถฝรั่งเศสทุกกระเบียดนิ้ว ภายในห้องโดยสารเหมาะสำหรับการเน้นใช้งาน 1-2 คนเป็นหลัก มีฟังก์ชันต่างๆ มาให้อย่างครบครัน รวมถึงมาตรวัด i-Cockpit แบบ 3 มิติ ที่สามารถสร้างความว้าวได้ดีทีเดียว

ด้านการขับขี่ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานยุโรป เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.2 ลิตร มีเรี่ยวแรงแบบเหลือเฟือ หายห่วงทั้งการใช้งานในเมืองและนอกเมือง ทั้งยังได้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ในขณะที่คู่แข่งหันไปใช้เกียร์ CVT กันหมดแล้ว ส่วนช่วงล่างก็ถูกเซ็ตมาให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ บวกกับการตอบสนองของพวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนใคร จึงทำให้ Peugeot 2008 เป็นหนึ่งในรถที่ขับสนุกเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน

ราคาจำหน่าย Peugeot 2008 Allure รุ่นปี 2022 อยู่ที่ 1,249,000 บาท