เลือก "เมมโมรี่การ์ด" แบบไหน? ให้เหมาะกล้องติดรถยนต์ของคุณ
กล้องติดรถยนต์ถือเป็นอุปกรณ์ใหม่ในโลกปัจจุบันและเป็นวิธีการที่สะดวกในการบันทึกเวลาของคุณขณะขับขี่ และยังเป็นวิธีการที่ดีในการบันทึกหลักฐานอีกด้วย ตัวอย่างเช่น กล้องอาจใช้สำหรับบันทึกการเดินทางไปกลับของคุณระหว่างที่ทำงานและที่บ้าน หรือเพื่อบันทึกภาพระหว่างขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงาม
หรือเพื่อเก็บภาพวิดีโอละแวกบ้านของคุณเมื่อคุณต้องการที่จะเสนอขายบ้านของตัวเอง กล้องติดรถยนต์ถือเป็นวิธีการที่ดีอย่างยิ่งในการพิสูจน์ความผิดเมื่อเกิดการเฉี่ยวชนหรือหากต้องการบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณที่คุณจอดรถไว้
กล้องติดรถยนต์มักจะใช้การ์ด SD (Secure Digital) โดยปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนมาใช้ microSD มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่ากล้องติดรถยนต์ของคุณจะรองรับเฉพาะการ์ด SD คุณก็สามารถเลือกใช้อะแดปเตอร์ SD ได้หากต้องการใช้การ์ด microSD
สื่อบันทึกข้อมูลคือส่วนประกอบที่สำคัญในการใช้งานกล้องติดรถยนต์ ในเบื้องต้นฟังดูอาจสมเหตุสมผลในการเลือกใช้เมมโมรี่การ์ดที่มีความจุสูง เนื่องจากอาจต้องใช้บันทึกภาพเป็นเวลานาน แต่ทางเลือกนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เมมโมรี่การ์ดระดับพื้นฐานมีอายุการใช้งานที่จำกัด แม้ว่าจะมีโอกาสน้อยมากที่การ์ดที่ติดตั้งในกล้องดิจิตอล สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ GPS หรืออุปกรณ์อื่น ๆ จะเกิดปัญหา แต่การใช้กล้องติดรถยนต์มีเงื่อนไขที่แตกต่างจากกันโดยสิ้นเชิง
การ์ดที่ทนทานสูงถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานหนักและงานที่เน้นการเขียนข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกล้องติดรถยนต์ เมื่อเวลาผ่านไป กล้องติดรถยนต์จะต้องเขียนข้อมูลซ้ำ ๆ กันนับร้อยนับพันรอบ การ์ด microSD แบบทนทานเป็นพิเศษจึงถูกคิดค้นมาเพื่อการใช้งานนี้โดยเฉพาะ
และสำหรับสภาพการใช้งานที่เลวร้าย เช่น ในกรณีที่คุณต้องจอดรถบนถนนที่อากาศหนาวจัดในช่วงหน้าหนาวหรือร้อนจัดในช่วงหน้าร้อน การ์ดบางตัวสามารถทนทานต่ออุณหภูมิที่รุนแรง การกระแทกและน้ำได้
การเลือกความเร็วในการเขียนข้อมูลที่เหมาะสมก็มีความสำคัญ ความเร็วในการเขียนข้อมูลที่ต่ำจะทำให้เฟรมตกและคุณภาพของวิดีโอไม่ดีพอ ในทางกลับกัน ความเร็วในการเขียนข้อมูลที่สูงเกินไปก็เกินความจำเป็นและไม่ได้ทำให้คุณภาพของวิดีโอดีขี้นแต่อย่างใด โดยปกติ การ์ด Class 10 (10MB ต่อวินาที) ก็สามารถใช้ได้หากคุณต้องการบันทึกภาพ 1080p HD
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดบางส่วนที่ควรพิจารณาขณะเลือกเมมโมรี่การ์ดสำหรับกล้องติดรถยนต์ของคุณ:
- ความละเอียด – ยิ่งความละเอียดสูงเท่าไร ก็จะยิ่งต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากเท่านั้น ภาพ 4K ใช้พื้นที่มากกว่า 1080p อย่างมากและ 1080p เองก็ใช้พื้นที่มากกว่า 720p อยู่พอสมควร
- การเขียนทับ – เมมโมรี่การ์ดสำหรับกล้องติดรถยนต์จะต้องถูกเขียนข้อมูลทับซ้ำกันไปมาหลายครั้ง ความจุของหน่วยความจำที่มากพอจะช่วยลดจำนวนรอบในการเขียนข้อมูลและทำให้อายุการใช้งานของการ์ดยาวนานขึ้น
- เวลาใช้งาน – โดยปกติการบันทึกวิดีโอ 1080p หนึ่งชั่วโมงจะใช้พื้นที่ประมาณ 6GB การขับขี่เป็นเวลาสองชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์จะต้องใช้พื้นที่ในการเขียนข้อมูลประมาณ 60GB หรือต้องใช้การ์ดขนาด 64GB
- จำนวนเฟรม – กล้องติดรถยนต์โดยปกติจะบันทึกภาพที่ 30 - 60 เฟรมต่อวินาที (fps) 60Fps จะให้ภาพที่มีคุณภาพมากกว่าแต่ก็จะต้องใช้พื้นที่จัดเก็บมากเป็นสองเท่า ในขณะที่วิดีโอ 30fps ก็มีคุณภาพดีเพียงพอแล้ว
- ความจุ – สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือความจุของการ์ดที่คุณใช้ ความจุสูงสุดอยู่ที่เท่าใดและกล้องจะหยุดบันทึกเมื่อใด กล้องถ่ายวนลูปไปเรื่อย ๆ ที่จุดเริ่มต้นและทำการเขียนทับข้อมูลเดิมหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการทำงานแบบไหน เราก็ควรรู้วิธีการทำงานของกล้องที่เกี่ยวกับเมมโมรี่การ์ดของคุณ
สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือขณะเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ดสำหรับกล้องติดรถยนต์ของคุณ การ์ดความทนทานสูงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการ์ดสำหรับใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ให้พิจารณาการ์ดที่ทั้งทนทานและมีการรับประกัน เนื่องจากการ์ดจะมีการสึกหรอไปตามระยะเวลา เมมโมรี่การ์ดที่มีประสิทธิภาพและความจุที่เหมาะสมจะช่วยให้กล้องติดรถยนต์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
ดังนั้นจึงควรเลือกลงทุนกับเมมโมรี่การ์ดที่มีคุณภาพเชื่อถือได้สำหรับกล้องติดรถยนต์ของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ภาพที่มีคุณภาพสูงจากกล้องทุกเมื่อหรือทุกที่เมื่อคุณต้องการ
โดยสรุปแล้ว การเลือกเมมโมรี่การ์ดสำหรับกล้องติดรถยนต์นั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เมมโมรี่การ์ดที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
คุณกำลังดู: เลือก "เมมโมรี่การ์ด" แบบไหน? ให้เหมาะกล้องติดรถยนต์ของคุณ
หมวดหมู่: เคล็ดลับ