แกร็บ ประเทศไทย ระบุ โชเฟอร์หญิงที่ถูกฆ่า ไม่ได้เป็น ‘คนขับแกร็บ’ หลังตรวจสอบข้อมูลแล้ว

แกร็บ ประเทศไทย ระบุ โชเฟอร์หญิงที่ถูกฆ่า ไม่ได้เป็น 'คนขับแกร็บ' หลังตรวจสอบข้อมูลแล้ว เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 แกร็บ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ หลังจากมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ท...

แกร็บ ประเทศไทย ระบุ โชเฟอร์หญิงที่ถูกฆ่า ไม่ได้เป็น ‘คนขับแกร็บ’ หลังตรวจสอบข้อมูลแล้ว

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 แกร็บ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ หลังจากมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิงซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น (อ่านข่าว สลด! สาวลวงโชเฟอร์หญิงไปส่งที่พัก ให้แฟนหนุ่มฆ่าหมกป่า เอารถไปขาย)

โดยระบุว่า

จากกรณีที่มีสื่อมวลชนได้นำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิงรายหนึ่งซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น โดยระบุว่าเป็นพาร์ตเนอร์ “คนขับแกร็บ” หรือให้บริการ “แกร็บคาร์เลดี้” นั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า ภายหลังการตรวจสอบข้อมูล ทั้งชื่อและนามสกุล รวมถึงทะเบียนรถที่ปรากฏตามรายงานข่าว ไม่พบข้อมูลของผู้เคราะห์ร้ายในฐานข้อมูลพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ โดยบริษัทได้ประสานงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินคดีทันทีตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้

ทั้งนี้ บริษัทขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอยืนยันว่า ในฐานะผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งได้รับการรับรองแอพพลิเคชั่นสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จากกรมการขนส่งทางบก แกร็บให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ และกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้งผู้ใช้บริการและพาร์ตเนอร์คนขับ อาทิ

• การใช้เทคโนโลยี Biometric identification ในการยืนยันตัวตนของทั้งพาร์ตเนอร์คนขับ และผู้ใช้บริการ โดยสำหรับพาร์ตเนอร์คนขับจะต้องทำการสแกนใบหน้าทุกครั้งก่อนเริ่มให้บริการ ขณะที่ผู้ใช้บริการจะต้องกรอกประวัติ และสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนสมัครใช้แอพพลิเคชั่น
• การพัฒนาฟีเจอร์ Safety Centre ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการและพาร์ตเนอร์คนขับ สามารถแชร์ข้อมูลการเดินทางให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งการมีปุ่มฉุกเฉินที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีเมื่อประสบเหตุไม่คาดคิด
• การคัดกรองพาร์ตเนอร์คนขับที่เข้มงวด โดยต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลังอย่างน้อย 7 ปี รวมถึงการจัดอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกในด้านความปลอดภัยให้กับพาร์ตเนอร์คนขับทุกคนก่อนให้บริการ
• การนำระบบ Manual Intervention มาใช้เพื่อตรวจสอบระหว่างการเดินทาง หากรถยนต์ที่ให้บริการมีการจอดที่ยาวนานผิดปกติหรือมีการเดินทางออกนอกเส้นทาง ทางฝ่ายบริการลูกค้าจะส่งข้อความไปหาผู้ใช้บริการเพื่อตรวจสอบสถานะการเดินทางและความปลอดภัย รวมถึงการจัดให้มีระบบคอลเซ็นเตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าให้ข้อมูลและคอยให้ความช่วยเหลือกับผู้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

คุณกำลังดู: แกร็บ ประเทศไทย ระบุ โชเฟอร์หญิงที่ถูกฆ่า ไม่ได้เป็น ‘คนขับแกร็บ’ หลังตรวจสอบข้อมูลแล้ว

หมวดหมู่: เทคโนโลยี