บทสรุปในฝัน เมสซี่ VS โรนัลโด้ ปลายทางนัดชิงบอลโลก?
บทสรุปในฝัน เมสซี่ VS โรนัลโด้ ปลายทางนัดชิงบอลโลก?
ถือว่าขยับเข้าใกล้เป้าหมายไปอีกก้าวสำหรับ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งพาทีมฟ้า-ขาว ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ด้วยฟอร์มการเล่นระดับเวิลด์คลาสฉลองการลงสนามนัดที่ 1,000 ในชีวิตการค้าแข้งของเขา
เป็นฟอร์มที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังสิงโตคำรามซึ่งทำหน้าที่นักวิจารณ์ยกย่องว่า “ขั้นเทพ” และเป็นฟอร์มส่วนบุคคลที่ดีที่สุดในบรรดานักเตะที่เข้าร่วมเวิลด์คัพหนนี้เลยทีเดียว
สำหรับแฟนฟุตบอลทั่วๆ ไปซึ่งไม่ได้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษ เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยที่แอบเอาใจช่วยให้เมสซี่ไปถึงฝั่งฝัน หลังจากเจ้าตัวประกาศแล้วว่า นี่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเขา เพราะด้วยอายุที่ปาเข้าไป 35 ปี ในขณะนี้ เจ้าตัวคงไม่ได้คาดหมายว่าจะช่วยทีมด้วยฟอร์มสุดยอดเหมือนเก่าในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือแม้แต่ประเด็นที่ว่าจะยังเล่นฟุตบอลต่อไปจนถึงตอนนั้นหรือไม่
อีกหนึ่ง “ฉากจบ” ของฟุตบอลโลกหนนี้ที่เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนอยากเห็นไม่แพ้กัน คือการพบกันในรอบชิงชนะเลิศระหว่างคู่ปรับตลอดกาลอย่างเมสซี่และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส
ด้วยเส้นทางของทั้ง 2 ทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายอยู่ในสายบนและสายล่าง หมายความว่าเมสซี่และโรนัลโด้จะเจอกันได้ก็ต่อเมื่ออาร์เจนตินาและโปรตุเกสไปถึงรอบชิงแล้วเท่านั้น
ที่ผ่านมา แฟนบอลของทั้งคู่ถกเถียงกันมาโดยตลอดว่าใครคือนักเตะที่เก่งที่สุดของยุคปัจจุบัน โดยหยิบยกสถิติต่างๆ มาเทียบกัน เช่น สถิติยิงประตูและแอสซิสต์รวมทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ เมสซี่ยิง 789 ประตู แอสซิสต์ 348 ครั้ง จากการลงสนาม 1,000 นัด ส่วนโรนัลโด้ยิง 819 ประตู แอสซิสต์ 234 ครั้ง จากการลงเล่น 1,143 นัด, สถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุด เมสซี่ 11 ครั้ง โรนัลโด้ 7 ครั้ง, สถิติแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมสซี่ 4 ครั้ง โรนัลโด้ 5 ครั้ง, รางวัลบัลลงดอร์ เมสซี่ 7 สมัย โรนัลโด้ 5 สมัย
ความที่ 2 คนนี้ขับเคี่ยวกันมาสมัยเล่นให้ บาร์เซโลน่า และ รีล มาดริด ในลาลีก้า สเปน ทำให้เห็นการเปรียบเทียบระดับสโมสรค่อนข้างชัด ส่วนระดับทีมชาติ พอโรนัลโด้พาโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016 ทำให้เขามีดีกรีนำไปหนึ่งก้าว กระทั่งเมสซี่นำอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ในอีก 5 ปีถัดมา ถือว่าศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันในประเด็นนี้
เมื่อเทียบกับเมสซี่ที่ยังโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเป็นกำลังสำคัญสม่ำเสมอให้กับทีมชาติ โรนัลโด้ในวัย 37 ปี ถือว่า “โรยรา” ลงไปอย่างน่าใจหาย
ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเปิดฉากไม่กี่วัน เขามีประเด็นร้อนกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องบทสัมภาษณ์พาดพิงต้นสังกัด โค้ช และอดีตเพื่อนร่วมทีมในเชิงลบ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกดดันให้แมนฯยูยอมยกเลิกสัญญาและปล่อยเขาย้ายทีม ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าตัว “งอแง” มาตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่แล้ว
แม้จะบรรลุเป้าหมายสมใจ แต่โรนัลโด้ก็โดนวิจารณ์เละเทะและเสียชื่อเสียงในหมู่แฟนบอลไปพอสมควร ยิ่งเมื่อพิจารณาเรื่องฟอร์มการเล่นประกอบไปด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ระดับสโมสรเขาโดนดร็อปเป็นตัวสำรอง เมื่อได้รับโอกาสลงสนาม แม้จะพอยิงประตูได้บ้าง แต่ฟอร์มโดยรวมก็ถือว่าน่าผิดหวัง
โรนัลโด้ไม่ได้เฉียบคม แม่นยำ และรวดเร็วเหมือนก่อน หนึ่งในประเด็นที่โดนวิจารณ์หนักสุดคือการไม่วิ่งไล่บอล ไม่เข้ากับแผนการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ที่เน้นการเพรสซิ่งสูง
เมื่อมาถึงเวิลด์คัพ เขาได้รับโอกาสลงเล่นบ่อยกว่าตอนอยู่กับปีศาจแดงด้วยชื่อชั้นและศักดิ์ศรีในระดับทีมชาติ และยิงไป 1 ประตูในรอบแรก ทำสถิติเป็นนักเตะชายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงในฟุตบอลโลก 5 สมัยติดต่อกัน
แม้ฟอร์มส่วนตัวจะไม่ค่อยดีนัก แต่ฟอร์มโดยรวมของทีมชาติโปรตุเกสถือว่ามาตรฐานดี และมีลุ้นเข้ารอบลึก โดยเพื่อนร่วมทีมก็มองว่าเขาเป็นไพ่ตายที่จะช่วยเปลี่ยนเกมได้เมื่ออยู่ในสนาม
…ในอดีต วงการลูกหนังโลกยกย่องนักเตะ 2 คนเป็น “ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ คือ เปเล่ ตำนานแข้งบราซิล และ ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานฟ้า-ขาวผู้ล่วงลับ
น่าเสียดายที่ยุคสมัยของทั้งคู่ไม่ได้เหลื่อมซ้อนกัน แฟนบอลจึงได้แต่เทียบเคียงสถิติและฟอร์มการเล่นเพื่อถกเถียงว่าใครจะเหนือกว่ากัน
แต่กรณีของเมสซี่กับโรนัลโด้นั้นไม่ใช่ เพราะมีโอกาสที่เส้นทางของทั้งคู่มาบรรจบกันหลายครั้งในระดับสโมสร
ส่วนระดับทีมชาตินั้น ฟุตบอลโลก 2022 อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับฉากในฝันที่แฟนบอลหลายคนรอคอย
คุณกำลังดู: บทสรุปในฝัน เมสซี่ VS โรนัลโด้ ปลายทางนัดชิงบอลโลก?
หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ