คุยกับนักแสดงซีรีส์ "วาระซ่อนเร้น" อยากเป็นคน รอจีบ หรือ รุกจีบ ?
Star of The Month ประจำเดือน กรกฎาคม ว่าด้วยวาระการเก็บซ่อนความรู้สึกของเหล่านักแสดงจากซีรีส์ วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda หากพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ชอบใครสักคน พวกเขาจะเลือกเป็นฝ่ายรุกจีบ หรือ รอจีบ กันแน่นะ?
Star of The Month ประจำเดือน กรกฎาคม ว่าด้วยวาระการเก็บซ่อนความรู้สึกของเหล่านักแสดงจากซีรีส์ วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda พูดคุยถึงเรื่องราวซีรีส์พร้อมล้วงลึกความลับเรื่องหัวใจของ 5 นักแสดงนำ จุง อาเชน, ดัง ณัฎฐ์ฐชัย, อู๋ ธนบูรณ์, บูม ธราธร และ เจมี่ จุฑาพิชญ์ ที่จะมาเผยเรื่องราวความรัก หากพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ชอบใครสักคน พวกเขาจะเลือกเป็นฝ่ายรุกจีบ หรือ รอจีบ กันแน่นะ?
บอกเลยว่าการล้วงความลึกความรักของพวกเขาในครั้งนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกเซอร์ไพรส์! ไปติดตามบทสัมภาษณ์ของพวกเขากัน...
พูดถึงเรื่องซีรีส์ วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
จุง: เป็นเรื่องราวของโซ่ครับ คนซื่อๆ คนหนึ่งที่ไปแอบชอบหญิง คนหนึ่งที่ชื่อว่านิตา แต่ไม่รู้จะจีบหญิงยังไง ก็เลยหาวิธีจีบ ก็เลยไปปรึกษา โจ๊ก ที่เป็นแฟนเก่าของนิตาอีกทีครับ จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ก็ต้องตามไปดูกันว่าโจ๊กจะช่วยโซ่จีบนิตามั้ย หรือจะสมหวังกับนิตาหรือเปล่า
คาแรกเตอร์ตัวละครแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง
จุง: เล่นเป็นโจ๊กครับ เป็นคนชอบวางแผน ฉลาดในระดับหนึ่งเลย เหมือนเก่งในเรื่องวางแผน จะมีแพลนเอ แพลนบี แพลนซีอยู่ตลอด เหมือนชีวิตจริงผมเลยครับ (หัวเราะ) อวยตัวเองละ
ดัง: เล่นเป็นโซ่ครับ จะเป็นคนซื่อๆ เชื่อคนง่ายครับ ก็ไม่ได้ห่างจากตัวดังเท่าไร เพราะเราก็เป็นคนเชื่อคนง่ายเหมือนกัน (หัวเราะ) ซึ่งสาเหตุที่ตัวละครโซ่ จะไปจีบนิตา ก็ไม่รู้จะจีบยังไง เราจะมีแก๊งเพื่อน ที่รับบทโดย หลุยส์ กับ เอเจ เราทั้งสามคนจีบหญิงไม่เป็น จนเพื่อนบอกว่า ให้โจ๊กสอนจีบนิตามั้ยล่ะ เพราะโจ๊กเคยเป็นแฟนกับนิตามาแล้ว เขาได้มาได้ยังไง เราก็ต้องปรึกษาคนนี้แหละ ซึ่งเราก็เชื่อหมดเลยไม่ว่าเขาจะให้เทคนิก ผิดๆ ถูกๆ เราไม่รู้ เราทำตามเขาหมด เป็นคนซื่อๆ คนนึง สรุปจะได้หรือไม่ได้ ก็ฝากติดตามในวาระซ่อนเร้นนะครับ
เจมี่: รับบทเป็นนิตาค่ะ เป็นดาวมหาวิทยาลัย เรียนคณะรัฐศาสตร์จะมีแพชชั่นเรื่องการโต้วาที ค่อนข้างเป็นคนเรียนเก่งและมีความเนิร์ดนิดนึงค่ะ ส่วนเรื่องที่เขาสองคนคิดจะเข้าหาเราเพราะมีวาระอะไรบางอย่างเนี่ย จริงๆ แล้วนิตาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย แต่ก็มีแอบสงสัยนิดนึง (หัวเราะ) ซึ่งเรื่องราวมันจะมีวาระอะไรซ่อนอยู่ อยากให้ติดตามค่ะ
บูม: ในเรื่องรับบทเป็น ปกครับ
อู๋: ปกเสื้อ
บูม: ปกคอ … อะไรล่ะ (หัวเราะ) ก็ในเรื่องจะเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง ที่เป็นมักเน่(น้องเล็ก) ของกลุ่ม เป็นน้องน้อย คาแรกเตอร์เป็นคนสดใสร่าเริง แต่จะเก็บอาการหรืออารมณ์ไม่ค่อยอยู่ อย่างถ้าเราไม่ชอบ หรือมีอะไรกระทบจิตใจก็จะออกทางสีหน้าตลอด หลักๆ ปกเขาเข้ามหาวิทยาลัยนี้เพราะต้องการตามหาความรัก ความรักของเขาอยู่มหาวิทยาลัยนี้ เขาเลยต้องเข้าที่นี่ครับ ต่อไปคุณความรัก เชิญต่อได้เลยครับ
อู๋: ครับ คุณความรัก สวัสดีครับ อู๋ รับบทเป็นเจ๋งครับ จากที่ปก(บูม) พูดเมื่อกี้ หลังจากปกเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เจ๋งกับปกก็ได้คบกันครับ เจ๋งเป็นนักฟุตบอล อยู่แต่กับเพื่อนผู้ชายเยอะ เขาเลยไม่กล้าที่จะเปิดตัวว่าเขาเป็นแฟนกับปก คาแรกเตอร์ก็จะกวนๆ ห้าวๆ หน่อย เป็นลูกพี่ลูกน้องกับโจ๊กครับ
จุง-ดัง ได้มาเล่นคู่กันอีกครั้ง ในเรื่องนี้ตัวละครของเราเหมือนหรือต่างจากเรื่องที่แล้วยังไง มีพัฒนาการตัวละครยังไงบ้าง
จุง: ตัวละครโจ๊กกับโซ่ โตจากคาบคลื่นกับดาวเหนือในแล้วแต่ดาวมากๆ ในแล้วแต่ดาวคาบคลื่นจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรา สายบุกหน่อย ในวาระซ่อนเร้น จะเป็นตาเราบ้าง จะมีมุมที่คนยังไม่เคยเห็นดังเล่นเป็นสายบุก จะโตขึ้นในระดับหนึ่งเลย อย่างซีนจูบ มันจะไม่เหมือนในแล้วแต่ดาว มันจะมีมากกว่านั้นนิดนึง (พูดขึ้นมาแล้วอยากจะสปอยล์ฉากนี้หรือเปล่า) ในเทรลเลอร์มันมีให้เห็นอยู่บ้าง มันก็จะจูบแบบจริงจัง ไม่ได้จุ๊บละ (หัวเราะ) ตัวละครมันก็โตขึ้นในส่วนนี้ด้วยครับ (ยิ้ม)
จุง: ตัวโจ๊กกับคาบคลื่นต่างกันมากๆ ครับ ตัวคาบคลื่นมันเป็นผู้ชายน่าโดนด่า มันไม่รู้อะไรเลยทำทุกอย่างพลาดหมด พอมาเป็นโจ๊ก เหมือนเขามีลำดับ 1 2 3 ของเขา มีกลยุทธต่างๆ นานา ที่ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถ้าอยากได้อะไรจะวางแผนเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา
จากเรื่องก่อน (แล้วแต่ดาว) จุงดังได้เห็นพัฒนาการของอีกคนยังไงบ้าง
จุง: หล่อขึ้นครับ (ยิ้ม)
อู๋-บูม: อู้วววว เกินไปๆๆ (ป้องปากแซว)
ดัง: (หัวเราะ) เช่นกันครับ ช่วงนี้ยิ่งหล่อบาดใจ ฮั่นแหน่…
อู๋-บูม: เกินไปๆๆๆ (ป้องปากแซว)
จุง: อันนี้ชมตัวเองปะ?
(อันนี้ดังชมใครเอ่ย)
ดัง: อ๋อ ชะ ชมคุณอาเชน (หัวเราะ)
บูม: เกินปายยยย *แซวไม่หยุด
ดัง: ก็นอกจากบุคลิกภาพ เราก็เวิร์คช็อปกับทางผู้กำกับ เพื่อให้ได้ตัวละครนี้มา ถ้าอย่างเราอ่านแค่บท เราอาจจะไม่เข้าใจตัวละคร ต้องไปปรึกษาผู้กำกับก่อนที่เราจะถ่ายทำครับ
จุง: มันก็มีสิ่งที่เราต้องตีความตามสิ่งที่ผู้กำกับต้องการครับ
ก่อนหน้านี้ อู๋-บูม ได้เล่นคู่กันมาแล้ว แต่เรื่องนี้ได้จับคู่กันแบบเต็มตัวเลย เป็นยังไงบ้าง
อู๋: ก่อนหน้านี้ร่วมงานกับพี่บูมเรื่อง ใครคืออองชองเต ตอนนั้นเล่นเป็นคู่แข่งกัน แล้วก็มาเล่นเรื่องที่สองเป็น vice versa ที่ได้คู่กันช่วงท้ายๆ ก็ไม่เชิงได้คู่กัน มันก็มีโมเมนต์อะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะคู่กัน แต่เรื่องนี้ได้มาคู่กันเต็มๆ แบบจริงจัง …ก็ตื่นเต้นครับ (หัวเราะ) อยากเห็นตอนซีรีส์ออนเต็มๆ ว่าภาพที่เราเล่นออกมามันจะเป็นยังไง
บูม: ใช่ครับคิดเหมือนอู๋เลยครับ
อู๋: อ้าว
บูม: เรื่องนี้ได้มาร่วมงานกับอู๋อีกครั้งนึง รู้สึกว่าตื่นเต้นมากที่ครั้งนี้เราได้เล่นคู่กันแบบจริงจัง อย่างที่อู๋บอกว่าก่อนหน้านี้เราได้เจอกันมาใน ใครคืออองชองเต แล้วก็ vice versa ที่คู่กันท้ายๆ ส่วนเรื่องนี้เราได้คู่กันแต่แรกเลย พาร์ทการทำงานเราร่วมงานกันมาสักพักนึงแล้ว เราสามารถปรับจูนเรื่องการทำงานได้ไม่ยากเท่าไร สิ่งที่ยากคือการที่เราได้จับคู่กัน แม้เราจะเคยได้เล่นคู่กันบ้างก่อนหน้า พอมาคู่จริงจังทำให้เราคิดว่า นี่เราต้องพยายามเอาชีวิตจริงเข้ามาในซีรีส์เหรอ (ดัง: หวานไง) เพราะอย่างในเรื่องใครคืออองชองเต เราไม่ค่อยได้เข้าบทด้วยกันเท่าไร
อู๋: เข้ากันทีก็ตีกันตาย
บูม: แต่ก็น้อยนะที่เข้าด้วยกัน มันกลายเป็นว่าเราสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น พอสนิทกันแล้วได้มาทำงานร่วมกัน ก็รู้สึกแปลกดีนะที่ได้ทำงานกับคนที่เราสนิทมากๆ
คิดว่าคาแรกเตอร์คู่ของคุณมีนิยามหรือสไตล์เป็นยังไง
อู๋: สไตล์วันสไตล์พรุ่งครับ
ทุกคน: (หัวเราะ) ช็อตฟีลมาก
อู๋: แปลกๆ ไม่น่าดี (หัวเราะ)
บูม: *คิดหนัก … จริงๆ แล้วแต่อารมณ์นะ
อู๋: จริง แล้วแต่อารมณ์ บางวันก็ช็อตฟีลกันบ้าง บางวันก็กวนกันบ้าง บางวันก็สนับสนุนกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะช็อตฟีลกันมากกว่า
บูม: ใช่ครับ สนิทกันมาก
ดัง: ขอแทรกครับ ผมรู้สึกว่าสองคนนี้หวานกันมาก ผมไถทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรม เห็นเขาอยู่ด้วยกันตลอดเลย วันนี้ก็ใส่สร้อยคู่มานะ สั่งซื้อให้กันเองด้วย ผมพูดเลยว่าคู่อู๋บูมหวาน มดเป็นล้านตัว
บูม: แต่ก็ไม่เท่าจุงดังหรอกครับ
ในเรื่องนี้ เจมี่ มีหนุ่มแอบมาชอบ ตามจีบ ชีวิตจริงมีโมเมนต์แบบตัวละครไหม
เจมี่: หนุ่มๆ ตามจีบเหรอคะ ถ้ามัธยม มหาวิทยาลัยก็มีบ้างค่ะ แต่ถ้าด้วยตัวคาแรกเตอร์แล้ว นิตาค่อนข้างมีความคล้ายมี่ตรงที่เป็นทั้งเด็กเรียน เด็กกิจกรรม ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับชีวิตจริงของเรา เขาจะเป็นคนที่จะทำอะไรก็ต้องทำให้ดี สิ่งที่ต่างกันคือเขาอยู่ชมรมโต้วาที แล้วก็จะเป็นคนชอบโต้วาที ชอบหาเหตุผลมาเถียง ซึ่งตัวเราจะไม่ค่อยชอบเถียงกับใคร เราเป็นคนค่อนข้าง Introvert มากๆ ถ้าไม่สนิทจะไม่ค่อยคุยด้วยเท่าไร แต่ถ้าสนิทก็จะคุยไม่หยุด
งั้นเม้าท์หนุ่มๆ ตอนอยู่ในกองถ่ายหน่อย บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง
เจมี่: ทุกคนก็คือเอนเนอจี้ล้นมากค่ะ สดใสมากค่ะ มีพลังงานกันเยอะ (หัวเราะ) เวลาพักเขาก็จะไม่พักไม่หลับกัน เขาจะเล่น หรือหากิจกรรมทำ เดินไปเม้าท์กันนู่นนี่นั่น กินขนมไปเรื่อย อย่างจุงเนี่ย บางทีก็จะไปแต่งหน้าให้คนนู้นคนนี้
จุง: ใช่ครับ (ยิ้ม)
เจมี่: เขาเป็นช่างแต่งหน้านะคะคนนี้
จุง: พอดีเพื่อนของดังมากองครับ เขามาเข้าฉากด้วย แต่เขาไม่ได้แต่งหน้ามา เราก็อยากให้เพื่อนหล่อด้วย เพราะทุกคนในเรื่องเขาแต่งหน้าหล่อกัน เราเลย ไหนๆ เพื่อนมาละ งั้นเราแต่งหน้าให้เพื่อนเลย
ดัง: ขอสกิลเมคอัพอาร์ติสหน่อย โชว์สกิลเมคอัพสิ
จุง: จริงๆ มันง่ายมากครับ ใครๆ ก็ทำได้ เอาฟองน้ำไปชุบกับ Foundation (รองพื้น) ถูหน้าปื้บๆ ผิวก็จะสวยละ พอผิวสวยแล้ว เราก็แค่ลงคอนทัวร์สร้างมิติบนใบหน้า แค่นั้นเอง จบ! (*ทำหน้าภูมิใจ)
(มีใครเคยถูกจุงแต่งหน้าให้บ้าง?)
ดัง: แต่งให้แค่เพื่อนดัง แต่ถ้าในนี้… ยังนะครับ แล้วก็ไม่เคยคิดเลย
จุง: โห
ดัง: เอ้ย ล้อเล่นๆ (หัวเราะ)
จุง: ไม่ต้องล้อเล่น คุณไม่เคยคิดจริงๆ
ดัง: *หัวเราะลั่น ผมก็เคยคิดอยู่ บางทีเราไปเที่ยวด้วยกัน อย่างตอนไปบางแสน ตอนจะถ่ายรูปก็มีนิดนึงอยากให้เขาแต่งหน้าให้ดีไหม แต่ผมก็คิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ไม่เป็นไร หน้าสดถ่ายรูปไปเลยละกัน
จุง: อีกนิดเกือบดีแล้วนะ
ดัง: ครั้งหน้าแล้วกัน พูดเลย ถ้าไปไหนเดี๋ยวจะลองให้แต่งหน้า แต่ว่าอย่าแต่งแบบบัตเตอร์ฟลายบนอาย อะไรแบบนี้ไม่เอานะ เอาแบบธรรมดา
จุง: บัตเตอร์ฟลายบนอาย คืออะไรอะ ผีเสื้อ… อ๋อ แต่งแฟนซีงี้เหรอ
ดัง: (หัวเราะ)
จุง: เราก็ไม่ได้เก่งขนาดจะแต่งแฟนซีได้นะ แต่งให้ผิวสวยดูดีธรรมชาติอาจจะทำได้ครับ
บูม: ไม่เหมือนฝั่งนี้เลย แต่งให้กันตลอด
จุง: จริงเหรอ แต่งหน้าเหรอ
บูม: แต่งหน้าสิ ทุกครั้งที่ถ่ายรูปเสร็จ โอ้โห เหม่ยตูตลอด เหนื่อยมาก ต้องมานั่งแต่งรูป
ดัง: อ๋อ คนละแต่ง (หัวเราะ)
ทุกคน: (หัวเราะ)
(เจมี่มีอะไรจะเม้าท์ในกองอีกไหม?)
เจมี่: อีกอย่างที่เห็น หนุ่มๆ เขาชอบมาร์คหน้ากันมากค่ะ
ดัง: โอ้ว (หัวเราะ)
เจมี่: กองนี้เขารักสวยรักงามกันค่ะ เขาเป็นลูกรักช่างแต่งหน้า
ดัง: ลูกรัก (หัวเราะ)
(แล้วในกองเจมี่ทำอะไรบ้าง?)
เจมี่: ช่วงที่ผ่านมามี่มีเรียนป.โท ส่วนใหญ่ก็จะเอาวิจัยมานั่งทำ หรือนั่งเรียนค่ะ ก็จะแอบแยกตัวนิดนึง
มาถึงคำถามเกี่ยวกับการจีบกันบ้างดีกว่า
ดัง: อื้อหือไม่รู้เรื่องเลย
วิธีจีบแบบไหน ที่รู้สึกว่า ถ้าถูกจีบแบบนี้ จะเซย์เยสแน่นอน (แพ้คนแบบไหน?)
ทุกคน: *ทำท่าคิดหนัก
ดัง: แพ้คนแบบเธอ (*ยิ้มมั่นใจ)
ทุกคน: หูย เธอไหนๆ? ฮิ้ววว
ดัง: (*ยิ้มเขิน)
จุง: ไอ้ต้าวเอ้ย
(ใครจะตอบก่อนดี)
เจมี่: แพ้คนล้างจานให้ (*ยิ้ม)
ทุกคน: เฮ้ยยย
เจมี่: เพราะรู้สึกว่าแบบ ถ้าเขาล้างจานให้แสดงว่าเขาสังเกตว่าเราไม่ค่อยชอบล้างจาน แต่เราชอบกิน บางทีก็ใช้ภาชนะเยอะ เราก็จะขี้เกียจล้างจานอะไรแบบนี้
ดัง: สุดยอดๆ
เจมี่: แบบที่เขาทำให้โดยที่เราไม่ได้บอกให้ทำ จนเรารู้สึก อุ้ย ทำไมน่ารักจัง
(เป็นการกระทำที่แสดงความใส่ใจเนาะ)
จุง: จุงแพ้สกินชิพครับ สมมติว่าเราเจอกัน แล้วถ้าชอบประมาณ 50% พอมันมีปฏิสัมพันธ์ จับแขน จับไหล่ หรือว่าตอนกินข้าว ยื่นกระดาษทิชชูมาให้ มีแตะมือนิดหน่อยอะไรงี้ มันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แพ้ความใกล้ชิดครับ (ยิ้ม)
ดัง: เอาละ ยากมาก โอ้โหไม่รู้อะ แปบนึงนะ… เอางี้ดีกว่า ถ้าใครจะมาปรึกษาเรื่องการจีบเนี่ย ผมว่าดังควรเป็นคนสุดท้ายที่จะต้องถาม (หัวเราะ) เรารู้สึกว่า ไม่ได้มีเทคนิคหรือว่าสิ่งที่ตัวเองชอบอะ เอาเป็นมองตาละกัน มองตาแล้วรู้ใจ (ยิ้มมั่นใจ) รักแรกมันลืมยาก
จุง: รักมากมันลืมแยก
บูม: รักเธอเป็นคนแรก
อู๋: ถ้าจะแยกมันคงยาก
4 หนุ่ม: เอ้ยยย (หัวเราะ)
ดัง: ก็สรุปเป็นมองตาแล้วรู้ใจละกันครับ แบบถ้าเกิดแค่มองหน้ากันแล้วมองได้นานแบบไม่หลบตา
จุง: ถ้าชอบก็มองจ้องอย่างงี้เลยพี่
ดัง: เนี่ย มองมาเลย มองมาหาดังเลยสักชั่วโมงนึง มองมาเลย (ยิ้ม) *แซวทีมงาน
(นี่มันจะครบชั่วโมงแล้วนะดัง)
ดัง: เอ้ย ฮ่าๆๆ (ยิ้มเขิน) ครับผมก็ประมาณมองตารู้ใจครับ
จุง: แพ้สายตา
(มาถึงสองหนุ่ม แพ้คนแบบไหน)
ดัง: แพ้ฝุ่น
บูม: แพ้กุ้ง เฮ้ย อะไรล่ะ! ก็แพ้คนแบบไหนเหรอ แพ้คนขับรถให้ครับ
ทุกคน: หูย
บูม: จริงๆ เราเป็นคนที่ชอบเรื่องรถมากๆ แต่เราไม่ชอบขับรถ เพราะเราเคยอยู่ในจุดที่นั่งมาตลอด รู้สึกว่าการนั่งมันสบายมากๆ เลยคิดว่าถ้าต้องการใครสักคนหนึ่ง เขาน่าจะเป็นคนที่ขับรถให้เราได้
ดัง: ก็ว่าทำไมมาด้วยกันทุกวันเลย
บูม: ใช่ดิ นั่งซ้อนสามมาวิน
ดัง: ฮ่าๆๆๆๆ แพ้คนขับให้ (หัวเราะลั่น)
จุง: รักแท้แพ้วินมอ’ไซค์
บูม: รักแท้แพ้กาวน์ส้ม
อู๋: กั๊กๆๆ
ดัง: (*หัวเราะลั่นกว่าเดิม)
จุง: อันนั้นหมอ (หัวเราะ)
อู๋: วิดวะๆ (หัวเราะ)
ดัง: อย่ากั๊กดิ๊
บูม: ไอ้บ้าเอ้ย (ยิ้มเขิน)
(ถึงอู๋คนสุดท้ายละ น่าจะได้คำตอบพีคสุดไหมนะ)
บูม: คนตลก โหยขำรอเลย
ดัง: คนนี้คำตอบดีมาก
อู๋: แพ้คนกวนๆ ครับ ได้ปะทะคารม ปะทะฝีปากกับเรา แบบกวนๆ หน่อย
ดัง: ดีเลย เพราะเราเป็นคนพร้อมบวก
บูม: ถ้าถึงขั้นลงไม้ลงมืองี้ได้มั้ย
อู๋: อันนั้นหนักเกินไป (หัวเราะ) แค่กวนๆ หยอกๆ สนุกดีชีวิตมันจะได้มีเอเนอจี้การคุยที่มันสนุก
ถ้าชอบใคร จะรอให้จีบ หรือ รุกจีบ และถ้าหากจะรุกจีบ จะมีวิธีจีบที่เด็ดที่สุดยังไง
ดัง: เอาเลยทุกคน ก่อนเลย
บูม: ถ้าประสบการณ์ด้านความรักต้องยกให้อู๋เลยครับ
อู๋: โยนเลยเหรอ รุกจีบดีกว่า มันจะดูว่าเราจริงใจและชอบเขาจริงๆ แล้วถ้าจีบยังไง ผมเป็นคนชอบฟังเพลง ก็อาจจะทำความรู้จักเขาผ่านเพลงก่อน ว่าเขาชอบเพลงแบบไหน แนวไหน เวลาเราคุยกับใครสักคนนานๆ เราจะเริ่มชอบในสิ่งที่เขาชอบเหมือนกัน
(คนต่อไปใครต่อดี)
อู๋: อย่างพี่บูมเขาค่อนข้างเทพในเรื่องการจีบนะครับ ระดับปรมาจารย์
บูม: จริงๆ คงจะรุกไปจีบครับ เพราะสมมติว่าเราชอบใครก็จะไปจีบคนนั้น จะไม่ค่อยชอบคนที่มาจีบเราเท่าไร แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า อยากจะลองไปชอบคนที่เขามาจีบเราบ้างดีกว่า (ดัง: รักคนที่เขารักเรา) เพราะว่าที่ผ่านมาเราไปจีบคนที่เราชอบมันก็ผิดหวังทุกทีครับ มันก็จะมีแต่ช้ำใจ เราก็เลยคิดว่า ถ้าเราลองเปิดใจให้กับคนที่รักเรา มันจะเป็นยังไง รออยู่นะครับ
(บอกใครหรือเปล่า?)
ดัง: รอใครอะ
จุง: ฮิ้ว
ดัง: ถ้าเกิดต้องเลือกระหว่างเราไปจีบเองหรือรอให้เขามาจีบ ผมรู้สึกว่าผมเลือกที่จะรอให้เขามาจีบดีกว่า เพราะว่าผมจีบไม่เก่ง รู้สึกว่าคนที่มาจีบเรา เขาต้องอยากทำดีกับเรา ถ้าเกิดเราไปจีบคนนั้น แล้วเรารู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว เขาไม่ได้รู้สึกกับเราขนาดนั้น ก็เลยอยากให้เขามาจีบมากกว่า มันก็สบายดีครับ
(ถ้าเราดันรู้สึกมากๆ จะไม่เสียใจเหรอที่ไม่ได้บอกเขา)
ดัง: ถ้ารู้สึกชอบมากๆ ผมก็ไม่บอกอยู่ดี ถ้าเกิดเป็นเพื่อนกันผมก็ไม่อยากบอก ไม่อยากเสี่ยงให้ความสัมพันธ์เพื่อนต้องมาแปลกๆ หรือผิดไปจากเดิม ไม่อยากให้เขารู้สึกเราเปลี่ยนไป เลือกไม่บอกดีกว่าครับ
จุง: เอาจริง ผมชอบทั้งสองอย่างเลย ทั้งไปจีบ ทั้งโดนจีบ เพราะโดนจีบมันก็จะรู้สึก ฮึ้ย น่ารักจังวะ หรือเราไปจีบเขา เราก็จะรู้สึกท้าทายดี อย่างเราก็ทำงานต่างๆ นานา ก็ไม่ได้มีเวลามานั่งโฟกัสเรื่องความรักอะไรขนาดนั้น เพราะว่าทุกวันนี้ก็ทำงานทุกวัน เราไม่มีเวลาให้ตัวเอง ไม่มีเวลาให้คนอื่นด้วย แต่มันก็ดูท้าทายเราดีครับ ส่วนจีบแบบไหน ผมคงพาไปกินข้าว ร้านอาหารสลัวๆ อาจจะกินอาหารอิตาเลียน อาหารฝรั่ง สเต็ก สปาเก็ตตี้ มีแสงเทียนหน่อยๆ ดนตรีแจ๊ส ถ้าเป็นเดตแรกก็อาจจะแบบ เราจะเป็นคนจ่ายตังค์ เราเป็นคนเลี้ยงเขา เราขับรถไปรับเขา เราขับรถไปส่งบ้านเขา ขากลับอาจจะมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ ถ้าชอบมากๆ ก็เปย์ครับ
ดัง: ถ้าชอบมากก็เปย์ ถ้าชอบไม่มากก็ไม่เปย์ (หัวเราะ)
จุง: อ่า ถ้าชอบไม่มาก ก็ดูไปเรื่อยๆ ครับ ถ้ามันยากมาก หรือรู้สึกว่าเขาไม่ใช่… เราก็แค่ทำให้มันใช่
ทุกคน: โห นี่มันกูรูความรัก
(มาถึงคนสุดท้ายสาวสวยหนึ่งเดียวของเรา)
เจมี่: ถ้าหนูเจอคนที่ชอบหนูก็จะรุกจีบเลย เพราะรู้สึกว่าเราก็มีสิทธิ์เลือกของเรา
ทุกคน: หู้วววว
เจมี่: หลายๆ ครั้งคนที่เข้ามาจีบแล้วเราไม่ได้ชอบเขา เอาจริงๆ เราก็แอบลำบากใจที่ต้องปฏิเสธ มันต้องมีการทำให้เสียความรู้สึกกันเกิดขึ้น ก็เลยชอบที่จะเข้าไปจีบเอง วิธีจีบก็คงจะชวนไปเดินเล่น คุยกัน เพราะมี่เป็นคนชอบเดินมาก ถ้ามีเวลาก็จะเดินกลับบ้าน แต่ถ้าอากาศดี ก็อยากชวนเดินเล่นคุยกัน ใช้เวลาด้วยกันเต็มที่
(อยากรู้สถานที่น่าเดินเล่นของเจมี่)
เจมี่: มีนะ ทางสวนลุมที่เป็นทางเขียวๆ แล้วก็ไปสวนป่าเบญจกิติ แล้วก็ไปสวนเบญจกิติต่อ สามารถเดินวนไปวนมาได้ ต้องเป็นนักเดินนิดนึง และก็จะพาไปรองคาราโอเกะกันต่อ
ดัง: ต้องเป็นคนที่ทุ่มเทเลยนะ เป็นนักเดินด้วย เราชอบร้องเพลงก็ต้องชอบล้างจานด้วย
เจมี่: ไม่ต้องชอบร้องเพลงมากก็ได้ แต่ต้องชอบฟังเราร้อง
ดัง: อ๋อออ น่ารักเกิน
ติดตามชมซีรีส์ วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และทาง YouTube : GMMTV Official พร้อมกันทั่วโลก
คุณกำลังดู: คุยกับนักแสดงซีรีส์ "วาระซ่อนเร้น" อยากเป็นคน รอจีบ หรือ รุกจีบ ?
หมวดหมู่: หนัง-ละคร