วิธีไล่กลิ่นอับชื้นในห้องโดยสารหลังขับลุยน้ำท่วมขัง

อ่านเอาเรื่อง วิธีไล่กลิ่นอับชื้นในห้องโดยสารหลังลุยน้ำท่วมขังบนถนน

ฝนกระหน่ำกรุงเทพฯในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำฝนกว่า 100 มิลลิเมตรที่ตกลงมา สร้างปัญหาให้กับท่านผู้ว่าฯ ในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นผิวจราจร เมื่อขับลุยน้ำท่วมสูงเกินกว่า 30 มิลลิเมตร รถเก๋งที่มีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถไม่มากอาจเกิดปัญหาน้ำซึมเข้ามาที่พรมปูพื้น และเมื่อปล่อยทิ้งไว้ก็ต้องเจอกับกลิ่นอับชื้นไม่พึงประสงค์ที่ทำให้เสียอารมณ์เวลาขับ

ปัญหาน้ำซึมเข้ารถจนพรมปูพื้นเปียกชื้น โดยเฉพาะพรมหนาราคาแพงหรือเบาะผ้า เมื่อขับรถลุยน้ำท่วมสูงกลับบ้านแล้วน้ำเข้ารถ พรมเปียกชื้นและตามมาด้วยกลิ่นเหม็นอับ วิธีแก้ที่ง่ายที่สุด คือ ขับรถไปคาร์แคร์ที่รับทำความสะอาดพรมหลังการลุยแหลกแหวกน้ำ ให้คาร์แคร์ซักล้างพรม การทำความสะอาดในจุดดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรถยุโรปราคาแพงที่อาจโดนชาร์จเพิ่มเนื่องจากความร่ำรวยและความแพงของรถที่โดนน้ำซึมเข้าไปในพรมปูพื้น ค่าทำความสะอาดพรมและภายในที่เปียกชื้น เริ่มต้นที่ 3,000 ไปจนถึง 5,000 บาท หรืออาจมากกว่านั้นถ้าโดนมาหนัก แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินในยุคที่ต้องระวังในการใช้จ่ายมีวิธีทำความสะอาดพรมปูพื้นหลังน้ำท่วมมาฝากกันครับ

ถอดอุปกรณ์ต่างๆ ออกเพื่อถอดพรมออกมาทำความสะอาด
เมื่อน้ำเข้ารถ พรมปูพื้นจะรับกรรมก่อนเพื่อน จึงต้องมีการถอดทุกสิ่งที่เปียกออก อันนี้ไม่แนะนำให้ทำหากไม่มีเครื่องมือและความชำนาญในการถอด โดยเฉพาะเบาะไฟฟ้าที่มีสายไฟเชื่อมต่อรุงรัง ใช้บริการคาร์แคร์ หรือศูนย์บริการที่มีความชำนาญจะดีกว่ามาเสี่ยงทำเอง การถอด พรม อุปกรณ์ต่างๆ ที่เปียกชื้นเนื่องจากน้ำเข้ารถ เพื่อให้พื้นในรถไม่มีจุดให้น้ำขังอีกต่อไป

ทำความสะอาดแล้วผึ่งแห้งด้วยการตากแดดจัด
เมื่อมีความชำนาญและถอดอุปกรณ์ออกหลังน้ำเข้ารถแล้ว ก็ควรทำความสะอาดและทำให้แห้งเร็วที่สุดด้วยการตากแดดแรงๆ 2-3 วัน ส่วนจุดที่ชื้นแฉะในห้องโดยสาร ต้องซับน้ำออกให้หมด แล้วใช้ไดร์เป่าให้แห้งสนิท เสร็จแล้วก็ขับไปจอดตากแดดแรงๆ เหมือนเดิมสัก 2-3 วัน เวลาจอด ควรเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อทำให้ภายในแห้งสนิท จะได้ไม่มีกลิ่นอับชื้น

กลิ่นอับชื้นหลังน้ำท่วม ทำอย่างไรให้หาย?
เมื่อผึ่งแดดมาหลายวันจนภายในและพรมแห้งสนิทดีแล้ว อาจเกิดกลิ่นอับชื้นตามมาในภายหลังที่ ในกรณีที่ไม่ได้ทำให้ภายในและอุปกรณ์ต่างๆ ที่โดนความชื้นแห้งไม่สนิท วิธีกำจัดกลิ่นในรถ เริ่มจากใช้ถ่านดูดกลิ่นและความชื้น เลือกใช้สเปรย์ดับกลิ่น หรือใช้การบูรเพื่อดับกลิ่นอับ และสุดท้าย นำรถกลับไปตากแดดต่อ จนกว่าจะแห้งสนิทจริงๆ งานนี้ถ้ามีการตากเนื้อแดดเดียวชุบน้ำปลาดีร่วมไปด้วย เวลาทอดกินแกล้มเครื่องดื่มเย็นๆ จะได้ไม่เสียอารมณ์และพาลไปถึงท่านผู้ว่าฯ หน้าใหม่ละครับ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: วิธีไล่กลิ่นอับชื้นในห้องโดยสารหลังขับลุยน้ำท่วมขัง

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์