คุยกับ Better Weather ถึงการเข้าสู่ศิลปินอิสระเต็มตัว และ “มนตรา” โปรเจกต์ที่ค้างคา 10 ปี
Better Weather กับเพลงสุดท้ายก่อนออกจากค่าย
ที่ผ่านมา Better Weather ที่มากับสมาชิกอย่าง ดิว - ธนภัทร์ ธนากรกานต์ (ร้องนำ), ฟุ้ง - อัครชนช์ ราชปันดิ (กีตาร์) และ แจ็ค-พร้อมพงษ์ พรหมปัญโญ (เบส) ได้เติบโตจากเด็กใหม่ สู่วงที่มีเพลงเป็นที่รู้จักและสไตล์ชัดเจน มีคอนเสิร์ตเดี่ยว เจอการจากลาของสมาชิกรุ่นแรก และได้เข้าสู่การเป็นผู้บริหารค่าย FINE FIND BEAT ของฟุ้ง และล่าสุดวงก็ได้เริ่มนำซาวด์ใหม่ๆ มาทดลอง
นอกจากการเล่าถึงเพลง “มนตรา” ที่มาพร้อมซาวด์ใหม่ๆ พร้อมเป็นผลงานจาก 10 ปีที่แล้ว เรายังได้เรียนรู้ว่าวงกำลังจะก้าวสู่การเป็นศิลปินอิสระหลังอยู่กับ TERO MUSIC มานาน และยังให้พวกเขาทำ SANOOK RESUME ตอบคำถามสุดปั่นด้วย
เพลง “มนตรา” มีที่มาอย่างไร
ดิว : เป็นเพลงดึกดำบรรพ์ครับ เป็น 1 ใน 5 เพลงที่อยู่ใน EP อัลบั้มแรกในชีวิตที่ชื่อ EVER FEEL BETTER ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 3 ปี 4 และบันทึกเสียงที่เชียงใหม่เกือบทั้งหมด หลักๆ ทำงานที่เชียงใหม่ ใน EP ก็จะเป็นเดโม่ และก็ส่งไปที่ Sony Music หรือ Tero Music ในปัจจุบัน และตอนนั้นหาช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่เอาเพลงนั้นมาใส่ในอัลบั้มไม่ได้ เพราะในอัลบั้ม Better Than Looks มีเพลง “Is this Love”, “ไม่เคยไม่รักเธอ” เป็นแนวสีสันสดใส ถ้าอยู่ในอัลบั้มนั้นจะไม่เข้าพวก
และพอเพลงในอดีตมาอยู่ในปัจจุบันที่ยุคสมัยเปลี่ยน ต้องปรับอะไรบ้าง
ฟุ้ง : มันก็เพลงนี้ก็หลายรูปแบบมาแล้ว ในตอนเล่นสดก็เป็นบริทป็อป เพลง “มนตรา” ก็อยากให้มันลอยๆ ก็ทำให้เป็น LO-FI Hiphop สมัยก่อนใช้คอมทำเพลงไม่ชำนาญ แต่ตอนนี้การทำลูป ทำดนตรี ก็ทำจากที่บ้านได้ ก็ทำการทดลองจากตอนไปโปรดิวซ์ให้กับคนอื่น ก็ได้อีกฟีลที่ Better Weather ไม่เคยทำ และได้คุณ บี VYBES มาฟีท บรรยากาศการทำงานเก่าๆ ก็ไปทำที่เชียงใหม่ ก็ได้ความรู้สึกในการทำงาน 10 ปีที่แล้ว ก็ไปทำงานที่สันกำแพง เปิดหน้าต่างชิลล์ๆ เพื่ออัดกีตาร์เพลงนี้ครับ (หัวเราะ)
แล้วเวลาที่เราเปลี่ยนแปลง เราเจอแรงต้านไหม
ฟุ้ง : มันเป็นเรื่องปกตินะครับ อย่างผมชอบ Coldplay ในยุคก่อน แต่ก็ชอบที่เขามีวิวัฒนาการในการทำเพลง อย่าง Better Weather หลายคนอาจชอบชุดแรก แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรใหม่ๆ ให้กับวงการ เราก็จะเบื่อเองครับ คนจะบอกว่าทำไมเราทำเหมือนเดิม มันต้องเหมือนเดิม คือเราไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ แต่ตอนนี้เราอยากทำอะไรใหม่ๆ ดู ผสมผสานสิ่งที่เป็นตัวเอง ไม่ใช่ฉีกจากตัวตน อะไรไม่เคยทำก็ทำ อัลบั้มหน้าก็อาจจะ Back to basic แบบอัลบั้มแรกก็ได้ครับ เพราะมันจะวนการทำงานมาหมดแล้วครับ
แล้วการปรับตัวกับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างไร
ฟุ้ง : จริงๆ แล้วเราก็มันจะเป็นวงที่ด้อยเรื่องการเล่นโซเชียล ก็รู้หมด ตามดูมีแอคทวิตเตอร์ Thread Tiktok แต่ไม่รู้จะเล่นอะไรให้เหมาะกับเรา หรือธรรมชาติของเราอาจจะเป็นผู้ดู ผู้ชมถนีดการทำเพลงมากกว่า มันไม่ใช่ธรรมชาติของเรา แต่ต้องพยายามทำครับ
ดิว : คราวที่แล้วเต้นครั้งแรกเพลง “Australia” คือเราไม่ได้ปิดกั้นเลย เปิดหมดครับ แต่บางอย่างเราไม่ถนัดครับ
การทำงานกับ FINE FIND BEAT ของฟุ้ง ช่วยการทำงานของวงอย่างไรบ้าง
ฟุ้ง : อย่าง VYBES นี่ศักยภาพสูงมาก เล่นแบ็คอัพและบีแต่งแร็ปได้ดี มีชั้นเชิงเยอะ ก็เอาบีมาฟีทกับเรา คือเขาคิดเหมือนเรา รุ่นเดียวกัน รู้ว่าจะเล่าอะไร ใช้คำแบบไหน เสียงซินธ์ก็ได้น้องมาร์ช VYBES มาช่วยอัด คนเห็นชื่อวงก็จะกลับไปฟัง อย่าง Aran ก็มีมุมมองนักแต่งเพลง เป็นนักข่าว PR ก็แชร์มุมมอง Aran ก็แนะนำเสริม Mariko ก็ถนัดภาพวิชวล ส่วน Eii ก็คุยเรื่องหญิงล้วนๆ (หัวเราะ) เราเลือกคนที่ทำงานดี ร้องสดได้ครับ เน้นความสามารถของแต่ละคน จัดจ้านครับ
Better Weather เป็นวงที่มีงานเยอะ เรามีเหตุการณ์ที่จดจำไหม ทั้งดีและไม่ดี
ดิว : คนดูที่ไม่น่ารักมีครับ บอกจังหวัดได้ไหม (หัวเราะ) ก็เราพึ่งมีผลงานเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และเขาไม่รู้จัก ก็อยากให้เราเล่นเพลงที่เขาอยากฟัง ก็มาแบบมาชี้หน้าว่าพวกเราเป็นใครวะ ผมใช้คำว่าเขาไม่ให้เกียรติ คือคุณไม่สามารถเอาเงินไปปาใส่เขาได้ คือเงินของคุณมาทำกับพวกผม คือถ้าเรื่องสมัยก่อนมาเกิดตอนนี้คงไม่แพ้คุณโจอี้ ภูวศิษฐ์ อะครับ ส่วนความน่ารักก็มีเขียนการ์ด มีทำบ้านให้ ช่วงโควิด-19 ก็จะเจอยากขึ้น แฟนๆ ก็ต้องคิดมากขึ้นกว่าจะออกมา
ฟุ้ง : แฟนๆ เราก็มีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น จากคนที่ 18 ตอนนี้ก็ 28 30 มีครอบครัวกันหมด ก็ยังฟังนะครับ ก็มีคนอินบ็อกซ์ว่าเพลงไปประกอบซีรีส์ ก็คิดถึงเวลานั้น บางคนเป็นเจ้าของกิจการและซื้อโชว์เราไปเล่นเพื่อเติมเต็ม
ดิว : เพลงพวกเราไม่ได้หยุดตามคนฟัง ก็จะมีน้องๆ ใหม่ๆ เข้ามา ก็เปิดรับฟังพวกเรา อย่างมีเพลงต่างๆ ไปประกอบซีรีส์ด้วยครับ
หลังจากนี้ทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อสำหรับ Better Weather
ฟุ้ง : เพลงที่ปล่อยจะเป็นเพลงสุดท้ายที่ทำกับ Tero Music แล้วครับ ก็ผมว่าการที่ผมเลือกเพลงนี้มันจบสวยๆ เลย เป็นเพลงที่จดจำกัน เป็นการจากลาคืนนี้จะผ่านพ้นไป 13-14 ปี ก็เป็นช่วงอายุคนเลย อยู่ Sony และ Tero ทำให้พวกเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ได้ไปทำเพลงละคร ก็ได้รับโอกาสนั่นนี่ ไปเล่นงานต่างๆ ต้องขอบคุณ Tero ยังรักยังห่วง คือมันไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เรารู้สึกว่าอยากทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้าง เลยอยากลองไปทำอะไรใหม่ๆ ดู ก็คิดว่าอาจเลิกทำเพลง แต่ไม่ได้เลิก แต่เป็นช่วงทำงานใหม่และอัลบั้มปีหน้าครับ ปีนี้ก็พอแค่นี้ครับ ถามว่ากังวลไหม พวกเราผลิตงานกันเอง ขั้นตอนต่างๆ เบื้องหลังก็รู้ขั้นตอนหมด แค่วินัยที่ต้องขยันมากขึ้น ไม่มีใครจี้เราแล้ว ต้องวางแผนปีหน้าปล่อย 4 เพลง และมีอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องเพลงอาจไม่กดดันเท่าค่ายว่าต้องป็อป ก็อยากทำอะไรก็ทำช่วงนี้ คิดว่าสนุก ไม่ได้กังวลแต่อาจมีเล็กน้อยเรื่องการบริหาร เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรครับ
อยากให้คนจำ Better Weather อย่างไร
ดิว : อยากให้จำว่าเป็นวงอารมณ์ดี เข้าถึงง่าย เพลงเพราะสามารถร้องตามได้เล่นสดแล้วสนุกครับ
ฟุ้ง : พวกผมเป็นวงง่ายๆ เรื่องไม่เยอะ คือเราจะให้เกียรติคนดูแบบกลับบ้านได้ไหม งานดึก เหมือนพี่เหมือนน้องมากกว่า ก็ดูแลเอาใจใส่น้องๆ หน่อย แบบบางที่ไกลครับ
Photo : Thanapol W.
คุณกำลังดู: คุยกับ Better Weather ถึงการเข้าสู่ศิลปินอิสระเต็มตัว และ “มนตรา” โปรเจกต์ที่ค้างคา 10 ปี
หมวดหมู่: เพลง