จีนเตือนสงครามราคา EV ปี 67 จะยิ่งแรงขึ้น เหตุยอดผลิตล้นตลาดและต้นทุนแบตถูกลง

จีนออกโรงเตือนถึงสถานการณ์สงครามหั่นราคารถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด ว่าปีนี้จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตที่ล้นตลาดมากจนเกินไป

คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน หรือ National Development and Reform Commission (NDRC) คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีรถยนต์เปิดตัวใหม่มากกว่า 150 รุ่น โดยจำนวนนี้จะมีรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV : New Energy Vehicle) จำนวนกว่า 110 รุ่น ส่งผลให้การแข่งขันด้านการตลาดรุนแรงมากยิ่งขึ้น

NDRC ยังคาดการณ์ด้วยว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ปีนี้จะเติบโตขึ้น 2.1 ล้านคัน ขณะที่ 3 ค่ายรถยนต์ยักษใหญ่อย่าง BYD, Aito และ Li Auto ตั้งเป้ายอดส่งมอบภายในปี 2024 เป็น 2.3 ล้านคัน ส่อแววปริมาณการผลิตล้นตลาดที่อาจนำไปสู่สงครามหั่นราคาที่ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การที่แบตเตอรี่มีราคาถูกลง และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจนทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงนั้น ถือเป็นอีก 2 ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการหั่นราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเมืองเซินเจิ้นในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศพบว่ามีการหั่นราคาตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 10% เลยทีเดียว

NRDC ยังระบุด้วยว่า BYD และ Denza ถือเป็นสองแบรนด์ที่มีการหั่นราคาจำหน่ายมากที่สุดในเดือนเมษายน โดยปรับลดราคาทั้งหมด 5 รุ่นลงตั้งแต่ 7.15% ไปจนถึง 9.7% เทียบกับราคาจำหน่ายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ Li Auto จำเป็นต้องหั่นราคาจำหน่ายรถ 4 รุ่นลงมาด้วยเช่นกัน

 

คุณกำลังดู: จีนเตือนสงครามราคา EV ปี 67 จะยิ่งแรงขึ้น เหตุยอดผลิตล้นตลาดและต้นทุนแบตถูกลง

หมวดหมู่: รถยนต์