10 ที่เที่ยวศรีลังกา ดินแดนที่ถูกยกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดแห่งปีจาก Lonely Planet
10 ที่เที่ยวศรีลังกาที่คุณไม่ควรพลาด อารยธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิต ที่ยังรอให้ทุกคนไปสัมผัสอยู่
ศรีลังกา ประเทศในแถบเอเชียใต้ ที่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินนักกับการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศนี้ ซึ่ง Sanook! Travel เราได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมทริปการลงนาม MOU การร่วมมือระหว่างประเทศของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวศรีลังกา และได้ถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวในประเทศศรีลังกาด้วย ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกสำหรับดินแดนอารยธรรมอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าการเดินทางในครั้งนี้ได้เปลี่ยนความคิดของเราต่อประเทศศรีลังกาไปตลอดกาล ไปดูกันว่าประเทศที่ถูกยกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดแห่งปีของ Lonely Planet นี้ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1.Colombo City
นี่คือหนึ่งในไฮไลท์ของศรีลังกาที่คุณจะได้ซึมซับศิลปะวัฒนธรรมและประวัติความเป็นมาอันยาวนานของประเทศนี้จากเมืองหลวง Colombo เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์สีสัน ทั้งตึกรามบ้านช่องที่โดดเด่นแปลกตา เป็นสไตล์บริทิชโคโลเนียล เนื่องจากว่าศรีลังกานั้นเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษอยู่หลายร้อยปี ทำให้ยังมีกลิ่นอายศิลปะผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ผู้คนที่น่ารักและยิ้มแย้มต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มาเที่ยวศรีลังกาลองแวะไปเดินชมเมืองโคลอมโบ หรือจะนั่งรถสามล้อชมเมืองก็สามารถทำได้ แต่ต้องตกลงราคากับทางคนขับให้ดีเสียก่อน
2.Independence Square (จัตุรัสแห่งอิสรภาพ)
หนึ่งในจุดเช็กอินต้องห้ามพลาดในเมืองโคลอมโบนั่นก็คือ Independence Square หรือจัตุรัสแห่งอิสรภาพ สัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสรภาพของชาวศรีลังกาต่อประเทศอังกฤษ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948 ถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศศรีลังกาเลยทีเดียว
Google Map : Independence Square
3.Jami Ul Alfar Mosque (มัสยิดแดง)
มัสยิดแดง หรือ "Jami Ul Alfar Mosque" Ig Spot อันโด่งดังของศรีลังกา เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยเห็นรูปของมัสยิดแดงแห่งนี้ผ่านทางไอจีท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกหลายๆ คนกันมาบ้างแล้ว มัสยิดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามและแปลกตามากๆ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1909 มีการใช้สีแดงและขาวสลับกันเป็นลายขวาง มองดูแล้วคล้ายกับสีลูกกวาดเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีรูปทรงการออกแบบที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตา เหมาะจะใช้เป็นแบ็คกราวด์ในการถ่ายภาพ เพื่อเก็บความทรงจำกลับไปจากศรีลังกากัน
Google Map : Jami Ul Alfar Mosque
4.Gangaramaya Temple (วัดคงคาราม)
วัดคงคาราม วัดไทยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในศรีลังกา เป็นวัดไทยนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ภายในวัดมีความสงบร่มเย็นและเต็มไปด้วยศิลปะทางพระพุทธศาสนาอันทรงคุณค่ามากมาย เช่น พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองที่ประดิษฐานอยู่ด้านในพระอุโบสถพร้อมกับจิตกรรมฝาผนังที่ดูสวยงามอลังการเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้หน่อต้นมาจากต้นศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาอินเดียด้วย และพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่าแก่ทั้งวัตถุมงคล และสิ่งของเครื่องใช้ ที่ทางวัดได้เก็บรวบรวมเอาไว้ให้เราได้เดินศึกษาประวัติความเป็นมาได้อย่างน่าสนใจ
Google Map : Gangaramaya Temple
5.วัดไทยพระปฐมเจดีย์ศรีลังกา
ออกจากตัวเมืองโคลอมโบ แวะมาเที่ยวที่วัดไทยพระปฐมเจดีย์ศรีลังกากันบ้าง วัดแห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นวัดไทยแท้ๆ ที่เราคุ้นชินตากันในเมืองไทย ตั้งแต่พระอุโบสถรวมไปถึงองค์พระเจดีย์ที่มีรูปทรงคล้ายพระปฐมเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเมื่อได้ทราบถึงประวัติความเป็นมา ก็ทำให้เราได้ถึงบางอ้อ เพราะว่า พระสีวลี ที่เป็นเจ้าอาวาสของวัดนี้ ท่านได้มีโอกาสไปจำพรรษาที่วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐมนั่นเอง หลังจากนั้นท่านจึงได้กลับมาสร้างวัดไทยในแผ่นดินบ้านเกิด จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมองค์เจดีย์ของวัดนี้จึงมีลักษณะคล้ายกับองค์พระปฐมเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม
6.วัด Kelaniya Raja Maha Vihara (วัดกัลณียาราชมหาวิหาร)
มาต่อกันที่อีกหนึ่งวัดสำคัญของศรีลังกา ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่ชาวพุทธในศรีลังกาให้การนับถือมากที่สุด วัดกัลณียาราชมหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ 1,900 กว่าปีที่แล้ว เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวศรีลังกาเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูป ได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชา ในบริเวณวัดมีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าบรรจุพระแท่นบัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร
นอกจากนี้ยังมีวิหารที่ทุกคนจะต้องสะดุดตาด้วยความวิจิตรตระการตาของศิลปะแบบศรีลังกา ภายในมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ที่ศิลปินชื่อดังของศรีลังกาได้อุทิศเวลากว่า 20 ปีในการรังสรรค์งานศิลปะบนผนังนี้ และที่สำคัญด้านในวิหารยังประดิษฐานพระสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ให้ประชาชนได้มากราบไหว้กันอีกด้วย ใครที่มาเที่ยวศรีลังกาต้องห้ามพลาดมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้
Google Map : Kelaniya Raja Maha Vihara
7.Dambulla (วัดถ้ำดัมบูลลา)
มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งศรีลังกา ที่เราอยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง วัดถ้ำ Dambulla เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของศรีลังกา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อขึ้นไปที่วัดประมาณ 15 นาที ทางเดินเป็นพื้นปูนไล่ไปตามระดับความชันของภูเขาเดินได้ง่ายๆ
ด้านบนเราจะได้พบกับความมหัศจรรย์ระหว่างธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ ภาพที่เห็นคือภูเขาหินขนาดใหญ่ยักษ์ที่ถูกเจาะแบ่งออกเป็น 5 ห้อง กลายเป็นวัดถ้ำที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศรีลังกาเอาไว้มากมาย ทั้งพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่ถึง 49 เมตร จิตกรรมฝาผนังสุดตระการตาบอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา เจดีย์ที่มีรูปทรงดูแปลกตา และพระรูปเหมือนจริงของพระราชาผู้สร้างวัดถ้ำ DamBulla แห่งนี้ขึ้นมา ความรู้สึกที่ได้มาเที่ยวที่วัดถ้ำ Dambulla แห่งนี้นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของสถานที่แล้ว ยังได้ซึมซับประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมของศรีลังกาอีกด้วย
Google Map : Dambulla
8.Sigiriya (พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา)
ห่างจากวัดถ้ำ Dambulla มาประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าเข้าสู่
Sigiriya พระราชวังลอยฟ้าสุดยิ่งใหญ่ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นอนุสรณ์สถานคนบาปลูกฆ่าพ่อเพื่อชิงราชสมบัติ
โดยประวัติการสร้างพระราชวังแห่งนี้นั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1020
พระเจ้ากัสสปะได้ทรงกระทำการชิงราชสมบัติจากพระราชบิดาของตัวเองนั่นก็คือพระเจ้าธาตุเสน
และได้จับพระราชบิดาขังไว้ในคุกแล้วโบกปูนทับทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จนพระราชบิดาถึงแก่ชีวิต
หลังจากนั้นพระเจ้ากัสสปะจึงได้ได้ขึ้นครองราชย์และได้มีรับสั่งให้สร้างพระราชวังขึ้นบนภูเขา
Sigiriya อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยใช้เวลาในการสร้างนานถึง 7
ปีด้วยกัน พระเจ้ากัสสปะครองราชย์อยู่ได้นานถึง 18 ปีก็ได้ถูก
พระโมคคัลาน์
พระอนุชาต่างมารดาที่ทรงลี้ภัยไปอยู่ที่อินเดียเมื่อครั้งพระเจ้ากัสปะยึดราชสมบัตินั้น
ยกทัพจากอินเดียเพื่อมาชิงเอาราชสมบัติขึ้น
กองทัพของพระโมคคัลาน์ได้ปิดล้อมภูเขา Sigiriya
แห่งนี้เอาไว้อย่างเหนียวแน่น
พระเจ้ากัสสปะหมดหนทางสู้จึงได้ปลิดชีพตัวเองตายในพระราชวังแห่งนี้ในที่สุด
หลังจากนั้นพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกปล่อยให้รกร้างก่อนที่ พันเอกเบส
ฟอร์เบส นายทหารของอังกฤษ
จะได้เข้ามาค้นพบความลับกลางป่าใหญ่แห่งนี้เมื่อศตวรรษที่ 19
และได้ทำการสำรวจจนพบร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมายที่ภูเขาแห่งนี้
และเกิดการสำรวจอย่างละเอียดตามมาในยุคต่อจากนั้นจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันภูเขา Sigiriya ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของศรีลังกา ที่ผู้คนต่างอยากจะเดินทางมาเพื่อพิชิต การจะขึ้นสู่ยอดเขา Sigiriya นี้จะต้องเดินผ่านเส้นทางบันไดสูงชันกว่า 2,200 ขั้น ระหว่างทางคุณจะสามารถชมวิวบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่บริเวณนี้ได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีภาพวาดจิตกรรมบนผนังหินที่ถือได้ว่าเป็นภาพวัดทางประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ และก่อนที่จะขึ้นสู่ยอดของภูเขา Sigirya เราจะได้พบกับประตูสิงห์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมเท้าสิงห์ขนาดใหญ่ยักษ์อยู่ข้างทางขึ้นสู่ยอดเขา เป็นหนึ่งในมุมถ่ายรูปสุดอันซีนที่ดูน่าเกรงขามมากๆ
ใช้เวลาเดินขึ้นไปบนยอดเขา Sigiriya แห่งนี้ประมาณ 30 นาที เราจะได้พบกับร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณ ของพระราชวังลอยฟ้า ที่ยังคงหลงเหลือรากฐานให้เราได้เห็น ซึ่งแค่มองจากฐานของสิ่งปลูกสร้างแล้วก็พอจะจินตนาการได้เลยว่าเมื่อครั้งอดีตนั้นพระราชวังแห่งนี้จะยิ่งใหญ่มากเพียงใด ความยิ่งใหญ่ของที่นี่นั้น หลายๆ คนยกให้เป็น Machu Picchu แห่งเอเชีย เลยทีเดียว และนอกจากความยิ่งใหญ่ตระการตาของซากปรักหักพังพระราชวังลอยฟ้าแห่งนี้แล้ว ด้านบนยังถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย จากจุดนี้เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ความสมบูรณ์ของป่าไม้ในศรีลังกา รวมไปถึงภูเขาน้อยใหญ่ที่สลับซับซ้อนกันไปมา เป็นภาพบรรยากาศที่สร้างความทรงจำให้แก่ผู้มาเยือนได้อย่างน่าประทับใจ หากจะถามว่าในการมาเที่ยวศรีลังกาครั้งนี้สถานที่ไหนที่เราชอบมากที่สุด เราขอยกให้ที่นี่เป็น The Best ของทริปนี้เลยก็ว่าได้ ใครกำลังวางแผนอยากมาเที่ยวศรีลังกาต้องไม่พลาด พระราชวังลอยฟ้าแห่งนี้
Google Map : Sigiriya
9.Geragama Tea Factory
หนึ่งในของขึ้นชื่อของศรีลังกาที่มาแล้วต้องลองนั่นก็ชื่อ Ceylon
Tea หรือชาซีอลนนั่นเอง
โดยเราจะพาทุกคนไปชมตั้งแต่ต้นทางการผลิตชาซีลอนที่ Geragama Tea
Factory โรงงานผลิตชาที่มีชื่อเสียงในเมือง Kandy
ที่นี่เราจะได้เห็นกระบวนการผลิตชาซีลอนชั้นดี
ตั้งแต่การคัดเลือกยอดชาไปจนถึงการคัดแยกเกรดของชาแต่ละตัวก่อนจะนำบรรจุภัณฑ์
นอกจากนี้ภายในโรงงานยังมีโซนร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อชาซีลอนไปเป็นของฝาก
รวมไปถึงมีสาธิตการชงชาให้ทานกันด้วยบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบการดื่มชาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้นฟินแน่นอน
Goegle Map : Geragama Tea Factory
10.Temple of the Sacred Tooth Relic (วัดพระเขี้ยวแก้ว)
วัดพระเขี้ยวแก้วถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง Kandy เมืองหลวงเก่าของประเทศศรีลังกา เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อพระพุทธศานาสนาในประเทศศรีลังกาเป็นอย่างมาก มีประวัติเล่าว่าเมื่อปี พ.ศ. 913 เจ้าชายทันตกุมาร และเจ้าหญิงเหมชาลา แห่งแคว้นกาลิงคะ ในอินเดีย ได้แอบซ่อนพระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นพระเขี้ยวแก้วด้านซ้ายของพระพุทธเจ้า หนีไปยังเกาะลังกา หรือประเทศศรีลังกาในปัจจุบัน ตามพระบัญชาของพระบิดาพระเจ้าคุหเสวราช เพราะพระธาตุเขี้ยวแก้วนี้เป็นที่ต้องการของเมืองต่างๆ มาก อาจก่อให้เกิดสงครามการแย่งชิงพระธาตุเขี้ยวแก้วได้ พระเจ้าคุหเสวราช เห็นว่าเกาะลังกานั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการจะประดิษฐานพระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ให้ปลอดภัยจึงได้มีพระบัญชาดังกล่าว
จนถึงปัจจุบันนี้พระธาตุเขี้ยวแก้วได้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของศรีลังกาที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันเดินทางมาเพื่อสักการะบูชาในทุกๆ วัน โดยการเข้าชมพระธาตุเขี้ยวแก้วนั้นทางวัดจะเปิดให้เข้าชมเพียงแค่ 2 ช่วงเวลาต่อวันเท่านั้น นั่นก็คือในช่วง 6 โมงเช้า และ 6 โมงเย็นของแต่ละวัน จึงทำให้มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวศรีลังกาและประเทศอื่นต่างพร้อมใจกันมารอเข้าชมพระธาตุเขี้ยวเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เป็นพลังแห่งความเชื่อและความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่มากๆ เราได้เห็นภาพของความศรัทธานี้ ทั้งบรรยากาศที่น่าเลื่อมใส และความงดงามตระการตาของสิ่งปลูกสร้างภายในวัดพระเขี้ยวแก้ว ก็ทำให้รู้สึกขนลุกไปกับอารยธรรมอันยิ่งใหญ่แห่งนี้จริงๆ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของศรีลังกาที่ควรมาเยือนสักครั้งในชีวิต
Google Map : Temple of the Sacred Tooth Relic
และทั้งหมดนี้ก็คือความงดงาม ความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมศรีลังกา สถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยังคงรอให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ไปสัมผัส ถึงแม้ว่าศรีลังกาจะเพิ่งมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้น แต่ผู้คนในเมืองก็เข้มแข็งพอที่จะลุกขึ้นมาพัฒนาและฟื้นฟูการท่องเที่ยวกันในทุกภาคส่วนทั้งในภาครัฐบาลและเอกชน ผู้คนยังคงรอคอยนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เรากล้าพูดเลยว่าผู้คนเป็นมิตรและน่ารักมากๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิตเป็นอย่างดี การเดินทางก็สะดวกสบาย มีสายการบินจากไทยสามารถบินตรงไปลงที่ศรีลังกาได้หลายสายการบิน และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวสายแบ็คแพ็คเกอร์นั่นก็คือค่าครองชีพที่ถูกมากๆ เมื่อเทียบกับเมืองไทย สามารถวางแผนไปเที่ยวกันได้แบบประหยัดงบ ที่นี่มีทั้งวัดวาอารามที่สวยงาม มีธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเลที่ยังคงดิบและอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยผิดคาดจากภาพที่เราคิดไว้มากๆ โดยรวมแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดินแดนแห่งอารยธรรมผืนนี้ถึงได้ถูกยกให้เป็นประเทศน่าเที่ยวประจำปีจากนิตยสาร Lonely Planet ประสบการณ์ในครั้งนี้เราอยากจะให้ทุกคนได้ลองเปิดใจและลองมาเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์แบบเราดู แล้วคุณจะรู้ว่าศรีลังกานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
คุณกำลังดู: 10 ที่เที่ยวศรีลังกา ดินแดนที่ถูกยกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดแห่งปีจาก Lonely Planet
หมวดหมู่: เที่ยวต่างประเทศ