33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!

ชี้เป้า 33 ประเทศคนไทยสามารถไปเที่ยวได้แบบฟรีวีซ่าอัปเดตล่าสุดปี 2566

33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!

อยากไปเที่ยวต่างประเทศช่วงวันหยุด หรือลาพักร้อน แต่ก็ไม่มีเวลาเตรียมตัวมาก ยิ่งถ้าประเทศไหนต้องยุ่งยากหลายขั้นตอนกับการยื่นขอ วีซ่า ท่องเที่ยว อยากไปแค่ไหนก็เป็นอันต้องโบกมือบ๊ายบายกันไป วันนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะมาเสนอทางเลือกที่สะดวกสบายกว่า กับการไปเที่ยว ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับคนไทย ถือพาสปอร์ตไทย ไป ทัวร์ต่างประเทศ ได้หลายวันแบบชิล ๆ ไม่ต้องรอนาน มีประเทศไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

ทวีปเอเชีย

1.ลาว : เที่ยวได้ 30 วัน

ลาว เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของคนไทยอย่างเราเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะเป็น ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า แล้ว ยังเดินทางง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับ ทัวร์ต่างประเทศ อื่น ๆ ภาษาและวัฒนธรรมของลาวก็ใกล้เคียงกับบ้านเรา แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้เที่ยวได้ตลอดปี เช่น เวียงจันทน์ วังเวียง ปากเซ หลวงพระบาง และอีกมากมาย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : หลวงพระบาง อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของลาว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา รายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือน วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมและเป็นเอกลักษณ์

2.กัมพูชา : เที่ยวได้ 14 วัน

อีกหนึ่ง ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า และเป็นเพื่อนบ้านใกล้ไทยอย่าง กัมพูชา ดินแดนแห่งอารยธรรม สถาปัตยกรรม และเทวสถานเก่าแก่นับพันปีแห่งนี้ ปัจจุบันยังรายล้อมไปด้วยความงดงามทางด้านต่าง ๆ ทั้งศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงามควรค่าแก่การเยี่ยมชม

ที่เที่ยวไฮไลท์ : นครวัด นครธม เมืองเสียมราฐ ปราสาทหินเก่าแก่สวยงาม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ใช้เวลาสร้างและแกะสลักลวดลายทุกส่วนอย่างละเอียด และประณีตนานกว่า 100 ปี

3.เมียนมาร์ : เที่ยวได้ 14 วัน (เฉพาะเดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ)

เมียนมาร์ หรือ พม่า ไข่มุกเม็ดงามอีกแห่งหนึ่งของเอเชีย ที่เพิ่งจะพาความงดงามของทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมของวัดวาอารามที่เก่าแก่ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวน ทะเลสาบอินเล หาดงาปาลี ภูเขาโปปา ฯลฯ

ที่เที่ยวไฮไลท์ : ทะเลเจดีย์ที่อาณาจักรพุกาม ภาพเจดีย์น้อยใหญ่นับพันองค์ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณพื้นที่กว้างใหญ่ เป็นความสวยงามที่หาชมได้ที่พม่าเท่านั้น

4. เวียดนาม : เที่ยวได้ 30 วัน

เวียดนาม เป็นหนึ่งในประเทศน่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในเอเชีย ห่างจากไทยเพียงชั่วโมงกว่า ๆ แต่ได้เต็มอิ่มกับที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ มากมาย ตั้งแต่ภูเขาสวย ไปจนถึงชายหาดและทะเลทราย ไม่ว่าจะเป็นฮานอย ฮอยอัน มุยเน่ ดาลัด โฮจิมินห์ และเมืองอื่น ๆ ที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวใกล้ ๆ ที่คนไทยไม่ต้องขอ วีซ่า ท่องเที่ยว ให้เสียเวลาด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : อ่าวฮาลอง มรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโก อยู่ไม่ไกลจากเมืองฮานอย, ชมนาขั้นบันไดที่เมืองซาปา, บานาฮิลล์ ที่เที่ยวยอดฮิตบนยอดเขาในเวียดนามกลาง และไป ทัวร์เวียดนาม ชมดอกไฮเดรนเยีย ที่เมืองดาลัด

5. ฟิลิปปินส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

ฟิลิปปินส์ ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 7,641 เกาะ โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตก ชายหาด และทะเลสวย ๆ มากมาย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : เกาะเซบู ที่นี่จัดว่าเป็นไฮไลท์ของฟิลิปปินส์เลยก็ว่าได้ มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำมากมาย เช่น กิจกรรมลุย ๆ แบบ Canyoning ตะลุยน้ำตกสีเทอร์ควอยซ์ที่ Kawasan Falls และดำน้ำกับฉลามวาฬที่ Oslob

6. มาเลเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

มาถึง ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ทางตอนใต้ของไทยเรากันบ้าง มาเลเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวง่าย มีความทันสมัย รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมมากมาย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : เก็นติ้ง ไฮแลนด์ เป็นนครที่อยู่บนเขา ดินแดนที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยความสนุกและความบันเทิงมากมาย ทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า โรงหนัง ดิสโก้ คาสิโน รวมถึงมีหน้าผาจำลอง และเครื่องเล่นจำลองการกระโดดร่มแห่งเดียวในเอเชีย

7. อินโดนีเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรมากสุดเป็นอันดับ 4 และมีหมู่เกาะมากที่สุดในโลก มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้ง

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Mount Bromo หรือภูเขาไฟโบรโม ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทงเกอร์มาสซีฟ บนเกาะชวาตะวันออก แม้ปัจจุบันภูเขาไฟแห่งนี้ยังคุกรุ่นอยู่ แต่ความงดงามที่สะกดทุกสายตาก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนทุกปี และอีกหนึ่งที่เที่ยวฮิตก็ต้องไป ทัวร์บาหลี เลยค่ะ

8. สิงคโปร์ : เที่ยวได้ 30 วัน

สิงคโปร์ เป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมไว้ได้อย่างลงตัว มีความทันสมัย เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ และมีความเจริญสูงสุดในระดับแนวหน้าของโลก อยากเที่ยวใกล้ ๆ ไม่ต้องลางานเยอะ ต้องไป ทัวร์สิงคโปร์ เลยค่ะ

ที่เที่ยวไฮไลท์ : ถ่ายรูปชิค ๆ ที่ Gardens by the Bay หรือ สวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Singapore และชมการแสดงไฟสุดอลังการบนอ่าว Marina Bay Sands เป็นอีกหนึ่งสีสันของสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

9. ฮ่องกง : เที่ยวได้ 30 วัน

ฮ่องกง เมืองที่ไม่เคยหลับใหล จัดเป็นสวรรค์ที่นักช้อป ที่ต้องมา ทัวร์ฮ่องกง กันสักครั้ง แถมยังโด่งดังเรื่องการไหว้ขอพรต่าง ๆ และสวนสนุกระดับโลกอย่าง Hong Kong Disneyland ด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : วัดหวังต้าเซียน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบเซนที่งดงาม ขึ้นชื่อเรื่องการไหว้ขอพร โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและเนื้อคู่

10. มาเก๊า (เขตปกครองพิเศษของจีน) : เที่ยวได้ 30 วัน

มาเก๊า เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของจีน นอกจากคาสิโนสุดอลังการที่คนมา ทัวร์มาเก๊า รู้จักกันดีแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีกลิ่นอายของประเทศแถบตะวันตกผสมผสานกับความเป็นจีนได้อย่างลงตัว

ที่เที่ยวไฮไลท์ : ประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) สัญลักษณ์ประจำมาเก๊า เดิมที่นี่เคยเป็นหนึ่งในโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงซากประตูด้านหน้าของอาคารให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม

11. มณฑลไห่หนาน – จีน : เที่ยวได้ 30 วัน

มณฑลไห่หนาน หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “เกาะไหหลำ” เป็นเกาะทางตอนใต้ของจีน ล้อมรอบด้วยทะเลสวยๆ บรรยากาศดีจนได้ชื่อว่า “ฮาวายแห่งเอเชียตะวันออก” นักท่องเที่ยวชอบมาพักผ่อนตากอากาศกันที่นี่ และก็ยังมีที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมโบราณ ผสมผสานกับที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ อีกเพียบ

ที่เที่ยวไฮไลท์ : วัดหนานซาน (Nanshan Temple) วัดเก่าแก่ตั้งอยู่ติดทะเล เป็นสวนพุทธธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีน พื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม สูง 108 เมตร ตั้งอยู่กลางทะเล

12. เกาหลีใต้ : เที่ยวได้ 90 วัน

เกาหลีใต้ จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถไป ทัวร์เกาหลี ได้เต็มอิ่มถึง 90 วัน โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก่อนเดินทางต้องลงทะเบียน K-ETA ให้ผ่าน มีค่าธรรมเนียม 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท) โดยเมื่อลงทะเบียนผ่านแล้ว K-ETA ของเราจะมีอายุ 2 ปี หรือตามอายุที่เหลือของพาสปอร์ต และสามารถเข้าเกาหลีได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

ที่เที่ยวไฮไลท์ : โซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ศูนย์รวมความบันเทิงต่าง ๆ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทันสมัย พระราชวัง แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารและสตรีทฟู้ดอร่อย ๆ

13. ญี่ปุ่น : เที่ยวได้ 15 วัน

ประเทศยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดก็ต้องยกให้ ทัวร์ญี่ปุ่น เพราะมีทั้งธรรมชาติที่สวยงามตลอดปี สามารถเที่ยวได้ทั่วประเทศอย่างไม่มีเบื่อ แถมไม่ต้องเสียเวลา ขอ วีซ่า ท่องเที่ยว ให้ยุ่งยากอีกด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : โตเกียว เมืองหลวงทันสมัย จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี และเป็นศูนย์รวมความบันเทิงทุกรูปแบบ พร้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง อาหารรสเลิศ และสวนสนุกระดับโลก Tokyo Disneyland และ Tokyo Disney Sea

14. ไต้หวัน : เที่ยวได้ 14 วัน (ตั้งแต่ 1 ส.ค. 65 – 31 ก.ค. 66)

ตั้งแต่ที่ไต้หวันได้ประกาศยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าให้คนไทย ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิต ที่คนปักหมุดไป ทัวร์ไต้หวัน เป็นประเทศที่มีทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม ศิลปะ ค่าครองชีพก็ไม่แพง แถมเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งดี ๆ ธรรมชาติสวย ๆ และอาหารแสนอร่อยมากมาย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : ตึก Taipei 101 สัญลักษณ์แห่งไทเป ที่เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูง 449 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ถ้ามาไทเปต้องแวะไปถ่ายรูปกับตึกนี้นะคะ

15. บรูไน : เที่ยวได้ 14 วัน

บรูไน เป็นประเทศเล็ก ๆ แต่มีความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ สถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมและธรรมชาติอันสวยงาม

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque มัสยิดที่สร้างโดยสุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟัดดินที่ 3 มีความหรูหราสวยงาม ก่อสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวจากอิตาลี หินแกรนิตจากเซี่ยงไฮ้ มีแชนเดอเลียร์จากอังกฤษ และตัวยอดโดมใช้แผ่นทองคำถึง 3.3 ล้านแผ่น

16. กาตาร์ : เที่ยวได้ 30 วัน

กาตาร์ ประเทศล่าสุดที่เปิดฟรีวีซ่าให้กับคนไทย เป็นดินแดนเล็ก ๆ ของคาบสมุทรอาระเบีย มีความเป็นเมืองสมัยใหม่และเป็นย่านธุรกิจชั้นดี เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ถูกเรียกขานว่า “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย”

ที่เที่ยวไฮไลท์ : The Museum of Islamic Art หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม โดฮา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานศิลปะของวัฒนธรรมอิสลาม อาทิ เอกสารทางประวัติศาสตร์ อัญมณี วัสดุเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากเหล็ก แก้ว ไม้ งาช้าง หิน สิ่งทอ เป็นต้น

17. บาห์เรน : เที่ยวได้ 14 วัน

บาห์เรน ประเทศเกาะในอ่าวเปอร์เซีย โดยมีสะพานเชื่อมต่อกับประเทศซาอุดิอาระเบียที่อยู่ห่างกันประมาณ 28 กิโลเมตร มีสถานที่ท่องเที่ยว และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Al Fateh Grand Mosque เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในบาห์เรน และใหญ่เป็นอับดับ 17 ของโลก

18. มัลดีฟส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับประเทศอินเดียและศรีลังกา ภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาว ใต้ทะเลที่สมบูรณ์ เหมาะแก่การมาดำน้ำ ดูปะการัง และพักผ่อนกับทะเลแสนสวย ที่ไม่เหมือนที่ไหนอีกด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Ari Atoll หมู่เกาะยอดนิยมในมัลดีฟส์ ห่างจากตัวเมือง Male 30 นาที เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทดังมากมาย มีจุดดำน้ำที่สวยงาม และกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย

19. มองโกเลีย : เที่ยวได้ 30 วัน

มองโกเลีย เป็นดินแดนแห่งธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ และทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ ทางตอนเหนืออยู่ติดกับรัสเซียและจีน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทั้งทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย มีพื้นที่ทั้งหมด 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร หรือใหญ่ประมาณรัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา!

20. จอร์เจีย : เที่ยวได้ไม่เกิน 365 วัน

จอร์เจีย เป็น ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า และคนไทยสามารถท่องเที่ยวได้นานถึง 1 ปี! หรือ 365 วัน ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียฝั่งตะวันตก ใกล้กับทวีปยุโรป ติดกับรัสเซียและตุรกี อุดมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นเทือกเขาที่มีความงามระดับโลก

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Gergeti Trinity Church โบสถ์เก่าแก่กลางหุบเขาคอเคซัส สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร โอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติที่สวยงามอย่างไม่มีที่ไหนเหมือน

21. คีร์กีซ เที่ยวได้ 60 วัน (ตั้งแต่ 1 ส.ค. 64 – 31 ธ.ค. 68)

คีร์กีซ ประเทศในแถบเอเชียกลาง ติดกับประเทศจีน คาซัคสถาน ทาจิกีสถาน และอุซเบกิสถาน ประเทศนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเล ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีที่ราบและทะเลสาบ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับนักเดินทางที่อยากไปเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ แบบได้สัมผัสธรรมชาติ

ที่เที่ยวไฮไลท์ : สัมผัสวิถีชีวิตแบบคนพื้นเมือง เข้าพักในบ้านกระโจมที่เรียกว่า เยิร์ต (Yurt) และที่เที่ยวธรรมชาติต่างๆ

22. ทาจิกิสถาน : เที่ยวได้ 30 วัน

อีกหนึ่งประเทศในเอเชียกลางที่หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ ก็คือ ทาจิกิสถาน ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า เป็นประเทศที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติสนุกๆ ทั้งการเดินป่า ปีนเขา แคมป์ปิ้ง เหมาะกับสายลุย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : หุบเขาฟาน (Fann Mountain) เขตภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และ ทะเลสาบอิสกันเดอร์ (Iskanderkul)

ทวีปแอฟริกา

แอฟริกาใต้ เป็นประเทศอิสระที่อยู่ตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนาและเผ่าพันธุ์ มีภาษาที่ใช้เป็นภาษาทางการถึง 11 ภาษา โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมือนยกเอาสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมารวมเอาไว้ในที่แห่งเดียว

ที่เที่ยวไฮไลท์ : อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับชีวิตของสัตว์ป่าได้ดีที่สุดในแอฟริกา

24. เซเชลส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

หมู่เกาะ เซเชลส์ รู้จักกันในนาม Paradise on Earth ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 115 เกาะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หาดทรายสีขาว และน้ำทะเลสีฟ้าใส ที่สำคัญคือเกาะนี้เคยเป็นที่ฮันนีมูนของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : เกาะ La Digue ที่ตั้งของหาด Anse Source d’Argent ชายหาดที่สวยติดอันดับโลกจากการจัดอันดับของ National Geographic น้ำทะเลสีฟ้าใสจนเห็นตัวปลาและหาดทรายสีขาวของที่นี่ สวยงามจนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยว

ทวีปอเมริกาเหนือ

25. ปานามา : เที่ยวได้ 180 วัน

ปานามา ตั้งอยู่ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นศูนย์กลางทางการเงินของละตินอเมริกา มีสถาบันการเงินระดับใหญ่ โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

ที่เที่ยวไฮไลท์ : คลองปานามา เป็นคลองเดินเรือสมุทรยาว 77 กิโลเมตร เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติก ใช้เวลาสร้างกว่า 34 ปี นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของในโลกสมัยใหม่และเป็นหนึ่งในวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ทวีปอเมริกาใต้

26. บราซิล : เที่ยวได้ 90 วัน

บราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย รวมถึงเป็นบ้านของนักฟุตบอลระดับโลกด้วย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Cristo Redentor ประติมากรรมพระเยซูสุดอลังการบนยอดเขากอร์โกวาดู ในกรุงริโอเดจาเนโร เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกราวๆ 1,800,000 คนต่อปี

27. เอกวาดอร์ : เที่ยวได้ 90 วัน

อีกหนึ่ง ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ของทวีปอเมริกาใต้ เอกวาดอร์ ตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน ทำให้ทั้งประเทศได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดปี มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในลักษณะของพื้นที่ภูเขา ป่าฝน และชายฝั่งทะเลแปซิฟิก

ที่เที่ยวไฮไลท์ : หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) หมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลายสายพันธุ์ รวมถึงสัตว์หายาก ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วย

28. อาร์เจนตินา : เที่ยวได้ 90 วัน

อาร์เจนตินา สวรรค์ของนักเดินทางทั่วโลกในอเมริกาใต้ รายล้อมไปด้วยเมืองหลวงที่มีมนต์เสน่ห์ ไปจนถึงเมืองอาณานิคมอันเงียบสงบ โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย

ที่เที่ยวไฮไลท์ : El Calafate เมืองเล็ก ๆ ทางใต้ของอาร์เจนตินา ใกล้กับอุทยานแห่งชาติติลอสกลาเซียเรส มีธารน้ำแข็ง Perito Moreno Glacier เป็นที่เที่ยวยอดฮิต

29. ชิลี : เที่ยวได้ 90 วัน

ชิลี เจ้าของสถิติประเทศที่ยาวที่สุดในโลก! มีความยาวกว่า 4,300 กิโลเมตร แต่กว้างเพียง 180 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของภูมิประเทศ ตั้งแต่ทะเลทราย ภูเขาไฟ ไปจนถึงธารน้ำแข็ง

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Easter Island เกาะโด่งดัง เป็นที่ตั้งของรูปปั้นหินโมอาย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อย่างชายหาดที่สวยงาม และภูเขาไฟให้เที่ยวชมกันด้วย

30. เปรู : เที่ยวได้ 90 วัน

เปรู ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ พื้นที่ในประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและป่าเขา
ที่เที่ยวไฮไลท์ : มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่เรียกกันว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา บนเทือกเขาที่ระดับความสูงประมาณ 2,350 เมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

ทวีปโอเชียเนีย (หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก)

31. วานูอาตู : เที่ยวได้ 30 วัน

ประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 83 เกาะ เป็นประเทศที่มีทั้งทะเลและภูเขาไฟ เป็นฉากหลังที่สวยงาม และยังเคยติดอันดับประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลกด้วย
ที่เที่ยวไฮไลท์ : ดำน้ำดูปะการังตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเกาะจะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ทั้งปะการังสีสันสดใส ปลานีโม่ และซากเรือรบที่จมลงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ทวีปยุโรป

32. ตุรกี : เที่ยวได้ 30 วัน

ตุรกี ประเทศสองทวีปที่มีพื้นที่อยู่ในทวีปยุโรปและเอเชีย เป็นประเทศที่สวยงามด้วยมรดกโลก ตำนาน และประวัติศาสตร์ แหล่งอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ ผู้คนเป็นมิตร อาหารอร่อย เป็นเมืองที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

ที่เที่ยวไฮไลท์ : คัปปาโดเกีย เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ โดดเด่นเรื่องภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามแปลกตาราวกับเป็นดินแดนในเทพนิยาย ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมา ทัวร์ตุรกี ก็คือการขึ้นบอลลูนชมวิวสวยๆ ของเมืองนั่นเองค่ะ

33. รัสเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

รัสเซีย เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในดินแดนยูเรเซียคาบเกี่ยวระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย มีการผสมผสานวัฒนธรรมและศิลปะ ความเป็นยุโรปและเอเชียเอาไว้ได้อย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์

ที่เที่ยวไฮไลท์ : Moscow Kremlin หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า เครมลิน เป็นคำที่ใช้เรียกตึกและป้อมปราการบริเวณใจกลางกรุงมอสโก เป็นเขตมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1990

ประเทศที่สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้

โบลิเวีย : เที่ยวได้ 30 วัน
ฟิจิ : เที่ยวได้ 4 เดือน
จอร์แดน : เที่ยวได้ 30 วัน
คีร์กีซสถาน : เที่ยวได้ 15 วัน / 1 เดือน
เนปาล : เที่ยวได้ 15 / 30 / 90 วัน
นีอูเอ : เที่ยวได้ 30 วัน
โอมาน : เที่ยวได้ 30 วัน
หมู่เกาะโซโลมอน : เที่ยวได้ 3 เดือน
ติมอร์-เลสเต : เที่ยวได้ 30 วัน

*** หมายเหตุ : การขอ Visa on Arrival อาจมีค่าธรรมเนียมตามแต่ละประเทศ และข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบกับประเทศปลายทางให้แน่ชัดอีกครั้งก่อนเดินทาง ***

เป็นยังไงกันบ้างคะ มีประเทศไหนสนใจอยากไปเที่ยวแล้วหรือยังเอ่ย ? ถ้ามีแล้วก็เตรียมวางแผน ลางาน และจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย แต่ว่าถ้ายุ่งมาก ๆ งานรัดตัวจนไม่มีเวลาเตรียมตัวจริง ๆ การเลือกเดินทางกับทัวร์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกมาก ๆ ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกให้คุณได้ และมัชรูมทราเวลก็มี ทัวร์ต่างประเทศ มากมายให้เลือกสรรกันด้วยค่ะ

ส่วนใครอยากไปเที่ยวประเทศนอกเหนือจากนี้ ที่ต้องทำการขอวีซ่าก่อนไปเยือน เราก็มี บริการยื่น วีซ่า ท่องเที่ยว และ วีซ่าธุรกิจ ขอวีซ่า เชงเก้น ด้วยเช่นกัน มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาและดำเนินการให้คุณได้รับความสะดวกและรวดเร็วในทุกขั้นตอน สนใจติดต่อมัชรูมเข้ามาได้เลยค่ะ

คุณกำลังดู: 33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!

หมวดหมู่: เที่ยวต่างประเทศ

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด