4 แอปฯ ตอบโจทย์คนติดบ้าน มีมือถือเครื่องเดียวจบ
ในยุคที่อะไร ๆ ก็ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี แม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวัน บวกกับการที่มี startup เจ้าต่างๆ ที่ออกแบบแอปพลิเคชันขึ้นมามากมายเพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปเนื่องจาก COVID-19 หลาย ๆ คนอยู่ติดบ้านไม่ค่อยอยากจะออกไปไหน เดินทางบ่อยที่สุดแค่บ้านกับที่ทำงาน หลายคนไม่มีรถส่วนตัวในการเดินทาง การใช้บริการรถสาธารณะก็จะจำกัดเส้นทาง ทำให้คนเหล่านี้ไม่ค่อยจะรู้แหล่งว่าถ้าต้องการใช้บริการนู่นนี่นั่น ต้องไปหาจากที่ไหน
แต่ไม่ต้องห่วงไป ยุคนี้มันง่ายดายมาก ทุกอย่างสามารถทำและจบได้บนมือถือเครื่องเดียวที่เราดาวน์โหลดไว้สารพัดแอปฯ มาดูกันว่าถ้าเราเป็นคนติดบ้าน จะใช้บริการอะไรจากแอปฯ ไหนได้บ้าง
1. แอปฯ ขายขยะรีไซเคิล
ยุคนี้นี่นะ อะไร ๆ ก็ง่ายไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ขายขยะ เรียกว่าถูกใจสายหาเงินจากการขายขยะรีไซเคิลเป็นอย่างมาก ใครที่ชอบเก็บกระดาษเป็นตั้ง ๆ กระดาษหนังสือพิมพ์ หนังสือเล่ม กระดาษลัง หรือเก็บกระป๋องน้ำอัดลม ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ฯลฯ ไว้ขาย ทุกวันนี้คือไม่ต้องเมียนมองเฝ้ารอให้รถรับซื้อขยะรีไซเคิลให้ผ่านหน้าบ้านอย่างไร้ความหวังแล้ว และต่อให้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวขนขยะพวกนี้ไปขายถึงที่ก็ไม่ลำบาก เพราะเราสามารถเรียกรถรับซื้อขยะให้มารับถึงหน้าบ้านได้ แค่จิ้ม ๆ ทุกอย่างผ่านแอปฯ ทุกอย่างก็ง่ายมาก
สำหรับแอปฯ ขายขยะรีไซเคิลที่จะแนะนำนี้คือ แอปฯ Recycoex ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของคนไทยสำหรับรับซื้อและขายขยะรีไซเคิล โดยขยะรีไซเคิลที่จะรับซื้อมีทั้งหมด 9 ประเภท ได้แก่ ขวดน้ำ PET, กระป๋อง, พลาสติกยืด/อ่อน, กล่องเครื่องดื่ม/แก้วกระดาษ, ถุงขนม/ซองกาแฟ, ขวดแก้ว, พลาสติก HDPE, กระดาษ และเสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นต่าง ๆ มีราคาแจ้งไว้อย่างชัดเจนว่ารับซื้อราคาเท่าไร โดยขยะที่ขายผ่านแอปฯ นี้จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง หมดกังวลว่าแยกขยะแล้วไปไหน
เราสามารถระบุปริมาณขยะรีไซเคิลที่ต้องการขาย เพื่อเรียกให้ทางผู้รับซื้อเข้าไปรับขยะถึงหน้าบ้านได้เลย ภายในแอปฯ จะมีรายละเอียดข้อมูลสำหรับการคัดแยกขยะตามแต่ละประเภทเอาไว้ให้แล้ว เมื่อเรายืนยันน้ำหนักของขยะเรียบร้อยแล้ว ขายเสร็จปุ๊บก็รับเงินปั๊บผ่านระบบภายในแอปฯ ผู้ขายก็สามารถถอนเงินผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้เลย ซึ่งจะมีการเก็บประวัติการซื้อขายไว้ทุกครั้ง รวมไปถึงหลักฐานการโอนเงินด้วย ต่อจากนี้ก็หมดปัญหาบ้านรก แถมยังเปลี่ยนขยะเป็นรายได้ได้ด้วย
2. แอปฯ เรียกช่างซ่อม
เวลาที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านมันเสียมันพัง ถ้าสภาพของสิ่งของนั้น ๆ ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินเยียวยา ส่วนใหญ่เรามักจะลองหาช่างมาประเมินอาการดูก่อนว่ามันยังซ่อมได้ แก้ได้ไหม ถ้าซ่อมจะคุ้มหรือเปล่า หรือต้องทิ้งแล้วซื้อใหม่เท่านั้น หรืออาจเป็นปัญหาเรื่องบ้าน ท่อแตก ท่อตัน ปั๊มน้ำเสีย ปลั๊กไฟช็อต ล้างแอร์ ฯลฯ ประเด็นก็คือจะไปตามหาช่างจากไหนมาประเมินหรือมาซ่อมให้มากกว่า บางคนก็ไม่รู้จริง ๆ นะว่าจะไปตามช่างมาจากไหน ต้องเข้าใจว่าหลาย ๆ คนที่อยู่ติดบ้าน ไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน หรือตัวคนเดียว ก็จะไม่ค่อยรู้แหล่งหรอกว่าถ้าอันนี้เสียอันนี้พังต้องเอาไปซ่อมที่ไหน ต้องติดต่อช่างจากไหนมาดูมาทำให้ แล้วก็ไม่มีข้อมูลติดต่อของช่างด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือมืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้เลยว่าจะต้องติดต่อใครอะไรยังไง จะลองสุ่ม ๆ ดูจากการเสิร์ชหาใน Google ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้แค่ไหนด้วย แต่ทุกวันนี้ชีวิตเราสะดวกมากกว่าการจะไปค้นหา Google แล้วสุ่มร้านเอาอีกนะ เพราะเดี๋ยวนี้มันมีแอปฯ สำหรับเรียกช่าง ให้เข้ามาจัดการปัญหาต่าง ๆ ภายในบ้าน มันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามากที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญเขาเข้ามาดูมาทำ โดยเราสามารถจัดการเรียกช่างมาจัดการให้ได้ด้วยตัวเองด้วย โดยเราสามารถไว้ใจได้ในเรื่องของความชำนาญในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของช่าง รวมถึงความปลอดภัยด้วย เพราะส่วนใหญ่แอปฯ ที่รวบรวมช่างซ่อมไว้ เขาจะมีการลงประวัติพนักงานไว้ด้วย เกิดอะไรขึ้น เราก็ประสานกับผู้ดูแลแอปฯ ได้เลย
สำหรับแอปฯ เรียกช่างซ่อมให้มาให้บริการถึงที่โดยใช้มือถือเราแค่เครื่องเดียวเท่านั้น ที่แนะนำเลยคือ Fixzy ซึ่งเป็นแอปฯ ที่รงบรวมช่างออนไลน์ทุกแขนง แถมยังเป็นแอปฯ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแอปฯ หนึ่งเลยก็ว่าได้ มีตัวเลือกให้บริการครบครัน รับทำความสะอาดยังมีเลย นอกจากนี้ ยังมีบริการใหม่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง (แต่เป็นเว็บไซต์ไม่ใช่แอปฯ) ในชื่อว่า “เรียกช่าง” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการค้นหาข้อมูลของช่างได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย แถมยังครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย มีการรวบรวมช่างประเภทต่าง ๆ พร้อมคัดกรองคุณภาพเบื้องต้น และนำเข้าข้อมูลช่างจากทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยอัปเดตข้อมูลช่างตลอดเวลา
3. แอปฯ ขายเสื้อผ้ามือสอง
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใช้ ด้วยความที่ราคาถูกและคุณภาพเกินราคา มีเสื้อผ้ามือสองหลาย ๆ ชุด หลาย ๆ ตัวที่มันยังสภาพดีอยู่มาก สภาพ 100% แบบที่ไม่เคยผ่านการใช้งานเลยก็มี ประมาณว่าเจ้าของเดิมซื้อมาแล้วใส่ไม่ได้ เอาไปเปลี่ยนหรือคืนก็ไม่ได้ เลยเอามาขายออกเป็นของมือสองให้คนอื่นที่เขาน่าจะใส่ได้มาซื้อไป ทีนี้เรื่องของเรื่องก็คือปกติเสื้อผ้ามือสองจะขายเป็นหลักแหล่ง อย่างตามตลาดขายสินค้ามือสอง ร้านที่ขายเฉพาะเสื้อผ้ามือสอง หรือไม่ก็ตามแอ็กเคานต์บนโซเชียลมีเดียที่เชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง ต่างจากเสื้อผ้าของใหม่ที่หาซื้อได้ง่ายกว่า แค่ตั้งใจว่าจะชอปปิงออนไลน์ ก็หาเสื้อผ้ามือหนึ่งได้ไม่ยาก
แต่สำหรับคนติดบ้าน คนที่ไม่ค่อยชอบที่จะออกไปเดินตลาดที่มีผู้คนเยอะ ๆ โดยเฉพาะร้านเสื้อผ้ามือสองที่มักจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปเลือกหาสินค้ามือสอง บางทีคนก็เยอะและต้องแข่งขันแย่งกัน การมีแอปฯ สำหรับซื้อเสื้อผ้ามือสองน่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ชีวิตดี ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาแอปฯ สำหรับซื้อเสื้อผ้ามือสองที่เชื่อถือได้และเช็กสภาพของสินค้าได้ ขอแนะนำแอปฯ Loopers และ Hangles ซึ่งเป็นช่องทางส่งต่อเสื้อผ้ามือสองที่ยังมีคุณภาพดีไปสู่มือเจ้าของคนใหม่ สามารถเช็กคุณภาพได้ ที่สำคัญคือ ลดปัญหาการใช้เสื้อผ้าระยะเวลาสั้น ๆ แล้วทำลายโลกแบบ Fast Fashion ได้ด้วย คนอื่นอาจไม่อยากใส่แล้ว แต่เราอยากได้ ช่วยลดขยะสิ่งทอลงได้เยอะ
4. แอปฯ รวมอาหารโละ อิ่มอร่อยในราคาถูก
ไหน! ใครชอบไปเดินตามซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงค่ำ ๆ หรือชอบแวะห้างสรรพสินค้าโซนอาหารและของสดใกล้ ๆ เวลาห้างปิดบ้าง รู้หรอกนะ คุณกำลังรอเวลาให้พนักงานเขามา “ติดป้ายเหลือง” อยู่ใช่ไหมล่ะ ปกติแล้ว อาหารที่เขาทำขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือโซนขายอาหารในห้าง เขาจะต้องขายให้หมดวันต่อวันเพื่อไม่ให้เหลือค้างคืน และเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทิ้งเป็นขยะให้เสียดายของ อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ทำขึ้นในวันนั้น ซึ่งก็ถือว่ายังสดใหม่และมีคุณภาพ แต่เนื่องจากระยะเวลาในการเก็บมันจำกัด เลยต้องนำมาขายลดราคา นอกจากนี้ยังรวมถึงอาหารที่ใกล้ถึงวันหมดอายุแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็จะโละออกมาขายแบบลดราคาโดยติดป้ายเหลืองทับลงไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทิ้งนั่นเอง
ปกติ คนที่ไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหารช่วงค่ำ ๆ จะได้เจออาหารป้ายเหลืองแทบจะทุกวันอยู่แล้ว ก็จะได้อาหารดี ๆ ราคาประหยัดกลับมากินมื้อเย็นไม่ก็ใส่ตู้เย็นไว้กินมื้อต่อ ๆ ไปก็ได้ (ถ้าอาหารมาค้างที่เรา ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา) แต่กับคนติดบ้านที่ไม่ค่อยออกไปไหนล่ะ ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เข้าถึงอาหารป้ายเหลืองกับใครเขาเลยถูกไหม แต่…มีแอปพลิเคชันหนึ่งที่เปิดให้บริการสำหรับอาหารป้ายเหลืองโดยเฉพาะ ต่อให้เราเป็นคนไม่ค่อยออกจากบ้านหรือไม่ค่อยแวะระหว่างทาง ก็สามารถซื้ออาหารลดราคา (ป้ายเหลือง) ผ่านทางแอปฯ Oho! ได้
Oho! เป็นแอปฯ เดลิเวอรี่อาหารฝีมือคนไทยที่มาในคอนเซ็ปต์รักษ์โลก จากการช่วยลด Food Weste นั่นเอง ที่สำคัญ อาหารทุกจานมีต้นทุน ถ้าต้องทิ้งไปเฉย ๆ เพียงเพราะขายไม่หมด ร้านอาหารก็ค่อนข้างลำบาก เพราะฉะนั้น เอามาลงแอปฯ Oho! แล้วขายในราคาที่ถูกลง ร้านอาหารก็อาจยังพอได้ต้นทุนคืนบ้าง ซึ่งอาหารที่ลงขายในแอปฯ Oho! ทุกอย่างยังคงสดใหม่ เพียงแต่เป็นอาหารส่วนเกินหรืออาหารที่ร้านอาหารขายไม่หมดก็เท่านั้นเอง เพื่อให้ร้านรวงต่าง ๆ ไม่ต้องกำจัดอาหารพวกนี้ทิ้งเป็นขยะให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงนำมาขายในราคาที่ถูกกว่าเดิม โดยราคาโปรโมชันขั้นต่ำแค่ 25% เท่านั้น แถมยังมีรองรับทั้งบริการเดลิเวอรี่ ไปรับเองที่ร้าน หรือไปนั่งกินที่ร้านก็ได้ด้วย
คุณกำลังดู: 4 แอปฯ ตอบโจทย์คนติดบ้าน มีมือถือเครื่องเดียวจบ
หมวดหมู่: เทคโนโลยีใหม่