ได้อะไรกลับมาบ้าง? 2 ชั่วโมงกว่ากับโลกการ์ตูนดิสนีย์ที่เอเชียทีค "Disney 100 Village"
รีวิวไปเที่ยว Disney 100 Village ความฝันในวัยเด็กที่เป็นจริงแล้วที่เอเชียทีค
เห็นคนทยอยรีวิวพาเที่ยว Disney 100 Village ที่ Asiatique the Riverfront แล้วอดอิจฉาไม่ได้ ในเมื่อมีนิทรรศการระดับโลกมาเสิร์ฟถึงบ้านเราขนาดนี้ รีบหาฤกษ์งามยามดี วันเสาร์ช่วงบ่ายแก่ๆ ที่อากาศไม่ร้อนจัด ขอเดินทางไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง
ช่วงบ่าย 4 โมงกว่ายังพอมีที่จอดในเอเชียทีค วนหาไม่นาน ก็ได้ลงมาถ่ายรูปกับชิงช้าสวรรค์ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ จากนั้นกวาดสายตาดูรอบๆ แค่ไม่กี่วินาที ก็เริ่มสัมผัสได้ถึง vibe ของดิสนีย์ทันที เพราะซุ้มประตูและผนังกำแพงต่างๆ ถูกตกแต่งให้แปลกตาออกไป มีตัวการ์ตูนที่เราคุ้นเคยแซมอยู่ตามมุมต่างๆ ตลอดบริเวณในเอเชียทีคเลย มีมุมให้ได้ถ่ายรูปกันชนิดที่ว่าต้องแนะนำให้พกพาวเวอร์แบงค์เลยทีเดียว
จากที่ศึกษาก่อนมา ทราบว่าที่นี่มีโซนเข้าชมฟรีเยอะอยู่ แต่ถ้าอยากให้สะใจสุดๆ แนะนำว่าควรซื้อบัตรเข้าชมเพิ่มเติม ก็จะได้ทั้งโซน Frozen Exhibition, Marvel Universe: The World Outside Your Window, Disney Princess Enchanted Garden และ Pixar Putt ซึ่งราคาบัตรถามว่าแรงไหม? ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ ถ้าคุณเรียกตัวเองว่าโตมากับดิสนีย์หรือเคยไปดิสนีย์แลนด์แล้วน้ำตารื้น ส่วนตัวขอเชียร์ให้ซื้อบัตรแบบเข้าได้ทุกโซนค่ะ
ได้หวนคิดถึงทุกตัวละคร เรียกว่าขนกันมาทั้งค่าย
ไม่ปฏิเสธเลยว่างานนี้พยายามทริบิวต์ให้กับแทบทุกตัวละครดิสนีย์ได้อย่างทั่วถึง แม้ในพื้นที่จำกัดแต่สามารถขมวดความทรงจำของทุกคนมาจัดแสดงได้อย่างกำลังพอดี บางเรื่องที่เคยโด่งดังมานานแล้ว ก็ได้กลับมาทักทายเราอีกครั้งที่นี่ โดยเฉพาะโซน Pixar Putt ที่ลานริมแม่น้ำถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นสนามกอล์ฟกลางแจ้ง ให้มาฝึกฝีมือกันเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศการ์ตูนค่ายพิกซาร์ ซึ่งมีหลายเรื่องมากๆ เช่น Up, Ratatouille, Finding Nemo, Toy Story ไปจนถึงตัวปังยุคสตรีมมิ่งอย่าง Turning Red ถ้าใครไม่ถนัดตีกอล์ฟ แค่เดินเข้ามาดูการตกแต่งภายในก็อิ่มแล้วค่ะ
ถ้าคุณอินกับเจ้าหญิงดิสนีย์ แนะนำให้ตรงดิ่งไปที่โซน Enchanted Garden ได้เลย ภายในสวนสวยมีรูปปั้นสีทองของเจ้าหญิงครบทุกคาแรคเตอร์ ตั้งแต่ยุคคลาสสิคอย่าง “ซินเดอเรลล่า” หรือ “สโนไวท์” ไปจนถึงรุ่นใหม่อย่าง “รายา” โซนนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ใช้เวลานาน เหมาะกับสายพรินเซสที่เน้นเข้ามาถ่ายรูปเล่นกันค่ะ
ได้ขนลุกไปในดินแดนของอันนาและเอลซ่า
ขึ้นชื่อว่า Frozen แล้ว การันตีความสวยสะพรึงได้เสมอ
บันไดวนหน้าเอเชียทีคได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นบันได Let It Go
ให้เราได้สวมบทเอลซ่า โซนนี้ผู้เขียนมองว่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
เพราะมีพื้นที่กว้าง และการจัดแสดงถูกแบ่งสัดส่วนเป็นห้องชัดเจน
ภายในมีทั้งการจัดไฟ บ่อบอล สไลเดอร์ แทรมโพลีน โรงหนังไซส์มินิ
และตู้เกม โดยรวมแล้วคือเพลย์กราวด์ย่อมๆ นี่เอง
คุณพ่อคุณแม่พาลูกหลานมาปล่อยพลังที่นี่ได้เป็นชั่วโมงเลยค่ะ
ได้เอ็นจอยกับเกมสนุกๆ เหมือนซ้อมไปดิสนีย์แลนด์
โซนที่ถูกใจเด็กชายและสายเกมเมอร์มากที่สุดน่าจะเป็น Star Wars
ที่ตรงหน้าประตูทางเข้าจะมีแท่นให้แข่งกันวัดพลังฝีเท้าทำแต้มคะแนน
เล่นกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แต่แอบต้องระวังเล็กน้อยเพราะแท่นเหยียบลื่นพอสมควรอาจหงายท้องได้
ส่วนภายในตัวพื้นที่จัดแสดงก็จะมีเกม STAR WARS Squadrons
ให้ลองเล่นบนหน้าจอกว้าง 3 จอจุใจ
เดินถัดไปข้างๆ จะได้เห็น Marvel Universe: The World Outside Your Window ที่สังเกตไม่ยากเพราะมีไอร่อนแมนขนาดมหึมาคอยให้เราไปเก็บภาพคู่อยู่ด้านหน้า สังเกตเลยว่าเจ้าซูเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากเป็นพิเศษเลยค่ะ
ได้ช้อปสินค้าน่ารักที่มีให้เลือกละลานตา
ก่อนกลับบ้านอย่าลืมวนมาโซน Merchandise ด้านหน้าใกล้ถนนใหญ่ ส่องดูของที่ระลึกน่ารักๆ ถูกลิขสิทธิ์ไว้เป็นความทรงจำ โดยเฉพาะของเล่นจะมีให้เลือกเยอะมากกว่าเดินตามห้างปกติ ถ้ามากับเด็กๆ น่าจะได้เสียตังค์อย่างแน่นอน หรือจะแวะถ่ายรูปโฟโต้บูธ เพ้นท์หน้า ก็เป็นสีสันที่เด็กๆ ชื่นชอบมากเหมือนกันค่ะ
สรุปแล้ว การได้มาเดินเสพดิสนีย์ในเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่เอเชียทีค ในฐานะที่เป็นอีกคนที่ค่อนข้างอินง่ายกับค่ายนี้ ก็รู้สึกว่าประทับใจหลายส่วน สตาฟดูแลได้ดีทั่วถึง และสิ่งที่ทัชใจมากที่สุดคงเป็นเสียงเพลงดิสนีย์ที่เปิดคลอตลอดเวลา ทำให้ได้เห็นทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวแอบฮัมตาม ยิ่งตอกย้ำว่าดิสนีย์คือภาษายูนิเวอร์ซัลของวัยเด็กทั่วโลกจริงๆ ค่ะ
ที่สำคัญคืองานนี้ทำให้ภาพของเอเชียทีคกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากช่วงล็อกดาวน์ที่เคยเงียบเหงาลงไป ถือว่าเป็นอีกความน่าตื่นเต้นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่อยากแนะนำให้ใครที่กำลังหากิจกรรมเบาๆ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เดินเล่นสบายๆ แถมมีร้านอาหารและร้านค้าให้เดินช้อปริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องลองมาด้วยตัวเองดูให้ได้ค่ะ จัดแสดงถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 นี้
ซื้อบัตรได้ที่ https://www.thaiticketmajor.com/disney100atasiatique/
คุณกำลังดู: ได้อะไรกลับมาบ้าง? 2 ชั่วโมงกว่ากับโลกการ์ตูนดิสนีย์ที่เอเชียทีค "Disney 100 Village"
หมวดหมู่: เที่ยวทั่วไทย