“วิลล์ สมิธ” ยอมรับฝากแฟนๆ เลิกดูหนังของเขาหลังตบหน้า “คริส ร็อก” กลาง Oscars

02 ธ.ค. 2565 | 21:35 น.

วิลล์ สมิธ ฝากถึงแฟนๆ ว่า เขายอมรับถ้าแฟนๆ จะไม่ดูหนังของเขาอีกแล้ว แต่อยากให้นึกถึงนักแสดงท่านอื่นที่ร่วมงานกับเขาที่อาจได้รับผลกระทบไปด้วย

“วิลล์ สมิธ” ยอมรับฝากแฟนๆ เลิกดูหนังของเขาหลังตบหน้า “คริส ร็อก” กลาง Oscars

วิลล์ สมิธ (Will Smith) ฝากถึงแฟนๆ ว่า เขายอมรับถ้าแฟนๆ จะไม่ดูหนังของเขาอีกแล้ว แต่อยากให้นึกถึงนักแสดงท่านอื่นที่ร่วมงานกับเขาที่อาจได้รับผลกระทบไปด้วย

วิลล์ สมิธ ให้สัมภาษณ์กับช่อง Fox 5 ว่า เขายอมรับว่าหลายคนมีความรู้สึกแตกต่างกันออกไปเมื่อเห็นว่ากลับมามีผลงานภาพยนตร์อีกครั้ง “ผมเข้าใจดีว่าบางคนอาจจะยังไม่พร้อม และผมก็เคารพความรู้สึกนั้นของพวกเขา และยินยอมที่จะให้พวกเขาห่างๆ ไปก่อนถ้าพวกเขายังไม่พร้อม”

วิลล์ สมิธ กำลังเตรียมโปรโมตภาพยนตร์เรื่องล่าสุด Emancipation กำกับโดย อองตวน ฟูคัว (Antoine Fuqua) ซึ่งเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกหลังจากที่เกิดเหตุตบหน้า คริส ร็อก (Chris Rock) ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรกลางงานประกาศรางวัล Oscars

นาทีฉาวออสการ์ 2022 “วิลล์ สมิธ” ตบ “คริส ร็อก” กลางเวที หลังภรรยาถูกล้อเลียน

วิลล์ สมิธ กล่าวว่า “แต่สิ่งที่ผมกังวลที่สุดคือ ทีมของผม อองตวน (ผู้กำกับ) ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เขาคิดว่าดีที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมาตลอดระยะเวลาที่เขาทำงานในวงการนี้มา คนในทีมได้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดเท่าทีเคยเคยทำออกมา ผมจึงหวังว่าการกระทำในอดีตของผมจะไม่ส่งผลกระทบทีมงานจนเป็นเหมือนการลงโทษพวกเขาไปด้วย”

“ดังนั้น ในจุดนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ สิ่งที่ผมกำลังคาดหวังอยู่ ผมหวังว่าภาพยนตร์ พลังของภาพยนตร์ ไทม์ไลน์ของเรื่องราว ผมหวังว่าผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นอย่างดีจะช่วยเปิดใจของผู้ชมให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเหล่าศิลปินและสนับสนุนพวกเขาหลังได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้”

ภาพยนตร์เรื่อง Emancipation เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการหนีออกจากการเป็นทาสของ Gordon หรือที่รู้จักกันในชื่อ Whipped Peter ผู้ปรากฏในภาพถ่ายชื่อดังที่เผยให้เห็นแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากการถูกเฆี่ยนตี ภาพถ่ายอันน่าตกใจนี่เผยแพร่ไปทั่วโลกในปี 1863 จุดชนวนกระแสลัทธิการล้มเลิกระบบทาส

Emancipation ถูกเลื่อนฉายจากเดือนพฤษภาคม เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวิลล์ สมิธ และ คริส ร็อก ในงาน Oscars แต่ได้กลับมาฉายแบบจำกัดโรงภาพยนตร์ที่อเมริกาในวันที่ 2 ธันวาคม ก่อนจะเข้าสตรีมมิ่งของ Apple TV+ ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้