อาการคนท้อง ระยะแรกเป็นอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีตรวจตั้งครรภ์

อาการคนท้อง ระยะแรกเป็นอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีตรวจตั้งครรภ์

อาการคนท้องระยะแรก ใน 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ เป็นอาการที่คุณสังเกตเองได้ หากเริ่มมีอาการเพลีย ง่วงนอน อารมณ์แปรปรวน ก็ควรติดตามประจำเดือนว่าจะมาหรือไม่ พร้อมซื้อที่ตรวจครรภ์เตรียมไว้

อาการคนท้องระยะแรก

อาการคนท้องระยะแรก ประกอบด้วย อาการคัดเต้านม, ปวดท้อง, เมื่อยล้า, ท้องอืด, อารมณ์แปรปรวน, ไม่อยากอาหาร หรืออยากอาหารมากกว่าปกติ, นอนไม่หลับ หรือนอนมากกว่าปกติ, ปวดหัว, ฝันร้าย ฯลฯ อาจไม่เป็นเหมือนกันทุกคน

อาการคนท้อง 3 วัน

ระยะเวลา 3 วัน ยากเกินกว่าจะสังเกตว่าตัวเองตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะบางครั้งไข่เพิ่งตกยังไม่ได้รับการผสม อสุจิมีชีวิตอยู่ในช่องคลอดได้ถึง 5 วัน ดังนั้นช่วงเวลาที่ชัดเจนที่สุดคือ 1 สัปดาห์ขึ้นไปหลังมีเพศสัมพันธ์ จึงจะสังเกตอาการท้องได้

อาการคนท้อง 3 วัน ที่คลุมเครือ คือความกังวลใจ เพราะมาจากการเฝ้าสังเกตตัวเองถี่ๆ จึงเกิดเป็นความเครียด บางคนเก็บไปฝันร้าย หรือฝันเป็นลางว่าได้แหวน ได้สร้อย จึงคิดว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ และหากเป็นช่วงใกล้มีประจำเดือน จะทำให้แยกยากระหว่างอาการคนท้อง กับ อาการก่อนมีประจำเดือน (PMS : Premenstrual Syndrome) มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่อาการคนท้องจะเป็นนานกว่าและต่อเนื่อง เช่น อาการคัดเต้านม, รู้สึกเหนื่อยล้า, ง่วงนอน เป็นต้น แต่อาการคนท้องจะเป็นยาวนานกว่า กินยาไม่หาย เพียงแค่บรรเทาลง

อาการคนท้อง 1 สัปดาห์

  • ตกขาวมากกว่าปกติ

คนที่ไม่เคยมีตกขาว อาจพบตกขาวในช่วงนี้ และอาจมีเลือดล้างหน้าเด็กติดมากับกางเกงชั้นใน เพื่อความสะดวกในการสังเกต ก็อาจใส่แผ่นอนามัยระหว่างวัน เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่ออกทางประจำเดือน มีลักษณะเป็นจุด ไม่เยอะเท่าประจำเดือนในวันแรกๆ เป็นสัญญาณบอกว่าปฏิสนธิแล้ว

  • ง่วงนอน

อาการง่วงนอนในช่วงสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ จะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารแต่ละมื้อ คล้ายกับการง่วงหลังรับประทานยาแก้แพ้ แม้ว่าจะดื่มกาแฟ หรือออกกำลังกายก็ยังมีอาการง่วงอยู่ คุณแม่ที่ขับรถเองต้องระวังการหลับใน

  • เมื่อยล้า

คนท้องระยะแรกมีอาการเมื่อยล้าคู่กับอาการง่วง ล้าในลักษณะอ่อนเพลีย บางคนเป็นตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ ซึ่งควรปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต กินอาหารที่หลากหลาย เลือกออกกำลังกาย เดิน ว่ายน้ำ แต่งดการยกของหนัก

  • ตัวรุมๆ แต่ไม่ได้เป็นไข้

อาการคนท้องสัปดาห์แรกอาจรู้สึกร้อนวูบทั้งตัว เป็นช่วงๆ เหมือนใส่เสื้อผ้าที่อบอ้าวเกินไป แต่เกิดจากร่างกายที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเพียง 1-2 วันก็หายได้เอง ครั่นเนื้อครั่นตัว ลักษณะคล้ายคนเริ่มเป็นไข้

  • อารมณ์แปรปรวน

หญิงตั้งครรภ์จะมีอารมณ์แปรปรวนได้ ทั้งอารมณ์เสีย หงุดหงิด กังวล เศร้า อารมณ์ขึ้นลงเร็ว หากมีอารมณ์ด้านลบที่ส่งผลต่อตัวเองและสุขภาพเกิน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษา วินิจฉัยเบื้องต้น

อาการคนท้อง 2 สัปดาห์

  • มีเลือดออกจากช่องคลอด

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังกับเยื่อบุโพรงมดลูก อาจมีเลือดออกมาเล็กน้อย สีคล้ำคล้ายช็อกโกแลต หากมีเลือดออกลักษณะนี้มาในช่วงที่ไม่ใช่ช่วงที่มีประจำเดือน อาจเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ชัดเจน

  • คัดเต้านม

ผู้หญิงที่ผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วจะรู้สึกจี๊ดที่บริเวณลานนม และคัดเต้านม ส่วนผู้หญิงที่ไม่เคยผ่านการตั้งครรภ์จะมีอาการตึงทั่วเต้านม อาการนี้สังเกตยาก บางคนเป็นช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้าย ผู้หญิงบางคนเต้านมขยายเร็วมาก หากไม่เปลี่ยนไซส์บราจะรู้สึกอึดอัด

  • อยากอาหารมากกว่าปกติ หรือไม่อยากอาหาร

สาวๆ ลองสังเกตตัวเองว่าอยากรับประทานอาหารมากกว่าปกติหรือเปล่า เห็นอะไรก็ดูน่าอร่อยไปหมด หรือบางคนกลับกัน ไม่อยากกินอะไรเลย

  • น้ำหนักขึ้นหรือลง

สาวๆ หลายคนน้ำหนักคงที่คงวา ถ้าขึ้นแล้วก็ไม่ลง ถ้าลงแล้วนานกว่าจะขึ้น แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ส่วนมากจะน้ำหนักขึ้นเพราะต้องรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของทารก ช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์หากไม่แพ้ท้องก็จะกินอาหารได้เยอะ น้ำหนักขึ้นจนสังเกตได้

อาการคนท้อง 1 เดือน ถึง 3 เดือนแรก

  • จมูกไว

สาวๆ ที่เริ่มตั้งครรภ์จะมีจมูกที่ไวต่อกลิ่น แม้จะเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่หากตั้งครรภ์แล้วก็จะรู้สึกเปลี่ยนไป เช่น กลิ่นน้ำหอมที่เคยใช้ กลิ่นสบู่ บางคนแพ้กลิ่นสามีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ For men

  • เวียนศีรษะ

ช่วงนี้ว่าที่คุณแม่ลุกนั่งแล้วอาจจะหน้ามืดเร็วหน่อย เวียนศีรษะ ตาลาย เพราะเลือดกำลังไหลเวียนดี เพราะฉะนั้นจึงควรลุกนั่งเบาๆ ออกกำลังกายที่ไม่หักโหม

  • กระหายน้ำ

ร่างกายของว่าที่คุณแม่ต้องการน้ำเพื่อไปเติมเต็มเซลล์ต่างๆ จึงจะรู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น บางคนอยากกินน้ำหวานๆ ตลอดเวลา ให้ระวังน้ำตาลขึ้นด้วย

  • ปวดปัสสาวะบ่อย

อาการคนท้องที่ปวดปัสสาวะบ่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป และการดื่มน้ำมากด้วย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ และไม่ควรงดน้ำที่ดื่ม เพื่อให้ร่างกายได้สร้างสมดุลอย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ท้องผูก ท้องอืด

ฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร และมดลูกขยายตัวไปกดทับลำไส้ใหญ่ ทำให้คุณแม่มีลมในท้อง ปวดท้อง ย่อยยาก ช่วยบรรเทาได้ด้วยอาหารที่มีกากใยสูง และผลไม้ที่มีวิตามินซี บวกกับต้องดื่มน้ำมากๆ

วิธีตรวจตั้งครรภ์

การใช้ที่ตรวจตั้งครรภ์เพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์นั้น ซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์จากร้านค้า ร้านขายยาทั่วไป โดยบรรจุภัณฑ์ไม่เสียหาย ไม่หมดอายุ

นำมาใช้ตรวจในช่วงเช้า โดยปัสสาวะทิ้งไปก่อนเล็กน้อย รองปัสสาวะที่เหลือด้วยถ้วยที่มีมาให้ มีวิธีการดังนี้

1. เตรียมพื้นที่ห้องน้ำให้พร้อม
2. อ่านฉลากที่ตรวจตั้งครรภ์ ว่าเป็นที่ตรวจแบบใด ได้แก่ แบบจุ่ม, แบบปากกา และแบบปัสสาวะผ่าน
3. เมื่อจุ่มปัสสาวะแล้ว วางที่ตรวจตั้งครรภ์ทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่เขียนไว้บนฉลาก แล้วอ่านผล
4. หากขึ้น 2 ขีดจางๆ ก็แปลว่าตั้งครรภ์ แต่ควรตรวจซ้ำใหม่ ใช้ที่ตรวจอันใหม่ หรือยี่ห้ออื่น เพื่อยืนยัน
5. หากขึ้น 2 ขีดชัด ก็ค่อนข้างชัวร์ว่าตั้งครรภ์
6. หากขึ้นขีดเดียว แปลว่ายังไม่ตั้งครรภ์ แต่ถ้าขีดนั้นไม่ได้ขึ้นตรงตัว C ให้เปลี่ยนที่ตรวจอันใหม่

การฝากครรภ์ หลังตรวจตั้งครรภ์ขึ้นแล้วนั้น ส่วนใหญ่แพทย์จะให้ฝากครรภ์ช่วง 8-10 สัปดาห์ขึ้นไป แต่คุณแม่สามารถไปพบแพทย์เพื่อรับวิตามิน และคำแนะนำสำหรับดูแลตัวเองก่อนได้เลย บางสถานพยาบาลมีแพ็กเกจฝากครรภ์ ควรจ่ายในช่วง 12 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ค่อนข้างชัวร์แล้วว่าเด็กปลอดภัย

อย่างไรก็ดี การจดบันทึกวันประจำเดือนมานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะแยกช่วงเวลาตั้งครรภ์ได้ดีที่สุด ควรจดบันทึกเพื่อนับวันตกไข่ และบันทึกเป็นข้อมูลสุขภาพ เพื่อใช้ในการติดตามรักษาอาการโรคสตรีอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาการตั้งครรภ์ได้ด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

คุณกำลังดู: อาการคนท้อง ระยะแรกเป็นอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีตรวจตั้งครรภ์

หมวดหมู่: แม่และเด็ก

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด