"คบเพลิงและเหรียญรางวัล" องค์ประกอบหลักและเอกลักษณ์ของหางโจว 2022 (ภาพ)
การแข่งขันมหกรรมกีฬาในระดับต่างๆนั้น กิมมิค
หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยส่วนหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาก็คือคบเพลิงที่จะใช้จุดไฟอันเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นของการแข่งขันและเหรียญรางวัลที่นักกีฬาจะได้รับเมื่อเป็นผู้ชนะ
สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ปี 2022 ณ เมืองหางโจว
ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 23
กันยายน - 8 ตุลาคม 2023 นี้ เจ้าภาพได้ทำการเปิดตัวคบเพลิง "ซิน
หั่ว" กับเหรียญรางวัล "ชาน ฉ่วย"
สู่สายตาชาวเอเชียเป็นที่เรียบร้อยแล้วและก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม
ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่าผู้ออกแบบนั้นสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างงดงามและมีความหมายสมกับการรอคอย
บทความนี้จะพาทุกท่านไปพบกับคบเพลิงและเหรียญรางวัลของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์
2022 หรือหางโจวเกมส์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว
และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบกันครับ
"เปลวไฟนิรันดร์"
คบเพลิงประจำหางโจวเกมส์
คณะกรรมการจัดการแข่งขันหางโจวเกมส์ได้เปิดตัวคบเพลิงที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า
"Eternal Flame" หรือก็คือ "เปลวไฟนิรันดร์"
โดยการออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรม "เหลียงจู่"
ที่มีจุดกำเนิดเมื่อ 5,000 ปีที่ผ่านมา
โดยแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ทางเจ้าภาพเน้นให้ตัวคบเพลิงมีความสง่างามและแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งตามแบบฉบับของชาวจีน
ตัวฐานของคบเพลิงจะมีลักษณะเป็นลายนูนโดยมีเส้นสายทั้งหมด 8
เส้นเพื่อสื่อถึงแม่น้ำสายหลักทั้ง 8 สายในมณฑลเจ้อเจียง
ที่เป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมจีนโบราณ
ส่วนหัวของคบเพลิงจะมีลักษณะเป็นแบบ "หยกฉง"
ซึ่งเป็นหยกที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมจีนมาอย่างยาวนาน
โดยการเลือกใช้หยกฉงที่หัวคบเพลิงนั้นผู้ออกแบบต้องการให้มีการเข้ากันกับชื่อ
"เปลวไฟนิรันดร์"
ที่สื่อถึงการส่งต่ออารยธรรมจีนจากรุ่นสู่รุ่นจากอดีตมาสู่ปัจจุบันและจะต่อเนื่องไปยังโลกอนาคตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ซึ่งคบเพลิงนี้มีความสูงอยู่ที่ 730 มิลลิเมตร และน้ำหนักสุทธิ 1,200
กรัม
สำหรับคบเพลิง "เปลวไฟนิรันดร์"
ได้ถูกจุดอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา
ณ สวนต้าโม้เจี่ยวซาน ซากเมืองโบราณเหลียงจู่ ในเมืองหางโจว
มณฑลเจ้อเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าเป็นการนับถอยหลัง
100 วันก่อนที่พิธีเปิดหางโจวเกมส์ 2022
จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
สำหรับสาเหตุที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเลือกสวนต้าโม้เจี่ยวซาน
ซากเมืองโบราณเหลียงจู่
เป็นที่จุดไฟคบเพลิงนั้นก็เพราะชาวจีนมีความเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ยุคโบราณ
ดังนั้นไฟคบเพลิงที่เริ่มจุด ณ
สถานที่แห่งนี้ก็เปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำพาอารยธรรมเหลียงจู่ข้ามผ่านกาลเวลามาสู่ปัจจุบันและต่อเนื่องไปยังอนาคต
เหรียญรางวัล "ชาน ฉ่วย"
ที่ระลึกแห่งชัยชนะ
เหรียญรางวัล "ชาน ฉ่วย" ที่ออกแบบโดยศาสตราจารย์ จาง จุนเจี๋ย นั้น
คือเหรียญรางวัลที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์จะมอบให้กับนักกีฬาที่สามารถยืนอยู่บนโพเดียมอันดับที่
1-3 เท่านั้น โดยลวดลายของเหรียญรางวัลนี้จะเป็นรูปทะเลสาบและภูเขา
และลักษณะรูปทรงของเหรียญ "ชาน ฉ่วย" นี้ได้แรงบันดาลใจจาก "หยกอี้ฉง"
ซึ่งเป็นหยกโบราณที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมเซ่นไหว้ในวัฒนธรรมเหลียงจู่โบราณโดยตัวเหรียญจะมีรูปร่างเป็นขอบเหลี่ยมด้านนอกตัวเหรียญส่วนด้านในตัวเหรียญนั้นจะยังคงความเป็นวงกลมไว้เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ทางภูมิศาสตร์ของเมืองหางโจว
ที่ด้านหน้าของเหรียญรางวัล "ชาน ฉ่วย" จะเป็นภูเขาและทะเลสาบ "ซีหู"
ที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากโดยทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นบ่อเกิดของบทกวีและนิยายชื่อดังมากมายหลายเรื่องของประเทศจีน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องนางพญางูขาวนั่นเอง โดยหน้าเหรียญ "ชาน
ฉ่วย" ที่มีทะเลสาบ "ซีหู" นั้นก็จะมี "สะพานสะบั้นรัก"
และโคมไฟที่สร้างเป็นทรงเจดีย์หิน 3 ดวงร่วมอยู่ด้วย
ส่วนด้านหลังของเหรียญรางวัล "ชาน ฉ่วย"
นั้นจะเป็นสัญลักษณ์ของกีฬาเอเชียนเกมส์ตามธรรมเนียมปฏิบัติ
เมื่อทุกท่านอ่านมาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าเราคงมีความรู้สึกไม่ต่างกันนะครับว่าเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้มีความใส่ใจในการสร้างกิมมิคของคบเพลิงและเหรียญรางวัลเป็นอย่างมาก
ทุกรายละเอียดล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรมอันมีประวัติศาสตร์ที่แสนยาวนานของประเทศจีนและเมืองหางโจว
ผู้ที่ได้ครอบครองเหรียญรางวัลในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้นอกจากจะเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะในเกมการแข่งขันแล้ว
ก็ยังเปรียบเสมือนได้มีส่วนร่วมกับการส่งต่อวัฒนธรรมจีนจากอดีตไปสู่อนาคตอีกด้วย
คุณกำลังดู: "คบเพลิงและเหรียญรางวัล" องค์ประกอบหลักและเอกลักษณ์ของหางโจว 2022 (ภาพ)
หมวดหมู่: กีฬาอื่นๆ