กีฬากอล์ฟ : ทำไมต้องใช้คำว่า "เบอร์ดี้หรืออีเกิ้ล" เมื่อตีน้อย, "โบกี้" เมื่อตีเกิน?

กอล์ฟ คือกีฬาหรือเกมประเภทบอลชนิดหนึ่ง
ผู้เล่นใช้ไม้หลายชนิดตีลูกบอลให้ลงหลุม จากกฎของกอล์ฟ ระบุว่า
"กีฬากอล์ฟประกอบด้วยการเล่นลูกใดลูกหนึ่งด้วยไม้กอล์ฟจากแท่นตั้งทีไปลงหลุมโดยการสโตรกหนึ่งครั้งหรือหลายครั้งต่อเนื่องกันตามกฎข้อบังคับ"
นอกจากนี้ กอล์ฟ ยังเป็น 1
ในกีฬาประเภทบอลเพียงไม่กี่ชนิดที่ไม่มีอาณาเขตการเล่นที่แน่นอน
เนื่องจากสนามกอล์ฟแต่ละแห่งสามารถมีรูปร่างและขนาดต่างกัน
ในส่วนของการนับคะแนน
เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้างกับคำศัพท์ที่เรียกว่า
เบอร์ดี้, อีเกิ้ล, อัลบาทรอส หรือ โบกี้
แต่น้อยคนจะรู้ถึงที่มาและความหมายที่แท้จริงของมัน โดยเฉพาะ
เบอร์ดี้, อีเกิ้ล, อัลบาทรอส ซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับ "นก" ทั้งสิ้น
ว่าแต่ทำไมต้องใช้คำเหล่านี้ในกีฬากอล์ฟกันนะ?
คำตอบก็คือ เพราะ "นก" เป็นตัวแทนของความอิสระ การลอยตัว
จึงอาจเป็นเหตุผลในการนำมาเป็นคำเรียกของการตีได้ในแต่ละหลุม
เพิ่มความรู้สึกระหว่างที่ลูกกอล์ฟลอยเวหาในแต่ละช็อตนั่นเอง
โดยคำเรียกคะแนนในการเล่นหลุมนั้นๆ
มีดังนี้
- เบอร์ดี้ (Birdie) คือ -1
การที่ผู้เล่นตีน้อยกว่าแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) ไป 1 สโตรค
เช่น พาร์ 5 ผู้เล่นตีเพียง 4 ครั้งลงหลุม
ซึ่ง เบอร์ดี้ (Birdy) คือ นกตัวเล็ก หาเจอได้ง่าย บินอิสระ
คล่องตัว
- อีเกิ้ล (Eagle) คือ -2
การที่ผู้เล่นตีน้อยกว่าแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) ไป 2 สโตรค
ซึ่งมักพบได้บ่อยกับหลุมพาร์ 5 เช่น พาร์ 5 ผู้เล่นตีเพียง 3
ครั้งลงหลุม
ซึ่ง อีเกิ้ล (Eagle) คือ นกอินทรีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย หาได้ยาก
โฉบเฉี่ยว และสง่างาม
- ดับเบิลอีเกิล (Double Eagle) หรือ
อัลบาทรอส (Albatross) คือ -3
การที่ผู้เล่นตีน้อยกว่าแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) ไป 3
สโตรค
ซึ่ง อัลบาทรอส (Albatross) คือ นกเหยี่ยวทะเล เป็นนกที่หาได้ยากมาก
มีพละกำลัง สามารถบินระยะไกลข้ามทะเลได้
- พาร์ (Par) คือ 0
การที่ผู้เล่นตีเท่ากับแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) เช่น หลุมพาร์
3 ผู้เล่นตี 3 สโตรคลงหลุมพอดี
- โบกี้ (Bogey) คือ +1
การที่ผู้เล่นตีมากกว่าแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) ไป 1 สโตรค
เช่น พาร์ 3 แต่เราตี 4 ครั้งลงหลุม
ซึ่ง โบกี้ (Bogey) แปลได้ 2 ความหมาย อาจแปลว่า ปีศาจ หรือ
อาจจะหมายถึง โบกี้รถไฟ ที่มีภาระพ่วงท้าย ยิ่งเราได้โบกี้เยอะ
ก็เหมือนเป็นภาระในการตีครั้งต่อไปๆ
- ดับเบิ้ลโบกี้ (Double Bogey) คือ +2
การที่ผู้เล่นตีมากกว่าแต้มมาตรฐานของแต่ละหลุม (พาร์) ไป 2 สโตรค
เช่น พาร์ 5 แต่เราตี 7 ครั้งลงหลุม
- โฮลอินวัน (Hole-in-One)
เป็นชื่อเรียกเฉพาะในกรณีที่ตีลงหลุมได้ภายในครั้งเดียว
ซึ่งมักเกิดขึ้นในหลุมพาร์ 3 หรือพาร์ 4
จะเห็นได้ว่ากีฬากอล์ฟนั้น ผู้เล่นต้องตีให้คะแนน "ติดลบ" มากที่สุด
ใช้จำนวนครั้งในการตีลูกให้น้อยที่สุดในแต่ละหลุมเพื่อสะสมไปจนถึงหลุมสุดท้ายให้ได้ชัยชนะเหนือคนอื่นๆนั่นเอง
คุณกำลังดู: กีฬากอล์ฟ : ทำไมต้องใช้คำว่า "เบอร์ดี้หรืออีเกิ้ล" เมื่อตีน้อย, "โบกี้" เมื่อตีเกิน?
หมวดหมู่: กีฬาอื่นๆ