รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือเรือธงขวดเดิม แต่ภายในเปลี่ยนโลก

สิ้นสุดการรอคอยรีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มาแล้วจ้า เต็มๆ ทุกฟังก์ชั่นและรองรับการทำงานหลากหลาย

รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือเรือธงขวดเดิม แต่ภายในเปลี่ยนโลก

สโลแกนที่ช่วงนี้คุณจะได้เห็นกับโฆษณาที่มีคำว่า “อย่างพี๊คคคคค” คงเป็นคำจำกัดความของ Smart Phone เรือธงที่จัดว่ามีประวัติที่ยาวนานและมันก็คือ Samsung Galaxy S นั่นเอง ตอนนี้เดินทางมาถึง S23 แล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแก้เกมจากรุ่นก่อนที่ยังมีคนบอกว่า ถ้ามันจะไปต่อ มันต้องมีอะไรที่ดีขึ้น และมันดีตรงไหน และทำไมถึงบอกว่า พี่ใหญ่หน้าตามเดิม กับ รีวิวนี้ใน Samsung Galaxy S23 Ultra และการอยู่ร่วมเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์จะเป็นอย่างไร มารับชมกัน

batch_img_8219

รายละเอียดสเปกในแต่ละรุ่นของ Samsung Galaxy S23 Series

Samsung Galaxy S23

  • ขนาด : 146.3 x 70.9 x 7.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 167 กรัม
  • หน้าจอ : ขนาด 6.1 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X, ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate 48 – 120Hz แบบ Adaptive
  • กระจกกันรอย : Gorilla Glass Victus 2
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP68
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 For GALAXY
  • GPU : Adreno 740
  • RAM : 8GB
  • ความจำภายใน : 128 / 256GB
  • ความจำภายนอก : ใช้ระบบ Cloud ทั้ง One Drive และ Google Drive
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + One UI 5.1
  • สเปกกล้องหน้า
    • ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2) HDR 10+ มุมกว้าง 80 องศา, PDAF, Dual Pixel, OIS
  • สเปกกล้อง
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 Dual Pixel, OIS
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ให้มุมมอง 120 องศา
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่า
    • วิดีโอบันทึกได้สูงสุด 8K 30 FPS, 4K, FHD รองรับ HDR 12-bit
  • การเชื่อมต่อ : 4G / 5G, Wi-Fi 6E มาพร้อมกับ Bluetooth 5.3, GPS, A-GPS, Samsung Dex ทั้งแบบเสียบสายและ ไร้สาย
  • ลำโพง : Dual Speaker + Dolby ATMOS
  • ระบบป้องกัน : Samsung KNOX + ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แบบ Ultra Sonic, ระบบสแกนใบหน้า
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB-C
  • แบตเตอรี่ : 3900 mAh
  • ระบบชาร์จไฟ : แบบสาย Fast Charge กำลัง 25W รองรับการชาร์จไฟไร้สาย 10W และ Reveres Charging
  • ระบบปล่อยไฟให้อุปกรณ์อื่น : Wireless Power Share กำลัง 10W
  • สีสัน : Lavender, Cream, Phantom Black, Green และสีพิเศษ Sky Blue, Red, Graphite และ Lime

Samsung Galaxy S23+

  • ขนาด : 157.8 x 76.2 x 7.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 195 กรัม
  • หน้าจอ : ขนาด 6.6 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X, ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate 48 – 120Hz แบบ Adaptive
  • กระจกกันรอย : Gorilla Glass Victus 2
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP68
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 For GALAXY
  • GPU : Adreno 740
  • RAM : 8GB
  • ความจำภายใน : 256 / 512GB
  • ความจำภายนอก : ใช้ระบบ Cloud ทั้ง One Drive และ Google Drive
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + One UI 5.1
  • สเปกกล้องหน้า
    • ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2) HDR 10+ มุมกว้าง 80 องศา PDAF, Dual Pixel, OIS
    • วิดีโอ : สูงสุด 4K ที่ 60 FPS
  • สเปกกล้อง
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 Dual Pixel, OIS
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ให้มุมมอง 120 องศา
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่า
    • วิดีโอบันทึกได้สูงสุด 8K 30 FPS, 4K, FHD รองรับ HDR 12-bit
  • การเชื่อมต่อ : 4G / 5G, Wi-Fi 6E มาพร้อมกับ Bluetooth 5.3, GPS, A-GPS, Samsung Dex ทั้งแบบเสียบสายและไร้สาย
  • ลำโพง : Dual Speaker + Dolby ATMOS
  • ระบบป้องกัน : Samsung KNOX + ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แบบ Ultra Sonic, ระบบสแกนใบหน้า
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB-C
  • แบตเตอรี่ : 4700 mAh
  • ระบบชาร์จไฟ : แบบสาย Fast Charge กำลัง 45W รองรับการชาร์จไฟไร้สาย 10W และ Reveres Charging
  • ระบบปล่อยไฟให้อุปกรณ์อื่น : Wireless Power Share กำลัง 10W
  • สีสัน : Lavender, Cream, Phantom Black, Green และสีพิเศษ Sky Blue, Red, Graphite และ Lime

Samsung Galaxy S23 Ultra

  • ขนาด : 163.4 x 78.1 x 8.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 233 กรัม
  • หน้าจอ : ขนาด 6.8 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X, ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate 1 – 120Hz แบบ Adaptive รองรับค่าสี DCI-P3 Wide Gamut 100%
  • กระจกกันรอย : Gorilla Glass Victus 2
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP68
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 For GALAXY
  • GPU : Adreno 740
  • RAM : 8 / 12GB แบบ LPDDR 5X
  • ความจำภายใน : 256 / 512GB และ 1TB แบบ UFS 4.0
  • ความจำภายนอก : ใช้ระบบ Cloud ทั้ง One Drive และ Google Drive
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + One UI 5.1
  • สเปกกล้องหน้า
    • ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2) HDR 10+ มุมกว้าง 80 องศา PDAF เป็นแบบ Dual Pixel, OIS
    • วิดีโอ : สูงสุด 4K ที่ 60 FPS
  • สเปกกล้อง
    • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล จาก Samsung ISOCELL HP2 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว, 0.6 µm ค่ารูรับแสง F/1.7 ระบบ Dual Pixel, OIS
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ให้มุมมอง 120 องศา
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่า
    • กล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลซูมได้ 10x แบบ Optical Zoom
    • ครอบทับด้วยกระจก Camera Glass Protection Layer ( Cameras DX)
    • วิดีโอบันทึกได้สูงสุด 8K 30 FPS, 4K, FHD รองรับ HDR 12-bit
  • การเชื่อมต่อ : 4G / 5G, Wi-Fi 6E มาพร้อมกับ Bluetooth 5.3, GPS, A-GPS, Samsung Dex ทั้งแบบไร้สายและมีสาย
  • SIM Card : Dual Nano SIM + 1 eSIM
  • ลำโพง : Dual Speaker + Dolby ATMOS
  • ระบบป้องกัน : Samsung KNOX + ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แบบ Ultra Sonic, ระบบสแกนใบหน้า
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB-C
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh
  • ระบบชาร์จไฟ : แบบสาย Fast Charge กำลัง 45W รองรับการชาร์จไฟไร้สาย 10W
  • ระบบปล่อยไฟให้อุปกรณ์อื่น : Wireless Power Share กำลัง 10W
  • สีสัน : Lavender, Cream, Phantom Black, Green และสีพิเศษ Sky Blue, Red, Graphite และ Lime

แกะกล่อง Samsung Galaxy S23 Ultra

batch_img_8188

  • ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S23 Ultra
  • เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
  • สายชาร์จ USB-C to USB-C
  • คู่มือใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ด้านหน้ามาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.8 นิ้วเช่นเคยและยังคงเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X, ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate 1 – 120Hz แบบ Adaptive รองรับค่าสี DCI-P3 Wide Gamut 100% ความสว่าง 1,750 nits ไม่ได้แตกต่างจากเดิม แต่ว่า สิ่งที่ Samsung มอบให้กับจอด้านหน้าที่ไม่เหมือนกันคือความยาวของหน้าจอที่ยืนลงไปเกือบสุด ครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus 2 ทั้งหน้าและหลัง

batch_img_8194

ส่วนบนจะมีกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อย่าเพิ่งดูถูกนะครับ ไว้ส่วนของกล้องจะเล่าให้ฟังว่าต่างกันกับของเดิมอย่างไร พร้อมกับเซนเซอร์ครบครันและบนสุดก็จะมีลำโพงสำหรับสนทนาและเป็นลำโพงตัวที่ 2 ให้เสียงที่ดังเพราะมีการเปลี่ยนลำโพงใหม่ใหญ่กว่าเดิม

batch_img_8196

ส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android ปรับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบโดยเข้าไปจัดการได้ที่ Setting (ตั้งค่า) >Display (หน้าจอ) > Navigation Bar (แถบการนำทาง) 

batch_img_8195_1

batch_s23u_bu

ขอบเครื่องด้านข้างหน้ากว่า S22 Ultra แบบชัดเจน โดยฝั่งซ้ายจะไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น และขอบจะเปลี่ยนไปตามสีที่คุณเลือก ถ้าเป็นสีครีมที่เห็นขอบจะเป็นสีทอง, สีดำ Phantom Black จะเป็นสีดำเงา, Lavender ขอบสีชมพู, เขียว จะเป็นสีเขียว ส่วนสีพิเศษ ถ้าเป็น Sky Blue, Lime จะเป็นสีเงิน และ Red และ Graphite จะเป็นสี ดำด้าน และสำคัญสุดขอบหนามากทำให้จอโค้งน้อยลง แต่ยังโค้งอยู่นะ

batch_img_8204

ฝั่งขวาจะมีปุ่ม ประกอบด้วย Side Key (ปุ่มนี้สามารถเลือกได้ระหว่าง ปุ่มเปิด / ปิดเครื่อง หรือปลุกระบบคำสั่งเสียงเช่น Bixby ขึ้นมา และ กด 2 ครั้งสามารถสั่งเปิดกล้องได้) พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงมาให้ ลักษณะของปุ่มจะหนาขึ้นกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อยกดง่ายขึ้น

batch_img_8209

ส่วนบนของเครื่องจะมีการโชว์วัสดุความเงางามของเครื่องพร้อมกับไมโครโฟนป้องกันเสียงรบกวนให้รองรับการทำงานได้ดีมากขึ้น

batch_img_8201

ส่วนล่างมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด สำหรับประเทศไทยจะเป็นแบบ SIM คู่ (Dual SIM), USB-C, ไมโครโฟน และลำโพงตัวเครื่อง และมีช่องใส่ปากกา S Pen

batch_img_8198

เมื่อดึงออกมา หัวปากกา S Pen รุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นสีอะไรจะได้สีดำทั้งหมด ต่างกันที่ปุ่มกดอย่างเดียวเท่านั้นสีก็ตามขอบที่คุณเลือกสีนั่นเอง

batch_img_8138

batch_20230204_163804

ด้านหลังอย่างที่บอกไปว่าออกแบบตำแหน่งได้เหมือนกับ Galaxy S22 Ultra แต่ว่าเลนส์กล้องขนาดใหญ่จะเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถใช้เคสเดียวกันได้ ส่วนบนมีกล้องทั้งหมด 4 ตัวพร้อมกับอินฟราเรด, เซนเซอร์วัดสี LED Flash แบบครบๆ และรองรับ NFC, Wireless Charging

batch_img_8191

ความรู้สึกที่ได้สัมผัส / น้ำหนักตัวเครื่อง / สีสัน

batch_img_8107

ถ้าให้พูดตรงๆ กับรูปร่างทั้งหมด มันคือ Galaxy S22 Ultra แทบจะหมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างที่ได้อธิบายไปตั้งแต่ทำสัมผัสแรกว่า มันไม่เหมือนกันซะทีเดียว ตำแหน่งปุ่มกด ขนาดของกล้องใหญ่กว่า และน้ำหนักที่มากขึ้น ทำให้แยกความแตกต่างชัดเจน การถือ S23 Ultra มันจะดูสมดุลและหนักเป็นก้อนเดียว ถ้าใครชอบของที่มีความมั่นคงและกลัวเวลาถือแล้วตกบ่อย S23 Ultra ให้คำตอบที่ดีมาก

ซึ่งสอดคล้องกับ S23 และ S23+ ที่ได้ถ่ายมาให้ดูชุดนี้ว่า ความแตกต่างของรุ่นก่อนคือความหนานั่นเอง แต่กล้องนั้นออกแบบยังเป็นแบบเจาะรูลอยทั้งหมด เหมือนกัน ถ้าจะให้ดีใส่เคสและหรือถ้าไม่ใส่ก็ต้องระวังเรื่องรอยขนแมวเหมือนกันทั้งหมด

batch_20230204_164917

batch_20230204_165045


batch_20230204_180049

สีสันของ Samsung Galaxy S23 Series โดยหลักแล้วจะมีทั้งหมด 4 สีเหมือนกันคือ Lavender, Cream, Phantom Black, Green มีเฉพาะ Galaxy S23 Ultra ความจุ 512GB / 1TB เท่านั้นที่จะมีสีพิเศษครบทั้ง 4 สีคือ Sky Blue, Red, Graphite และ Lime ความจุอื่นๆ รวมถึง Galaxy S23 และ S23+ จะมีแค่ Graphite และ Lime ให้เลือกเท่านั้น

สีพิเศษสั่งซื้อได้เฉพาะ Samsung.com เท่านั้น

มาตรฐานกันน้ำของ Samsung Galaxy S23 Series

batch_20230204_163613

มือถือ Samsung Galaxy S23 Series ได้รับมาตรฐานกันน้ำอยู่ที่ IP68 รองรับกันน้ำระดับ 1 เมตร 30 เซนติเมตร ได้นาน 30 นาที, และกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ เหมือนเดิมทุกประการ

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของเครื่อง

 batch_20230221_075156

จุดนี้บอกเลยว่าหน้าจอยังคงเป็นลักษณะเดิมนั่นคือ 6.8 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียดสูงสุด WQHD+ แต่สามารถปรับระดับได้ ความสว่าง 1,750 nits ถือว่าทำได้สูงมาก และยังมีเทคโนโลยี Vision Booster ทำให้การรับชมในสภาพกลางวันสว่างไม่แพ้แดด และมีค่า Refresh Rate 120 Hz แบบ Adaptive ที่ปรับระหว่าง 1 – 120 Hz (รุ่น S23 และ S23+ จะอยู่ที่ 48 – 120Hz เท่านั้น และความละเอียด FHD+) และมี Touch Sampling Rate หรือความไวในการสัมผัสที่ 240 Hz ถือว่ายังเป็นรองมือถือเล่นเกม แต่ถ้าเทียบกับเรือธงถือว่าไวแล้ว

ความสว่างสู้แดดสบายๆ กับความสว่าง 1,750 nits ในทุกรุ่นถือว่าดีมาก สว่างสุด

batch_img_8196

batch_img_8198

แต่ที่ปรับปรุงชัดเจนเห็นจะเป็นระบบเสียงนอกจากการรองรับ Dolby ATMOS, Bluetooth 5.3 และรูปแบบการแชร์เสียงต่างๆ ที่อยู่เหมือนเดิม แล้ว คราวนี้เปิดเพลงฟังปรากฏว่าเสียงลำโพงข้างล่างดังกว่าเดิมชัดเจน เก็บรายละเอียดได้ดีทุกย่านเสียงจนเรียกว่า Samsung ฟัง Feedback ลูกค้ามาอย่างดี

ประสิทธิภาพ / การเล่นเกม

screenshot_20230217_224413_an

คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu = 1,206,507

screenshot_20230217_230610_geGeekbench 6

คะแนนประสิทธิภาพ Geekbench

batch_screenshot_20230221_074

คะแนนของ 3D Mark

batch_20230218_080732

เรียกได้ว่าเห็นคะแนนแล้วก็ดีใจแทน Samsung เพราะมีการเลือกใช้ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่แตกต่างกันกับรุ่นปกติที่ Clock Speed สูงขึ้น ดังนั้นการทำงานของเครื่องถือว่าทำได้รวดเร็วมากขึ้น

ความร้อนของเครื่องก็มีการปรับปรุงจาก S22 Ultra โยรอบนี้มีการออกแบบให้แผ่น Vapor Chamber ใหญ่มากขึ้นและยัง รองรับการซับความร้อนทั้งชิปเซ็ต, หน่วยความจำ และหน่วยประมวลผลและถือว่าครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่าเดิม ส่งผลดีต่อการระบายความร้อน ทำให้การทดสอบที่เห็นความร้อนไม่ได้สูงมากนัก ทำให้ไปถึงจุดที่ CPU ตัดกำลังช้าลงค่อนข้างมาก ที่สำคัญคือตัวเครื่องออกแบบให้มีจุดระบายอากาศได้รวดเร็วผ่านทางด้านล่างของเครื่องผ่านไมโครโฟนอีกด้วยแต่ไม่ต้องห่วงเสียงรบกวนไม่มีแน่นอนทำงานเงียบมาก(มันไม่มีพัดลม)

batch_screenshot_20230221_073

ส่วนลูกเล่นการเล่นเกมก็ยังคงมี Game Launcher ที่เก็บเกมไว้ที่เดียวกัน และ Game Booster ที่สามารถสั่งเปิด / ปิดระบบ Game Optimize Service และรวมถึงการทำงาน Pause USB Power Delivery ทำให้ชาร์จไฟเล่นเกมไปได้โดยเครื่องไม่ร้อน

การเชื่อมต่อไร้สาย / ลองใช้นำทาง

batch_20230203_203314

Samsung Galaxy S23 Ultra สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, Bluetooth, Wi-Fi, GPS, A-GPS เป็นต้น ถือว่าครบครันสำหรับมือถือเรือธง และสามารถบอกตำแหน่งการนำทางได้แม่นยำมาก

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย

batch_s23u_ui

Samsung Galaxy S23 Series เป็นครั้งแรกของมือถือ Samsung กับการใช้ One UI 5.1 ที่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นจากเดิมแต่พื้นฐานยังคงเป็น One UI 5

batch_s23u-tools2

เบื้องต้นลูกเล่นของ OneUI 5.1 นั้นจะมีการเพิ่ม Expert RAW ในฟีเจอร์กล้อง, ปรับปรุง Gallery ใหม่, Dex Mode ที่ทำงานกับหน้าจอได้หลากหลาย และรวมไปถึงแก้ปัญหาต่างๆ และ Security Pad นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ One UI 5.1 cรวมถึงการกดสั่งที่ภาพแล้วลาออกมาแบบเดียวกับ iPhone 

batch_s23u_tools1

ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ก็ยังมีมาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • Bixby Routine ปรับเปลี่ยน Profile ของเครื่องตามสถานะที่และเวลาได้ รอบนี้มีการเพิ่ม Mode เท่ากับคุณใช้โหมดไหนอยู่ที่ไหนก็สามารถปรับได้ทันทีไม่ต้องกดให้เสียเวลา
  • Advance Intelligent Assistant สามารถแปลงจากการ Note เป็น Power Point ได้ หรือจะนำเข้าและแก้ไข PDF เราสามารถเขียนลงไปและส่งให้เพื่อนได้เลย  
  • Note Talking จะมีการเขียนและพิมพ์ทำได้พร้อมกัน Easy Type & Write สามารถปรับให้บรรทัดตรงและทำงานต่อได้ลงตัว 
  • Audio Bookmark สามารถบันทึกเสียงและเขียนได้จะปรากฏได้ 
  • AI Near Note สามารถปรับให้ Note ที่จะให้ตรง แม้จะเขียนเอียงแค่ไหนก็ตาม แต่ต้องดูให้เป็นตัวอักษรนะ 
  • การจัดการ Note เป็นแบบ Folder Structure แบ่ง Note สามารถหาได้ง่ายและ มีการ Template ที่ดีขึ้น  
  • สามารถทำงานเป็นทีมได้ง่ายมากขึ้น ผ่าน Note Live Sync ถ้ามี Samsung Account ที่เป็น Public สามารถปรับและทำงานเป็นทีมก็ได้ หรือ จะเขียน Note ในมือถือระหว่างเขียนที่อื่นก็จะอยู่ที่กลาง เปิดได้หลาย Device พร้อมกันได้ หากเขียนที่ตรงไหนก็จะสามารถแก้ที่เครื่องนั้นได้ 
  • Link To Windows ปรับปรุงให้ Mobile Apps ใช้งานบน PC ได้มากขึ้นใช้ได้มากสุด 6 Apps แต่การทำงานจะดีต้องอย่าลืม อัปเดต โปรแกรมให้ใหม่เสมอนะครับ 
  • เพิ่มความสามารถของ Gallery ให้แยก วัตถุในภาพออกมาและ บันทึกแยกตางหากได้

ฟังก์ชั่นของปากกา S Pen ใหม่ 

batch_dsc05443

ลูกเล่นของ S Pen ยังอยู่ครบทั้ง Air View ชี้เพื่อแสดงรูปภาพ หรือเว็บไซต์, Translate ชี้เพื่อแปลข้อความ, Live Message, Smart Select, Screen Writing, เพิ่มเติมจะมีอะไรที่หลากหลายประกอบด้วย 

batch_s23u_spen

  • การตอบสนองไวอยู่ที่ 2.8 ms. เท่ากับมันจะลื่นไหลได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว  
  • Air Gestrue ที่เพิ่มการสั่งงานผ่านการปัดได้ไม่ว่าจะเป็น 
    • กดแล้วปัดเป็นเครื่องหมาย <� จะเท่ากับย้อนกลับ 
    • กดแล้วปัดเป็นเครื่องหมาย ^ เท่ากับ กลับหน้าหลัก
    • กดแล้วปัดเป็นเครื่องหมาย > เท่ากับเปิดเปิดหน้า Recent Apps หรือน่าโปรแกรมล่าสุด 
    • กดแล้วปัดเป็นเครื่องหมาย V จะเท่ากับฟีเจอร์ Smart Select เลือกส่วนหน้าจออัจฉริยะ  
    • กดแล้วทำท่าซิกแซก จะเท่ากับเข้าฟีเจอร์ Screen Writer  
    • ฟีเจอร์ เดิมยังอยู่ทั้ง Gesture Control ที่สามารถ สั่งเปลี่ยนภาพ หรือ Silde ที่นำเสนอ
    • ฟีเจอร์ กดถ่ายภาพ ได้ครั้งเดียว 
    • แต่ที่เพิ่มเติมคือการทำงานผ่าน Galaxy Tab ที่สามารถเป็นเครื่องมือเลือกปากกาการวาดภาพต่างๆ ได้อย่างดี
    • และยังสามารถใช้ S Pen ได้หลายด้ามในเครื่องเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ยังคงใส่ให้อยู่ครับ

batch_dex

บอกแบบนี้เหมือนไม่เปลี่ยนความจริงมีเปลี่ยน 1 สิ่งเท่านั้นคือเวอร์ชั่น Bluetooth 5.3 ประหยัดไฟขึ้นและต่อไวขึ้นกว่าเดิม และเครื่องมือต่างๆ ยังคงอยู่ครบ เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, เครื่องอัดเสียงเครื่องคิดเลข, Samsung Dex ได้ทั้งแบบไร้สาย, เสียบ USB-C หรือต่อตรงกับ TV เป็นต้น

นอกจากนี้การเชื่อมต่อของ Samsung Galaxy Ecosystem ยังคงมีมาให้ โดยมีความสามารถมากมายเช่น 

 batch_galaxys23ultra_image_

  • การส่งโปรแกรมที่เคยเปิดเช่นใน Samsung Note หรือ Samsung Internet ไปแสดงผลข้ามอุปกรณ์ไปแสดงบน Tablet 
  • ฟังเพลงผ่าน Tablet แต่ถ้ามีสายเข้าจากมือถือ Samsung Galaxy ก็สามารถให้หูฟังสลับไปรับสายโดยเพลงจะหยุดอัตโนมัติ และวางสาย จะกลับไปที่ Tablet ได้เอง 
  • การแสดงผลแจ้งเตือนผ่าน Smart Watch ได้รวดเร็วและแม่นยำ แถมยังสามารถให้หูฟังไปเชื่อมต่อกับ Smart Watch ได้เช่นเดียวกัน 

batch_s23u_safe

ส่วนระบบความปลอดภัยมี Samsung KNOX มาทำงานร่วมกับระบบสแกนนิ้วที่ใต้หน้าจอ ยังคงเป็นเซนเซอร์ตัวเดิมที่แนะนำว่า อย่าติดฟิล์มหนา ถ้าติดหนาควรจะสแกนนิ้วใหม่จะดีกว่า และระบบสแกนใบหน้านั้นเป็นแบบ 2D

เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย Galaxy S23 Ultra

batch_img_8219

สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนคือกล้องของรุ่นนี้ที่มีให้แบบครบครัน ประกอบด้วย

  • สเปกกล้องหน้า
    • ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2) HDR 10+ มุมกว้าง 80 องศา PDAF เป็นแบบ Dual Pixel, OIS
    • วิดีโอ : สูงสุด 4K ที่ 60 FPS
  • สเปกกล้อง
    • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล จาก Samsung ISOCELL HP2 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว, 0.6 µm ค่ารูรับแสง F/1.7 ระบบ Dual Pixel, OIS
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ให้มุมมอง 120 องศา
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่า
    • กล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลซูมได้ 10x แบบ Optical Zoom
    • ครอบทับด้วยกระจก Camera Glass Protection Layer ( Cameras DX)
    • วิดีโอบันทึกได้สูงสุด 8K 30 FPS, 4K, FHD รองรับ HDR 12-bit

Samsung นั้นเคลมว่า กล้องของ Galaxy S23 Ultra ที่อัปเกรดเป็นแบบ 200 ล้านพิกเซล นอกจากทำภาพใหญ่ได้แล้วยังสามารถปรับภาพได้ทั้งแบบ 50 ล้านพิกเซล รวมพิกเซล 4 in 1 และ ทำให้การรวม Pixel มากถึง 16 in1 เท่ากับภาพจะสว่างมากขึ้น

ฟีเจอร์ของการถ่ายภาพด้วย Samsung Galaxy S23 Ultra

batch_s23u_cam

ใช้คำว่าเมนูกล้องทุกอย่างเหมือนกับของเดิมแต่จะมีการอำนวยความสะดวกเช่นการปรับปรุงเรื่อง My Filter เป็นปุ่ม+ เพิ่มได้ไม่ต้องกดหมวดแยก รวมไปทีเดียว, รวมไปถึงการเพิ่มเมนูกล้องที่ใช้บ่อยเข้ามาได้อย่างลงตัว และยังมีลูกเล่นครบ ทั้งวิดีโอและภาพนิ่งเลือกใช้ได้ตามสะดวก การซูมใช้วิธีเลื่อนเอาไม่ได้เป็นแบบปุ่มกดเหมือนกับมือถือบางยี่ห้อที่ใช้เลื่อน การควบคุมถือว่าทำได้ง่าย แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเคยชินของคุณเอง

Expert RAW

s23u-ex

สำหรับฟีเจอร์นี้คือการเพิ่มเติมของกล้องที่จะมีเมนูกดและดาวน์โหลดเพิ่ม โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาเป็น Preset สำหรับถ่ายภาพกลางคืนทั้งถ่ายดวงดาวหรือ Astrograph และการถ่ายภาพที่เป็นแสงน้อยจัดๆ ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดี แต่แนะนำว่า ขาตั้งกล้องต้องมาครับ

ผลงานจากกล้อง Samsung Galaxy S23 Ultra

 batch_20230213_195203
batch_20230213_195206
batch_20230213_195210
batch_20230213_195225
batch_20230213_195230

ภาพกลางวัน : จุดนี้เราจะซูมให้คุณดูด้วยสังเกตว่า AI จะช่วยทำให้ภาพที่ออกมาเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ที่เหลือจะออกโทนอุ่นเล็กน้อย นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะ Samsung Galaxy S23 Ultra สามารถปรับปรุงผ่านทาง Adobe Lightroom for Android

batch_20230212_230611Auto ปิดทุกอย่าง

batch_20230212_230616เปิด Night Mode

batch_20230212_230624เปิด Night Mode (Max)

batch_20230205_165610

ภาพกลางคืน : สังเกตว่าภาพที่ได้จะเก็บรายละเอียดค่อนข้างดี อาจจะมี Noise ถ้าไม่ใช้ Night Mode แต่ภาพรวมแล้วถือว่าเกลี่ยรายละเอียดได้ดี

batch_20230212_195709

batch_20230212_195320

batch_20230212_195447

batch_20230205_152630

batch_20230214_191550

ภาพรูปแบบอื่นๆ เช่นการถ่ายอาหาร, วัตถุใกล้ หรือจะเป็นนางแบบ 

ลองถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า

batch_s23u_fcam

batch_20230202_191350

batch_20230204_135829

เห็นกล้องหน้าลดความละเอียดเหลือที่ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อย่าเพิ่งโห่ร้องไปนะครับ เพราะกล้องรุ่นนี้คือตัวใหม่ที่ใช้กับ S23 ทุกรุ่นพบว่าการโฟกัสและการทำงานต่างๆนั้นถือว่าทำได้ไวกว่าเดิม รับแสงต่างๆ ได้ดีขึ้น

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

batch_s23u_batt

มาถึงเรื่องที่หลายรอคำตอบว่า Galaxy S23 Ultra แบตเตอรี่อึดไหมเพราะ S22 Ultra ยังทำได้ในระดับพอใช้เท่านั้น โดยแบตเตอรี่ของ S23 Ultra จะมีแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ขนาดเท่าเดิมไม่ได้แตกต่าง แต่การออกแบบการใช้พลังงานของ Snapdragon 8 Gen2 For Galaxy ทำให้ประหยัดไฟกว่าเดิม 20% ผลคือมีการชาร์จต่อวันน้อยลงปกติ 2 – 3 รอบถ้าใช้งานหนัก เหลือเพียง 1 รอบเท่านั้น PCMark จาก 100 – 18% ใช้เวลาได้ที่ 15:10 ชั่วโมงเท่านั้น อึดขึ้นชัดเจน

screenshot_20230217_233454_3d

ส่วนระบบชาร์จไฟยังคงเหมือนเดิมคือ 45W แต่ว่าสามารถปรับเรื่องการจ่ายกระแสไฟตามขนาดการชาร์จไฟ โดยถ้าแบตฯต่ำกว่า 35% จะได้กำลังสูงสุด 45W หลังจากนั้นลดลง จนถึง 80% จะลดลงเหลือ 10 – 15W ส่วนไร้สายข่าวร้าย กำลังลดลงเหลือ 10W เท่านั้น แต่ก็ไม่มีผลอะไรมากมาย และรองรับ Wireless Power Share เหมือนเดิม

สรุปหลังใช้งาน Samsung Galaxy S23 Ultra หลังจากสัมผัสมาเป็นระยะเวลากว่า 3 สัปดาห์

batch_img_8226

จากตัวตนที่ตอนบอกตั้งแต่สัมผัสแรกว่า Samsung Galaxy S23 Series คือการปรับปรุงสิ่งที่ S22 ทำไว้แต่ยังมียังมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะ มาวันนี้ Galaxy S23 Ultra คืออีก 1 สิ่งพิสูจน์ว่า หน้าตาไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องบอกว่าเปลี่ยน ข้างในคือความชัดเจนมากกว่า โดยรอบนี้ AI, CPU, Software เมื่อเป็นของจริง ผลงานถือว่าตอบโจทย์ตรงใจ คนส่วนใหญ่ (แม้จะหนักกว่าเดิมก็ตาม)

อาจจะไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมดแต่ภาพรวมก็สร้างความพอใจทั้ง แรง ไม่ร้อน กล้องสวยดี ซูมคมชัดแม่นยำ และยังมาพร้อมกับศักยภาพของ AI ที่รอบนี้ฉลาดมากขึ้น แต่ราคาต้องทำใจกับช่วงเวลานี้ที่ยังจะเป็นไปแบบนี้

  • Samsung Galaxy S23
    • RAN 8GB / 128GB = 30,900 บาท
    • RAM 8GB / 256GB = 33,900 บาท
  • Samsung Galaxy S23+
    • RAM 8GB / 256GB = 37,900 บาท 
    • RAM 8GB / 512GB = 42,900 บาท
  • Samsung Galaxy S23 Ultra
    • RAM 8GB / 256GB = 43,900 บาท
    • RAM 12GB / 512GB = 49,900 บาท
    • RAM 12GB / 1TB = 59,900 บาท

ดังนั้นถ้าให้สรุปทั้งหมด 3 รุ่นนี้ว่าต้องเลือกอะไรดี ก็ตอบตามนี้

  • ไม่ต้องการกล้องที่สุดแต่ต้องการเครื่องเล็กแบตเตอรี่ไว้ใจได้แต่ต้องแรง = Galaxy S23
  • แบตเตอรี่คือสิ่งสำคัญ สเปกบางอย่างไม่เน้น จอใหญ่ได้ก็ดี = Galaxy S23+
  • ที่สุดของตระกูลมีทุกอย่างและติดปากกา S Pen หรืออยากลองกล้อง 200 ล้านพิกเซลดีแค่ไหน = Galaxy S23 Ultra

batch_img_8221

ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกเครื่องยืนยันว่ามันดีจริงสำหรับมือถือเรือธงของปีจาก Samsung ไม่แปลกที่จะใช้คำว่า พี๊คคคค มาเป็นวลีเด็ดนั้นเอง ส่วนการเลือกซื้อจะเป็นแบบไหนช่องทางไหนราคาจบที่เท่าไหร่ เป็นหน้าที่ของคุณแล้วครับที่จะเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นั่นเอง

จุดเด่น

  • การออกแบบคล้ายเดิมทำให้อุปกรณ์เสริมด้านหน้าใช้ด้วยกันได้ (ยกเว้นเคสที่ใส่ด้วยกันไม่ได้นะ)
  • แรงและไม่ร้อนประหยัดไปอีก
  • ระบบปฏิบัติการอัปเกรดนาน ลูกเล่นเยอะ
  • ความปลอดภัยโดดเด่น
  • กล้องเน้นซูมอย่างมากลูกเล่นเยอะ
  • กล้องหน้าสวยขึ้นและทำงานไว
  • วิดีโอกันสั่นทำงานดีตั้งแต่โหมดปกติ
  • ระบบเสียงดังขึ้นกว่าเดิม เลิกบ่นว่าเสียงเบาได้
  • สิทธิพิเศษ Galaxy Gift ที่ใครก็ให้ไม่ได้
  • รุ่น Ultra ได้ความจำเริ่มต้น 256GB จบที่ 1TB เยอะเพียงพอ

ข้อสังเกต

  • หน้าตาไม่แตกต่างทำให้หลายคนบอกว่า มันเหมือนเดิม
  • ระบบชาร์จไฟยังไม่ได้แรงเท่าคู่แข่ง
  • น้ำหนักเยอะพอสมควร
  • ราคาแพงกว่าเดิม
  • ระบบสแกนนิ้วต้องทำใจ Hardware ตัวเดิม ไม่แนะนำให้ติดกระจกกันรอย

อัลบั้มภาพ 65 ภาพ ของ รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือเรือธงขวดเดิม แต่ภายในเปลี่ยนโลก

คุณกำลังดู: รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือเรือธงขวดเดิม แต่ภายในเปลี่ยนโลก

หมวดหมู่: ทบทวน

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด