20 จุดกางเต็นท์เดินทางง่าย บรรยากาศดี หนาวนี้ต้องไม่พลาด
เปิดพิกัดจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติและจุดกางเต็นท์ยอดนิยมทั่วไทยบรรยากาศดี เดินทางง่าย จะไปทั้งครอบครัวหรือกับแก๊งเพื่อนก็ถูกใจสายแคมปิ้ง
เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว หนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวคือ การแคมปิ้ง ซึ่งจุดกางเต็นท์ สำหรับแคมปิ้งในไทยนั้นมีหลายพื้นที่ ทั้งจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติหรือของเอกชนให้เลือกได้ตามใจชอบ เหมาะสำหรับการเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ชมธรรมชาติ และดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ไม่ว่าจะเที่ยวกับครอบครัว เพื่อน หรือคนรักก็ประทับใจไม่ลืม
20 จุดกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ ลานกางเต็นท์ยอดนิยม เดินทางง่าย
1. สวนยายเภาแคมปิ้ง
จุดกางเต็นท์นครนายก เดินทางง่าย ใกล้เมืองกรุง
และมีสิ่งอำนวยความสะดวก ไฟฟ้า
ร้านขายอาหารและเครื่องดื่มเตรียมพร้อมไว้ให้ สำหรับผู้ใหญ่จะคิดราคา
200 บาท/คน/คืน และสำหรับเด็กจะคิดราคา 100 บาท/คน/คืน
ซึ่งหากใครอยากมากางเต็นท์ที่นี่จะต้องติดต่อจองเต็นท์ผ่านทางเฟซบุ๊กเท่านั้น
2. ปางหวัน โฮมสเตย์
หากใครที่ต้องการเที่ยวจุดกางเต็นท์เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
และมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้เลือกทำ แนะนำให้แวะมาที่ปางหวัน
โฮมสเตย์ หนึ่งในจุดกางเต็นท์ราชบุรี โดยราคาจะเริ่มที่ 630 บาท/คืน
ซึ่งล่าสุดจะมีการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต ร้านค้า
และร้านอาหารพื้นถิ่นให้นักท่องเที่ยวมาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
3. APO Camp Life นครนายก
จุดเด่นของจุดกางเต็นท์นครนายกอย่าง APO Camp Life
คือ จะมีการจัดโซนกางเต็นท์ไว้ 3 โซนได้แก่โซนปกติ โซนบ้านพัก
และโซนริมน้ำ ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำเย็นๆ ได้ นอกจากนี้
ที่นี่ก็มีการอำนวยความสะดวกด้านไฟฟ้าให้ต่อพ่วงหลายจุดและมีห้องน้ำรองรับเพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย
4. อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
นอกจากการได้เดินป่าหรือเที่ยวบริเวณน้ำตกแล้ว
ที่นี่ยังมีการจัดพื้นที่จุดกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
และมีการจัดกิจกรรมนันทนาการที่ลานนับดาวทุกคืนวันเสาร์ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก
โดยค่าเข้าบริการผู้ใหญ่ 20 บาท/คนและค่ากางเต็นท์ 30
บาท/คน/คืนเท่านั้น
5. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
บริเวณชั้น 7
หรือชั้นน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจะมีการจัดพื้นที่จุดกางเต็นท์
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว
โดยสามารถชมความงามของธรรมชาติและเล่นน้ำตกได้ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้คิดค่าเข้า 100 บาท/คน และคิดค่ากางเต็นท์เพียง 30บาท/คน
เท่านั้น
ซึ่งหากใครที่ไม่มีอุปกรณ์หรือชุดกางเต็นท์ก็สามารถเช่าของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ได้เช่นกัน
6. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร
จ.ประจวบคีรีขันธ์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักและชื่นชอบการเที่ยวทะเล
แต่นอกจากทะเลสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีจุดกางเต็นท์
อุทยานแห่งชาติหาดวนกรไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ
ก็สามารถมากางเต็นท์ นอนฟังเสียงคลื่นริมทะเล
พร้อมกับดื่มด่ำธรรมชาติแทนได้
7. Farm & Ford Camping and Chilling
อีกหนึ่งจุดกางเต็นท์สระบุรีที่ได้รับความนิยมจากสายแคมปิ้ง
เนื่องจากเดินทางง่าย ใกล้เมืองกรุง มีลำธารไหลผ่าน
ทำให้สามารถเล่นน้ำได้อย่างจุใจ เหมาะสำหรับการมาแคมปิ้งแบบครอบครัว
ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 150 บาท/คน/คืน เท่านั้น
และหากใครที่ไม่อยากค้างคืน แต่อยากมาดื่มด่ำบรรยากาศดีๆ เล่นน้ำ
และพักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติก็สามารถเข้ามาเล่นน้ำได้ในราคา 50
บาท/คน
8. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว หนึ่งในที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมของ
จ.เพชรบุรี คือ จุดกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
เนื่องจากบรรยากาศดี
สามารถชมความงามของทะเลหมอกยามเช้าได้จากวิวบนยอดเขาพะเนินทุ่ง
นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เจอกับเหล่าสัตว์ป่า
ซึ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
9. Campfire Cafe Khao Yai
แคมป์ไฟ คาเฟ่
เป็นทั้งคาเฟ่บรรยากาศดีและเป็นจุดกางเต็นท์เขาใหญ่ที่เปิดให้บริการหลายโซน
เช่น โซนลานกว้างล้อมรอบด้วยต้นไม้ ลานริมน้ำ หรือลานสนามหญ้า
สามารถเลือกพื้นที่ได้ตามความชอบ ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบการฟังดนตรีสด
ท่ามกลางธรรมชาติ
ที่นี่ก็มีกิจกรรมดนตรีสดทุกวันพฤหัสบดีถึงวันจันทร์
10. ริมธารา แคมปิ้ง
ริมธารา
แคมปิ้งเป็นจุดกางเต็นท์ราชบุรีที่ได้รับความนิยมสูง
เนื่องจากเปิดให้บริการทั้ง 2 โซน ได้แก่
โซนริมน้ำให้ได้นั่งชิลหรือทำกิจกรรมริมน้ำ และโซนป่าสน
ให้บรรยากาศดีเหมือนอยู่ต่างประเทศ
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ดี
จุดเด่นของที่นี่คือ สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักได้
เพียงแต่ต้องดูแลควบคุมไม่ให้เดือดร้อนต่อผู้เข้าพักคนอื่นๆ
11. Camp Tales Cafe - Glamp n Grill
Chonburi
หากอยากเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติและเดินทางสะดวก
จุดกางเต็นท์ชลบุรีก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจ
เพราะมีจุดกางเต็นท์บรรยากาศดี เห็นวิวธรรมชาติอย่างภูเขา ท้องฟ้า
และน้ำ พร้อมทั้งมีคาเฟ่บริการเครื่องดื่มและอาหาร อย่างไรก็ดี
หากใครที่ชอบทำกิจกรรม ที่นี่ก็มีซัพบอร์ดพร้อมกับคุณครูสอนในราคา 300
บาท/ชั่วโมงด้วย
12. ดอยเสมอดาว
ดอยเสมอดาว อยู่ภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาดูความงามของพระอาทิตย์ขึ้น
เนื่องจากที่นี่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 888 เมตร
ทำให้เห็นวิวธรรมชาติได้ 360 องศา
นอกจากนี้ที่นี่จะมีพื้นที่แบบขั้นบันไดให้กางเต็นท์
หรือถ้าหากใครที่ไม่มีอุปกรณ์กางเต็นท์ก็สามารถเช่าของอุทยานได้
หรือสามารถจองบ้านพักได้เช่นกัน
13. ลานกระซิบจันทร์ อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
ลานกระซิบจันทร์ จุดกางเต็นท์เขาค้อ
ตั้งอยู่บนยอดเขา ภายในอุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
สถานที่แห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าและมีพื้นที่จำกัด
ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและผู้ต้องการความสงบ
ทั้งนี้ หากใครที่ไม่มีอุปกรณ์กางเต็นท์ ก็สามารถเข้าจองห้องพักบ้าน
A-Frame ที่ทางอุทยานแห่งชาติจัดเตรียมไว้ให้บริการได้เช่นกัน
14. ธารทิวผา ชลบุรี
ธารทิวผาเป็นจุดกางเต็นท์ชลบุรี มีสนามหญ้าและพื้นที่กว้างขวาง
บริเวณโดยรอบมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้ง ลำธาร ทิวไผ่ และภูเขา
สามารถทำกิจกรรม กางเต็นท์ ตลอดจนนั่งชิล
พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่
ใครที่กำลังมองหาจุดกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ
และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ควรพลาดที่นี่
15. จุดกางเต็นท์ไปรษณีย์เขาค้อ
หากใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงตู้ไปรษณีย์สีแดง
สำหรับส่งจดหมายหรือโปสต์การ์ดเป็นของฝาก
จุดกางเต็นท์ไปรษณีย์เขาค้ออยู่บริเวณยอดเขาค้อ
ทำให้สามารถชมวิวท้องฟ้า ภูเขา และหมอกด้านล่างได้อย่างชัดเจน
อีกทั้งยังมีการตั้งตู้ไปรษณีย์สีแดง
สำหรับส่งจดหมายหรือโปสต์การ์ดเป็นของฝาก
ทำให้กลายเป็นแลนด์มาร์กและจุดเช็กอินสำคัญ สำหรับสายแคมปิ้ง
16. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
หลายๆ คนอาจจะรู้จักอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจากเขาช้างเผือก
การเดินป่า หรือน้ำตก ซึ่งนอกจากจุดแลนด์มาร์กสำคัญเหล่านี้แล้ว
ยังมีจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ให้บริการทั้งโซนลานกางเต็นท์และโซนบ้านพักในอัตราค่าบริการผู้ใหญ่ 40
บาท/คน และเด็ก 20 บาท/คน
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติหรือสายแคมปิ้งที่ต้องการประหยัดงบ
17. ออลแคมป์ สระบุรี
ลานกางเต็นท์ริมน้ำบรรยากาศดี
มีแคมป์ไฟขนาดใหญ่ให้นั่งล้อมวงพูดคุยหรือทำความรู้จักเพื่อนใหม่
นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบยังกว้างขวาง เหมาะสำหรับทำกิจกรรม
ใครที่กำลังมองหาจุดกางเต็นท์สระบุรี ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
ไม่ว่าจะมากับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนก็ประทับใจแน่นอน
18. Baan Khun Yai Camping
บ้านคุณยาย แคมปิ้งเป็นจุดกางเต็นท์ริมแม่น้ำนครนายก
มีพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุด หรือถ้าใครที่มาแล้วอยากทำกิจกรรมอื่นๆ
ร่วมด้วย ที่นี่ก็มีทั้งการขับรถ ATV การล่องแก่ง การตกปลา
อย่างไรก็ดี หากใครที่อยากแวะมาเที่ยวที่นี่
จะต้องจองพื้นที่กางเต็นท์ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ก่อนเท่านั้น
19. สายธารและขุนเขา
สำหรับจุดกางเต็นท์ราชบุรีที่สายแคมปิ้งไม่ควรพลาดอีกที่หนึ่งคือ
สายธารและขุนเขา เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว
ยังมีกิจกรรมให้อาหารสัตว์ เช่น แพะ เต่า การพายเรือคายัค
ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ อีกหลากหลาย
โดยที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม
20. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลยมี 3 โซน ได้แก่
โซนหน่วยพิทักษ์วังกวาง โซนศรีฐาน และโซนค่ายเยาวชน
โดยราคาของที่พักจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับใครที่อยากมาแคมปิ้ง
ชมธรรมชาติบนยอดภู ก็สามารถจองคิวขึ้นภูกระดึงและจองที่พักล่วงหน้าได้ด้วยตนเอง
ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2566
สุดท้ายนี้ จุดกางเต็นท์แต่ละพื้นที่จะมีกฎหรือเงื่อนไขในการเข้าพักหรือแคมปิ้งแตกต่างกันออกไป ดังนั้น จึงควรเคารพและปฏิบัติตามกฎนั้นๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ไม่เดือดร้อนนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าพักคนอื่นๆ.
กิจกรรมอื่นๆ ที่แนะนำจาก Klook
Klook.comคุณกำลังดู: 20 จุดกางเต็นท์เดินทางง่าย บรรยากาศดี หนาวนี้ต้องไม่พลาด
หมวดหมู่: เที่ยว-กิน