คุยกับ “ทะเล” ถึงชีวิตที่เริ่มจาก “ผู้ฟัง” สู่ “ศิลปิน” ผู้กระหายเวทีของตัวเอง
ปฐมบทเส้นทางศิลปินของ ทะเล สงวนดีกุล ผู้อยู่กับดนตรีมาตลอด
เวลาพูดชื่อ TALAY (ทะเล สงวนดีกุล) หลายคนอาจจะจดจำเขาในฐานะนักแสดงซีรีส์วัยรุ่นที่มีผลงานต่อเนื่อง แต่อีกด้านหนึ่งที่ตีคู่มาคือการเป็นศิลปินที่เขาทำควบคู่กับงานแสดงมาตลอด ในโปรเจกต์รวมศิลปินนักร้องอย่าง BOYFRIENDS 1 และ 2 รวมถึงการร้องเพลงซีรีส์
และในโอกาสที่ทะเลได้เข้าสู่บ้าน Baked Brownie และมีเพลง “แอบอยากรู้” ออกมา ทำให้ Sanook Music อยากพูดคุยถึงเส้นทางของเขาจากคนที่รักเพลง มาจนถึงวันที่เป็นศิลปินจริงๆ และเป้าหมายในการมีคอนเสิร์ตของตัวเอง พร้อมให้เขาทำ Sanook Resume ด้วย
ความชอบเพลงของทะเลเริ่มเมื่อไหร่ เรามีใครเป็นศิลปินในดวงใจ
ทะเล : จริงๆ จำไม่ได้ครับ รู้ตัวอีกทีคือฟังเพลงมาตลอด ไม่ว่าจะแบบช่วงที่สอบให้กำลังใจก็จะฟังพี่ ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) อกหักก็ฟังเพลงเศร้า ชอบไปคาราโอเกะกับเพื่อนด้วย ช่วงนั้น Bodyslam วัยรุ่นก็ฟังอยู่แล้ว ศิลปินที่ชอบจะเป็นพี่ เล็ก Greasy Cafe (อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร) ชอบจากเนื้อเพลงที่มันมีความลึก เล่าเป็นฉากๆ ครับ
แนวเพลงของทะเลคือแนวอะไร เรามีนิยามไหม
ทะเล : ป็อปร็อคครับ เป็นป็อปแบบยุค 2000 ครับ
แล้วเรามาอยู่ Baked Brownie ได้อย่างไร
ทะเล : ผมเล่นซีรีส์ดนตรี และพี่ ฟองเบียร์ (ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม) ที่อยู่ Me Records ที่ทำ Baked Brownie ก็มาเห็นพอดี ผมเลยได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ เลยมาทำโปรเจกต์กับค่าย และนี่ชวนมาทำเพลงแล้ว
แม้ว่าจะเพิ่งมา Baked Brownie แต่ก่อนหน้านี้เรามีเพลงละคร และมี “เหงาแหละ” ในโปรเจกต์ BOYFRIENDS รีวิวประสบการณ์ตอนนั้นหน่อย
ทะเล : มันไม่เหมือนกันเลย เหมือนเป็นเพลงที่เสร็จแล้วและเราอ่านเนื้อ ส่วนเราอันนี้พี่ฟองเบียร์หยิบเรื่องราวเราไปทำเพลงอีกที และแนวเพลงเอ็มวีเพลงเป็นตัวเราจริงๆ ทั้งชีวิตจะมี “เหงาแหละ” และ “แอบอยากรู้” ที่เป็นตัวผมจริงๆ ตอนนั้น BOYFRIENDS 2 จะซ้อมหนักมาก ส่วนพาร์ทเล่นกีตาร์พี่ฟองเบียร์ก็ได้ส่งพี่ เต๊ะ WEEED BOMB (อาณัติ วิวรรธน์ธาดา) มาช่วยจนขึ้นไปโชว์ได้
เพลง “แอบอยากรู้ (HUSH)” มีที่มาอย่างไร
ทะเล : ซิงเกิลแรกผมอยากเป็นตัวเองสุดๆ ก็แนวเพลงนี่แหละ ป็อปร็อคที่ผมโตมา ปลาย 2000 รู้สึกผูกพันแนวนี้ เพราะผมอินแนวเศร้ามากกว่าแฮปปี้ กระแสตอบรับก็ดี เพราะออกมาวันกว่าๆ เอง ได้ไปร้องสดด้วย ดีใจที่แฟนๆ ชอบครับ
ก่อนหน้านี้เราทำงานกับพี่แอ้ม อัจฉริยา และคราวนี้เป็นพี่ฟองเบียร์ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง มีคิดเรื่องแต่งเพลงเองไหม
ทะเล : บังเอิญที่ทั้งสองคนนี้ส่งเดโม่มาตอนผมปาร์ตี้พอดี พอออกมาฟังผมก็อินเป็นพิเศษ ผมรู้สึกว่าทั้งสองคนเล่าเรื่องเป็นภาพสื่อเรื่องราวอย่างดี อย่าง “เหงาแหละ” จะเป็นครึ่งหนึ่งของผม และอีกครึ่งเป็น ทอมมี่ (สิทธิโชค เผือกพูลผล) ก็คุยกันว่าจะส่งพาร์ทไหนกัน คอยบอกพี่แอ้ม แต่พอเป็นอันนี้เป็นเรื่องผมร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งพี่ฟองเบียร์เอาไปเขียนตรงเรื่องราวของเขาเหมือนกันครับ และคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับหลายๆ คน
หลายคนที่มาจากสายการแสดง มักถูกมองว่ามาทำเพลงเพื่อเอาสนุก และบางคนมองว่าไม่ต้องพยายามเหมือนศิลปินคนอื่น เราอยากบอกอะไรคนที่คิดมุมนี้
ทะเล : ผมอยากให้ดูว่าเป็นคนละอาชีพ ก่อนหน้านี้ผมอาจจะเป็นนักแสดงที่ร้องเพลง และผมเป็นนักแสดง แต่เวลาขึ้นเวทีผมเป็นศิลปินครับ
เราวางเป้าหมายต่อไปอย่างไรในวงการเพลง
ทะเล : จริงๆ อยากทำเพลงออกมาอีก เป็นตัวเองมากขึ้น อยากมีคอนเสิร์ตตัวเอง ร้องเพลงตัวเองเยอะๆ ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตที่ร้องเพลงตัวเองเลยครับ เพราะนี่เป็นเพลงแรก
อยากให้ทะเลถูกจดจำอย่างไรในฐานะศิลปิน
ทะเล : อยากให้คนจดจำในฐานะร้องเพลงเศร้า ร้องไห้ตรงนั้นเลย เคยทำได้นะครับ แต่เป็นเพลงคนอื่น ผมเป็นคนที่ไม่ร้องไห้ตอนดูหนัง ดูโชว์ ชีวิตจริงไม่ค่อย แต่เป็นนักแสดงเลยได้เริ่มร้องไห้ คือผมเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเท่าไหร่ พอเป็นนักแสดงทำให้กล้ามากขึ้นครับ
Photo by Ditsapong K.
คุณกำลังดู: คุยกับ “ทะเล” ถึงชีวิตที่เริ่มจาก “ผู้ฟัง” สู่ “ศิลปิน” ผู้กระหายเวทีของตัวเอง
หมวดหมู่: เพลง