7 เคล็ดลับการเดินทางแบบ Road Trip ที่นักเดินทางควรรู้

แนะนำเคล็ดไม่ลับสำหรับคนที่จะไป Road Trip ต้องรู้ก่อนออกเดินทาง

7 เคล็ดลับการเดินทางแบบ Road Trip ที่นักเดินทางควรรู้

ปัจจุบัน การเดินทางเที่ยวแบบ Road Trip หรือการเดินทางระยะไกลด้วยการขับรถ เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เสน่ห์ของการเดินทางในลักษณะนี้ คือ มันเหมือนกับการผจญภัย คุณสามารถเปลี่ยนแผน เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไดตามใจชอบ เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาและสถานที่เหมือนกับการเดินทางกับทัวร์หรือใช้บริการรถสาธารณะ ที่สำคัญ ปัจจุบันมีบริการที่อำนวยความสะดวกคนที่ไม่มีรถหรือมีรถที่ไม่เหมาะกับการเดินทางระยะไกล หากอยากออกทริป Road Trip ก็สามารถเช่ารถขับได้

อีกอย่างที่หลายคนไม่ทราบก็คือ การเที่ยวแบบ Road trip สามารถชาร์จพลังให้ตัวเองได้ดีที่สุด ที่ผ่านมาคุณอาจจะทำได้เพียงแต่บอกได้ว่าตัวเองชอบนั่งรถและมองข้างทางไปเรื่อย ๆ ชอบความรู้สึกที่ว่าได้เห็นอะไรต่ออะไรข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นเมืองหรือชนบทหรือเส้นทางธรรมชาติก็ไม่เกี่ยง เพราะทุกครั้งที่ล้อหมุน ก็จะมีเรื่องราวตามมาเสมอ แล้วเรื่องราวเหล่านั้นก็สร้างความประทับใจให้คุณได้ทุกครั้ง หากคุณอยากลองเที่ยวแบบ Road trip ขอแนะนำว่าให้ชวนเพื่อนที่ดีที่สุดไปด้วยสักคน ในกรณีที่คุณจะได้ผลัดกันขับรถกับเป็นคนนั่งข้าง เพราะมันได้อารมณ์คนละอย่าง

แต่นั่นแหละ! ไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าการออกเดินทางไปแล้วถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองลืมของบางอย่างไว้ที่บ้าน หรือพบว่าถ่านกุญแจรถหมดระหว่างเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยไม่จำเป็น คุณต้องวางแผนเรื่องเหล่านี้ให้รัดกุม ตรวจสอบเคล็ดลับการเดินทางเหล่านี้ก่อนออกเดินทาง

เตรียมรถของคุณให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกล

สำหรับการเดินทางแบบ Road trip เรื่องของรถเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ก่อนอื่น คุณต้องเลือกรูปแบบรถให้เหมาะกับการเดินทาง ซึ่งต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เพราะการขับรถระยะไกลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกเหนือจากเรื่องความชำนาญของผู้ขับขี่ รถที่ใช้จะต้องเอื้อต่อการเดินทางด้วย เช่น ระยะทางในการเดินทาง เนื่องจากรถแต่ละคันจะมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไม่เท่ากัน ลักษณะของเส้นทาง หากเป็นพื้นที่ทุรกันดารหรือต้องลุยเส้นทางธรรมชาติ มันคงไม่เหมาะนักที่คุณจะนำรถเก๋งไปใช้ ช่วงเวลาในการออกทริป การเดินทางช่วงฤดูฝน นอกจากมีความลำบากในการเดินทางแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วย จำนวนผู้ร่วมทางกับสัมภาระ เป็นต้น

อีกสิ่งที่สำคัญ คือการเตรียมรถให้พร้อมก่อนนำมาใช้ออกเดินทาง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ นำรถที่คุณจะใช้ในทริปไปเข้ารับบริการตรวจสภาพก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง เพื่อเช็กแรงดันน้ำมัน ลมยาง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ เบรก และเครื่องยนต์ทำงานอย่างถูกต้อง ควรนำถ่านสำรองไปด้วย เผื่อว่าถ่านในรีโมตกุญแจรถหมดระหว่างทาง และก่อนออกเดินทาง เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่มีน้ำกลั่น เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาล สายจัมเปอร์ และพลุหรือแผ่นสะท้อนแสง ควรเรียนรู้วิธีใช้สายจัมเปอร์ (มีสอนใน YouTube) ก่อนออกเดินทาง

วางแผนเส้นทางและสถานที่พักระหว่างทาง

ทุกวันนี้การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่าแต่ก่อนเยอะ เมื่อก่อนคุณอาจต้องซื้อแผนที่มากางดู แต่เดี๋ยวนี้แค่คุณเข้าอินเทอร์เน็ต แล้วค้นหาสถานที่ที่คุณสนใจ คุณก็จะพบกับรีวิวมากมายทั้งในรูปแบบบทความมีภาพประกอบ วิดีโอ หรือแม้กระทั่งเป็นรายการแนะนำที่เที่ยวสั้น ๆ ให้คุณได้ใช้พิจารณาประกอบการติดสินใจ ตามเพจโซเชียลมีเดียก็อาจจะมีกลุ่มเฉพาะของคนที่ชอบเที่ยวในรูปแบบนั้นแบบนี้ คุณสามารถไปขอร่วมกลุ่มได้ หรือจะค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของสถานที่นั้นโดยตรงก็ได้เช่นกัน และอย่าลืมใช้พวกแอปฯ แผนที่มาช่วยในการวางแผนเส้นทาง ยกตัวอย่าง Google Map ที่สามารถแสดงระยะทางและเวลาการเดินทางทั้งหมดให้คุณได้

แพ็กสัมภาระอย่างชาญฉลาด

ก่อนจัดกระเป๋าสัมภาระ ขอแนะนำว่าคุณควรทำลิสต์รายการสิ่งของทั้งหมดที่คุณต้องใช้ก่อนเริ่มลงมือแพ็กของจริง เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและลืมนั่นลืมนี่ โดยเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น การทำลิสต์ไว้ก่อนจะช่วยให้คุณแพ็กของได้ง่ายและเร็วขึ้น คุณก็แค่ไล่ไปหยิบไปตามลิสต์ที่มี นำมาวางกองกันไว้ก่อนแล้วค่อยแพ็กมันใส่กระเป๋า วิธีทำลิสต์ จริง ๆ ไม่มีวิธีตายตัว แต่ถ้าให้ง่ายที่สุด คือการแยกออกเป็นกลุ่มรายการ เช่น กลุ่มของใช้ส่วนตัว, เสื้อผ้า, อุปกรณ์ส่วนรวม, ของใช้จำเป็นยามฉุกเฉิน เป็นต้น

สิ่งหนึ่งที่คุณต้องให้ความสนใจคือ การเดินทางในลักษณะ Road trip นี้ มันมีความทุลักทุเลพอสมควร ถ้าคุณขนนั่นขนนี่ไปเกินความจำเป็น เรียนรู้วิธีแพ็กของอย่างประหยัดพื้นที่ใน YouTube แล้วพิจารณานำสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากกระเป๋าด้วย ก็จะช่วยให้รถของคุณไม่ต้องรับน้ำหนักของสัมภาระเยอะเกินไป ประหยัดทั้งพื้นที่รถและค่าใช้จ่าย เพราะรถที่รับน้ำหนักเกินไปก็จะยิ่งกินน้ำมัน มีข้อแนะนำว่าสำหรับการเดินทางที่ผ่านหลายจังหวัด ควรจัดชุดนอนและเครื่องใช้ในห้องน้ำแยกออกมาจากกระเป๋าเดินทาง คุณจะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าขนาดใหญ่เข้าและออกจากรถทุกครั้งที่คุณเช็กอินที่โรงแรมที่นอนแค่คืนเดียว

ใช้แอปฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แอปฯ แผนที่อย่าง Google Map นั้น ฟังก์ชันการทำงานของมันไม่ได้ใช้แค่เปิดนำทาง คำนวณระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทาง หรือเช็กสภาพการจราจรได้อย่างเดียว แต่คุณยังสามารถใช้ค้นหาปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า แหล่งชอปปิง โรงแรม โรงพยาบาล ตู้ ATM และสถานที่อื่น ๆ ได้อีกมากมาย แม้ว่ามันอาจจะไม่ละเอียดเท่ากับที่ตาเห็นหรือที่คุณอาจจะพอรู้มาบ้าง แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์ในระดับหนึ่งสำหรับการกำหนดพิกัดให้คุณ ในกรณีที่คุณกำลังต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้อยู่ และอย่าลืมว่าการเปิดแผนที่จากแอปฯ ต้องใช้อินเทอร์เน็ต คุณควรมีการสำรองข้อมูลออกมาเป็นกระดาษด้วย เผื่อว่าอินเทอร์เน็ตใช้ไม่ได้ เพราะคุณรู้เส้นทางอยู่แล้ว

ควรจะพกเงินสดติดตัวบ้าง

ใช่! นี่มันควรจะเป็นยุคสังคมไร้เงินสด แต่สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือในยามฉุกเฉิน เงินสดมีสภาพคล่องที่สุดแล้วสำหรับการแก้ปัญหา การเดินทางออกทริปแบบนี้ อินเทอร์เน็ตตามทางไม่ได้เร็วและแรงพร้อมให้คุณใช้อย่างสะดวกในทุกพื้นที่ และคุณก็น่าจะทราบอยู่แล้วว่าแอปฯ ธนาคารก็เป็นประเภทที่นึกอยากจะล่มก็ล่ม เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย รวมถึงอุปกรณ์โทรศัพท์ของคุณอาจมีปัญหาขึ้นมา แบตหมดจนเปิดไม่ติด ค้างจนใช้งานไม่ได้ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ฉะนั้น อย่าประมาท คุณควรมีเงินสดติดตัวไว้บ้างเพื่อใช้ในยามจำเป็น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณชำระเงินล่วงหน้าไปแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่พวกค่าใช้จ่ายที่ควบคุมไม่ได้ คุณต้องมีเงินสดสำรอง

สิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ประจำ มีวางไว้ใกล้มือ

หลายคนติดกับดักการจัดสัมภาระ คุณลืมนึกไปว่ามีสัมภาระบางสิ่งบางอย่างที่คุณอาจต้องใช้มันตลอดการเดินทาง เพราะฉะนั้น ไม่ควรเลยที่คุณจะแพ็กมันไว้อย่างลึกซึ้งมิดชิดขนาดนั้น เวลาจะใช้ เท่ากับว่าคุณแทบจะต้องรื้อทุกอย่างออกมา สัมภาระในส่วนนี้ ในทำลิสต์แยกออกมาต่างหาก เช่น ระหว่างทาง การขับรถจะทำใหุ้ณเพลียหากร่างกายขาดน้ำ คุณควรมีแก้วน้ำหรือกระบอกน้ำสแตนเลสสำหรับแต่ละคนบนรถ ที่สามารถจิบดื่มได้ตลอดทาง จัดกระเป๋าที่มีทิชชู่เปียก กระดาษเช็ดมือ เจลทำความสะอาดมือ และถุงขยะแยกไว้ต่างหาก เพื่อจัดการกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น

แวะหยุดพักบ้าง อย่าขับแบบยิงยาว

การขับรถระยะไกลไม่ใช่เรื่องง่าย คุณอาจรู้สึกว่าตัวเองไหว แต่จริง ๆ มันมีความอ่อนเพลียสะสมอยู่เรื่อย ๆ ขอแนะนำให้คุณเลิกขับรถยิงยาวนาน ๆ แต่ให้พยายามพักทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดอาการเหนื่อยล้าของคนขับและจะได้เช็กความพร้อมของรถเป็นระยะ ๆ ได้ คุณอาจจะแวะหาอะไรกิน แวะสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง หรือแค่หยุดพักเพื่อยืดเส้นยืดสาย งีบเอาแรงสักหน่อยจะได้สดชื่นขึ้น เมื่อคุณหยุดพักบ่อย ๆ คุณจะรู้สึกว่ามันเป็นการเดินทางที่คุณจัดการได้ ไม่ใช่เส้นทางยาว ๆ ที่ดูไปไม่ถึงสักที

คุณกำลังดู: 7 เคล็ดลับการเดินทางแบบ Road Trip ที่นักเดินทางควรรู้

หมวดหมู่: เที่ยวทั่วไทย

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด