ง่วงนอนบ่อยๆ สัญญาณ 6 โรคอันตรายที่คุณอาจกำลังเผชิญโดยไม่รู้ตัว

14 พ.ค. 2566 | 23:56 น.

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมสภา ผู้แทนราษฎรในวันที่ 23-24 ก.ย. มีวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ....ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันของสองสภาได้แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหา อาทิ หมวด 1 มาตรา 7 การกำหนดวันออกเสียงประชามติ ต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 120 วัน นับแต่วันที่ประกาศให้มีการออกเสียงในราชกิจจานุเบกษา และภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศให้มีการออกเสียงใด ถ้ามีผู้มีสิทธิออกเสียงเห็นว่า การให้มีการออกเสียงนั้นไม่น ไปตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย สามารถฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ มาตรา 10 การออกเสียงที่จะถือว่า เป็นข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชา มตินั้น

หมวด 9 การคัดค้านการออกเสียง มาตรา 36 ผู้มีสิทธิออกเสียง หากเห็นว่า การออกเสียงในหน่วยใดเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม มีสิทธิยื่นคำคัดค้านโดยมีรายละเอียดแห่งพฤติการณ์หรือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการออกเสียงนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ภายใน 48 ชั่วโมง นับแต่การลงคะแนนออกเสียงสิ้นสุดลง มาตรา 37 เมื่อ กกต. รับคำคัดค้านแล้ว ให้พิจารณาสอบสวนโดยพลัน หากเห็นว่า การออกเสียงดังกล่าว ไม่สุจริตให้มีคำสั่งให้ออกเสียงใหม่ในหน่วยนั้น โดยต้องไม่ช้ากว่า 30 วัน นับแต่วันออกเสียง และคำวินิจฉัยของ กกต. ตามมาตรานี้ ให้เป็นที่สุด.