"4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก" ความสนุกของ 7 ตัวท็อปที่รวมตัวฉีกภาพจำเพื่อความสนุก (วันที่สอง)

เปิดภาพความสนุกจากงาน 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก ของ 7 ศิลปินมากฝีมือที่ออกจากคอมฟอร์ตโซนจนแฟนๆ สนุกสุดๆ

"4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก" ความสนุกของ 7 ตัวท็อปที่รวมตัวฉีกภาพจำเพื่อความสนุก (วันที่สอง)

เป็นเวลาเกือบทศวรรษแล้วที่ 4 ผู้ชนะ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น, กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และ ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ได้รวมตัวในฐานะสมาชิกกลุ่ม 4 โพดำผ่านรายการวาไรตี้ และคอนเสิร์ตซีรีส์ ที่แม้ว่าจะมีช่วงที่แต่ละคนเติบโตในงานตัวเอง ทั้งการร้องเพลง พิธีกร ไปจนถึงงานแสดง และรวมถึงเคสของโดมที่ทำธุรกิจส่วนตัวกับผู้บริหารค่ายเพลง และเมื่อถึงเวลาเหมาะสม ทั้ง 4 ได้รวมตัวในงาน คอนเสิร์ต 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก โดย Change Showbiz

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

และในงานครั้งนี้ คอนเสิร์ต 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก ก็มีตัวละคร 3 ดอกจิกอย่าง อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์,  เบน-ชลาทิศ ตันติวุฒิ และ ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ ที่เหมือนกับ แก้ม-กัน-ตั้ม-โดม ในแง่พรสวรรค์การร้องเพลงด้วยเสียงมีพลัง และสไตล์การร้องกับเนื้อเสียงเอกลักษณ์ที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกเพลงที่ร้องเป็นเพลงตัวเอง และยังมีฝีมือการแสดงและดำเนินรายการกับโชว์ได้ลื่นไหล จนถือเป็นคู่ปรับที่คู่ควรกัน

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

ในการแสดงวันที่ 2 โชว์ได้เริ่มขึ้นด้วยเพลง “Unholy” ของ Sam Smith ของทีม 3 ดอกจิก และตามด้วย 4 โพดำ ที่มากับเพลง “Stand by หล่อ” ของ New Country ที่ร้องได้เป็นตัวเองสุดๆ ก่อนที่การปะทะคารมของสองฝั่งจะเริ่มขึ้น ซึ่งงานนี้อ๊อฟ และ ตั้ม ถือเป็นตัวเปิดของแต่ละฝั่ง ก่อนที่จะเข้าถึงการร้องเพลงรวม “This Is Me” ที่ทั้ง 7 ตั้งใจร้องเพื่อสื่อถึงความแตกต่างที่สวยงามของกลุ่มผู้ชม

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

และเมื่อการถกเถียงปะทะคารมเสร็จ ก็ถึงพาร์ทที่เราแอบคาดไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้ ก็คือการโชว์เดี่ยว เพราะปกติคอนเสิร์ตรวมศิลปินนั้น พาร์ทนี้มักจะอยู่ช่วงกลางค่อนท้าย โดยโชว์ได้เริ่มจากเพลง “ทุกนาทีที่สวยงาม” ของ นนท์ ธนนท์ ที่โดมถ่ายทอดได้ลึกซึ้งสุดๆ จนเราแอบยกให้เป็น The Best สำหรับเรา ส่วนเบน ชลาทิศ ก็มากับเพลง “กีดกัน” ของ บิวกิ้น ที่ร้องแบบเป็นตัวเอง ส่วนกัน นภัทร ที่มากับเพลง “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง” ของ เจฟ ซาเตอร์ ที่เป็นป็อปไทยฟีลอินเตอร์ ต่างจากภาพจำของเราที่มักจะคุ้นเคยกับกันเวลาร้องเพลงป็อปที่มีกลิ่นอายไทยๆ หรือลูกกรุง 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

นอกจากเพลงฟีลลึกซึ้งแล้ว เรายังได้เห็นซานิ มากับเพลงเกาหลีสุดฮิปอย่าง “Zoom” ของ Jessi ที่ ส่วนด้านอ๊อฟ ปองศักดิ์ ก็มากับเพลง “Hush Hush” พร้อมลุคชุดหนังและการร้องที่คงมาตรฐานไว้อย่างดี ก่อนที่ตั้มจะมากับลุคเท่ในเพลง “Hard Carry” ของวง GOT7 ที่ฉีกจากภาพลักษณ์ฮาๆ ที่หลายคนคุ้นตา ก่อนจะถึงคิวแก้มที่มากับเพลง “Don’t start now” ของ Dua Lipa ที่เป็นการฉีกคอมฟอร์ตโซนเล็กๆ ของแก้ม เพราะคราวนี้เธอมากับเพลงป็อปแดนซ์และได้ไม่โชว์พลังเสียงอย่างเดียว โดยก่อนจะแสดงทุกเพลง แฟนๆ ได้อ่านข้อความที่เผยแรงบันดาลใจในการเลือกเพลงมาร้อง 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

ก่อนหน้านี้ คอนเสิร์ต 4 แยกปากหวาน ตอน I will survive #สู้ตายเราต้องรอด แฟนๆ ได้มีโอกาสเห็นโชว์เพลง RS ที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ ซึ่งในงาน 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก เราก็ได้เห็นโชว์นี้อีกครั้งภายใต้ธีม GrammyRS เมื่อ อ๊อฟ เบน และ ซานิ ได้ร้องเพลง “ต่อหน้าฉัน(เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร)” ก่อนตามด้วย ตั้ม, โดม และ กัน ที่มากับเพลง “แค่คนโทรผิด” ของ เป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์ ก่อนตามด้วยแก้มที่มากับเพลง “หวง” ของ ปาน ธนพร และซานิที่มากับเพลง “ฉันรู้” ของ โบ สุนิตา ก่อนที่แก้มกับซานิจะมาประชันเสียงจนเราเชียร์ให้ทั้งสองมีซิงเกิลคู่ และหลังจากนั้นเราได้เห็นเบนมากับเพลง “บอดี้การ์ด” ในลุคของ เต๋า สมชาย และปิดท้ายพาร์ทนี้เมื่อตั้มมากับเพลง “ฮัลโหล” ของ มอส ปฏิภาณ โดยตลอดพาร์ทนี้นอกจากโชว์แล้ว อีกสิ่งที่ต้องชมคือการเก็บรายละเอียดของคอสตูมที่ค่อนข้างเป๊ะ 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

และหลังจากที่พาร์ท GrammyRS จบ เราก็เห็นการโชว์เพลงธีมบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป โดยฝั่ง เบน, ตั้ม, โดม และ กัน มากับเพลง “ทรงอย่างแบด” ของ Paper Planes, ก่อนตามด้วยเพลง “Fire Boy” ของ พีพี กฤษฏ์ ที่เราได้เห็นสองลุคที่แตกต่าง ส่วนด้านฝั่งของเกิร์ลกรุ๊ป อ๊อฟ-ซานิ -แก้ม ก็มากับเพลง “พร้อมไหมคะกะเทย?” ของ Patcha และ “Hype Boy” ของ NewJeans  

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

มาถึงช่วงท้ายงาน แฟนๆ ก็ได้เห็น “นะหน้าทอง” ของ โจอี้ ภูวศิษฐ์ ส่วน 3 ดอกจิก ก็มากับเพลง “เลือดกรุ๊ปบี” ของ เอิ้ก ชาลิสา ก่อนที่ทั้งสองกลุ่มจะมากับเพลงรวมอย่าง “เด็กมีปัญหา” ของ โฟร์มด, “อย่าเข้าใจฉันผิด” ของ Triumph Kingdom และตามด้วยเพลง “เสือ” ของ ภัสสร และเพลง “แม่มด” ของ แสงรวี อัศวรักษ์ ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยเพลง “ต่อให้ใครไม่รัก” ของ H และ “รักคือฝันไป” ก่อนส่งท้ายคอนเสิร์ตด้วยคำพูดความในใจของ 7 คนที่มีต่างที่มา ซึ่งเราประทับใจคำพูดของซานิเรื่องเกี่ยวกับการผ่านการบูลลี่และการตั้งใจที่จะมอบความสุขให้ทุกคน ก่อนที่จะจบงานจริงๆ ด้วยเพลง “มีฟ้า มีดาว มีเธอ” 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

การรวมตัวของ 4 โพดำ กับ 3 ดอกจิกนั้นเป็นความลงตัวที่เราคาดไม่ถึงสุดๆ เพราะทั้ง 7 คนแม้จะมีคาแรคเตอร์และตัวตนชัด แต่พออยู่บนเวทีเดียวกัน กลับออกมาลงตัวและมีบทบาทชัดเจน ไม่มีใครจมหาย โดยงานนี้ตั้ม กับ อ๊อฟ เหมือนเป็นตัวหัวของความจี๊ดเวลาปะทะคารม ส่วน ซานิ กับ เบน จะเป็นตัวเสริมทัพด้วยมุกแบบฉบับตัวเอง ส่วน โดม แก้ม และ กัน แม้จะไม่ได้มาสายแซ่บจี๊ดจ๊าด แต่ก็เสริมให้โชว์มีมิติอื่นๆ อย่างความฟีลกู้ด และทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวแทนคนดูที่รีแอคกับการต่อปากต่อคำ โดยเฉพาะกันนั้นหลายช็อตก็เป็นคนที่ดึงพี่ๆ เพื่อนๆ เข้าสคริปต์ด้วย

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

อีกสิ่งที่ชอบคืองานครั้งนี้เราได้เห็นลุคและสไตล์โชว์ของ 7 คนที่แตกต่างจากภาพจำก่อนหน้า อย่างเช่นตั้ม กับ ซานิ ที่มากับโชว์ฟีล เคป็อป เราได้เห็นแก้มมากับเพลงที่เป็นป็อปแดนซ์ ไม่ได้พ่นไฟอย่างเดียว และได้เห็นกัน นภัทรมากับเพลง Y2K สดใส และเพลงไทยที่มีฟีลลิ่งและโครงสร้างแบบเพลงอินเตอร์ หรือแม้แต่การได้เห็นอ๊อฟในลุคเกิร์ลกรุ๊ปแบบจริงจังกว่างานก่อนๆ แถมงานนี้อ๊อฟเป็นคนที่ออกไอเดียให้กับโชว์เพื่อนๆ หลายคนด้วย ส่วนเบน เราก็ได้เห็นเบนกับเพลงแนวสบายๆ รวมถึงลุคเท่ผิดหูผิดตาในเพลง “บอดี้การ์ด” ซึ่งเราที่เคยเห็นการแสดงทั้ง 7 คน ชอบสิ่งที่ได้เห็นบนเวที ส่วนเรื่องการร้องเพลงและโชว์ภาพรวมทั้ง 7 คนก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง และที่เราชอบอีกอย่างคือในช่วงที่มีคนเปลี่ยนชุด และการรับดอกไม้ที่หลายครั้งมักจะเกิดเดดแอร์ในหลายงาน แต่ในงานนี้ก็มีการพูดขั้นและการเล่นมุก จนเราไม่รู้สึกเบื่อ หรือรู้สึกว่าต้องรอคอย 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

แม้งานนี้จะมีธีมเกี่ยวกับการปะทะ และไพ่ แต่ถ้ามองลึกๆ และฟังสิ่งที่เหล่าศิลปินพูด เราจะได้ทราบถึงธีมที่ซ่อนอยู่ ซึ่งก็คือความแตกต่างทางเพศ อายุ ที่ได้ถูกพูดถึงก่อนเพลง “This Is Me” และตลอดงานทางทีมงานและศิลปินก็ยึดกับทีมนี้ด้วยมุกตลกที่ค่อนข้างจะฟังได้ทุกวัย และเพลงที่มีแทบทุกยุค จนเรารู้สึกว่าทีมที่จัดคอนเสิร์ตนี้ไม่ยอมทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และให้ทุกคนสนุกไปด้วยกัน และตัวเพลงก็มีทั้งยุค 80 90 รวมถึงเพลงฮิตยุคปัจจุบัน และผลงานสุดฮิตยุค Y2K ที่กำลังเป็นเทรนด์ คือใน 28 เพลงที่เลือกมามีทุกยุค และทุกแนวจริงๆ 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

สำหรับพาร์ทโปรดักชั่นนั้น คอสตูม แดนเซอร์ กราฟฟิค ก็ทำตามมาตรฐานโชว์ของ Change Showbiz แต่สิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษในพาร์ทโปรดักชั่นคือการทำจอเล็กบนเวทีที่ไว้ฉายภาพไพ่ที่แทนแต่ละคร และสามารถปรับมาเป็นภาพที่โชว์ทั้ง 7 คนช่วงท้ายได้อย่างดี ส่วนพาร์ทดนตรีงานครั้งนี้แม้มิติจะไม่ได้เยอะ และเสียงไม่ได้ฉ่ำเหมือนงานที่ใช้บิ๊กแบนด์ขนาดใหญ่ แต่มันก็ออกมาโอเค แม้จะมีพาร์ทที่เราติดเล็กๆ ตอนเพลงสุดท้ายที่ตอนตั้มเริ่มร้องแล้วกล้องตัดไปหาตั้ม ที่เรารู้สึกว่าเสียงตั้มตอนนั้นมันเบาไป 

4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก

สำหรับเรางาน 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก เป็นอีกโชว์ที่เรามองว่าครบรสสำหรับเราในปีนี้ จนเราอยากให้หลายๆ คนที่ไม่เคยดูโชว์ของทั้ง 7 คน ได้มีโอกาสดูการแสดงของ ตั้ม-โดม-แก้ม-กัน-ซานิ-เบน-อ๊อฟ เพราะทั้ง 7 คนมีความสามารถรอบด้านที่ทำให้เราว้าวเสมอ และพออยู่ด้วยกันก็สร้างเคมีใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงอีกเพียบ

คุณกำลังดู: "4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก" ความสนุกของ 7 ตัวท็อปที่รวมตัวฉีกภาพจำเพื่อความสนุก (วันที่สอง)

หมวดหมู่: เพลง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด