มัดรวมมาให้พิกัดต้องห้ามพลาด "มาเก๊า 2023" เที่ยวเล่น เดินเพลิน ช้อปไม่มีเบื่อ
กลับมาอัปเดตกันหน่อยสำหรับประเทศเล็กๆ "มาเก๊า" เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันละลานตาและศูนย์รวมมรดกโลก ที่ทิ้งสถาปัตยกรรมสวยไว้ให้เราได้เห็น ไม่ว่าเดินไปย่านไหนก็จะต้องเจอ
กลับมาอัปเดตกันหน่อยสำหรับประเทศเล็กๆ "มาเก๊า" เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันละลานตาและศูนย์รวมมรดกโลก ที่ทิ้งสถาปัตยกรรมสวยไว้ให้เราได้เห็น ไม่ว่าเดินไปย่านไหนก็จะต้องเจอ
วันนี้พวกเราทีมงาน Sanook Travel ได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวมาเก๊าและสายการบินแอร์เอเชียเดินทางข้ามฟ้า ข้ามทะเล เพื่อทำการอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ จุดต่างๆ ให้ได้อ่านกันหลังจากการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และข้อดีอีกอย่างก็คือการเข้ามาเก๊าไม่ต้องใช้ Visa ครับ ใช้เพียง Passport เท่านั้นแต่อายุการใช้งานต้องเหลือกมากว่า 6 เดือนครับ ง่ายเข้าไปอีก
ในที่สุดพวกเราก็ได้เหยียบลงแผนดินมาเก๊า ใครที่กลัวเรื่องด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่ต้องกลัวนะครับเจ้าหน้าที่ตรงสนาม บินใจดีมาก ง่ายๆ เพียงแค่เราทำตามขึ้นตอนที่แนะนำเท่านั้น
สำหรับการเดินทางของเรารอบนี้เป็นการเดินทางออกจากเมืองไทยในเวลาช่วงบ่ายๆ ทำให้การเหยียบแผนดินมาเก๊าในวันแรกไม่มีอะไรมาก...เพราะเราทำได้แค่นั่งรถ เที่ยวชมความสวยงามของแสงสี และกิจกรรมยามค่ำในย่านโคไทก่อนเดินทางเข้าที่พัก
และแล้วความสนุกของเราก็เริ่มขึ้น
...
เกริ่นมาขนาดนี้แล้วเราขอเริ่มต้นทริปด้วยการสัมผัสถนนเส้นประวัติศาสตร์
ที่ได้ฉายา “Dragon of Macao”
และแวะทานอาหารมื้อแรกที่ Wynn Palace SkyCap
โรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรูที่มีทั้งร้านอาหารระดับ 5 ดาว
สำหรับมื้อแรกที่มาเก๊าที่ Fontana Buffet ห้องอาหารระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ในโรงแรม Wynn Palace อร่อยทุกอย่าง อาหารบ้านเขารสชาติไม่ต่างจากบ้านเรา ยิ่งเป็นอาหารในโรงแรมแล้วด้วย บอกเลยว่าหมดปัญหาเรื่องกิน
เริ่มอิ่มท้องก็ได้เวลาเดินย่อยกันหน่อยครับ แน่นนอนว่าในโรงแรม Wynn Palace จะเป็นที่พักและคาสิโนแล้ว มันยังมีแห่งช้อปปิ้ง รวมไปถึงการแสดงโชว์แสงสีที่มีเยอะแยะมากมายไว้ให้เราได้เดินชมกันแบบชิลล์ๆ และมันคือการย่อยอาหารของพวกเราที่ดีมากๆ ก่อนเดินทางกลับไปพักผ่อนคืนนี้
ในที่สุดเวลาของวันนี้ก็หมดลง...
เริ่มต้นวันใหม่กับการเดินทางไปกรายไหว้ขอพรกันที่ "วัดอาม่า (A-Ma Temple)" อีกหนึ่งตำนานที่มาพร้อมกับความสักศักดิ์และศรัทธา วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สักการะเจ้าแม่ทับทิมที่คนไทยเลื่อมใส และอาคารมรดกโลก จากยูเนสโกเกือบ 10 แห่งตลอดเส้นทาง
ตามตำนานเล่ากันมาว่า วัดอาม่า หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊า
ดังนั้นวัดอาม่าจึงกลายเป็นวัดที่เก่าแก่สุดในมาเก๊า มีบันไดทางเดินขึ้นไปด้านบน ระหว่างทางมีศาลบูชาอีกหลายที่ให้เราแวะไหว้พระเป็นจุด ๆ ครับ
นักท่องเที่ยวมักพูดเสมอว่า หากเที่ยวมาเก๊าหากไม่ได้ไปสักการะองค์อาม่าที่วัดแห่งนี้ถือว่ายังไปไม่ถึงมาเก๊า
- วัดอาม่าเปิดให้บริการ: 7 โมงเช้า – 6 โมงเย็น
- เส้นทางเดินรถโดยสารประจำทาง: 1, 2, 5, 6B, 7, 10, 10A, 11, 18, 21A, 26, 28B, 55, MT4, N3
หลังจากเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้วพวกเราก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปสัมผัสวิถีวัฒนธรรมเก่าแก่ที่โรงงานประทัด (Former Lec Long Firecracker)
ถึงแล้วววววววว เซนาโด้สแควร์ (Senado Square) แหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองมาเก๊า จัตุรัสเซนาโดเป็นลานสาธารณะที่มีขนาดกว้างใหญ่
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของชาวเมืองและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของมาเก๊า โดดเด่นด้วยลวดลายพื้นถนนที่สลับไปมาเป็นเกลียวคลื่น รวมถึงตัวอาคาร โบสถ์ ทุกอย่างล้วนมีสีสันสวยงาม
ต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งให้เราได้ชมความงานถ่ายภาพกันครับ จุดนี้เรียกว่าซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St.Paul’s) ซึ่งยังคงเหลือซากประตูโบสถ์อยู่ฝั่งเดียวเพราะมันผุพังตามกาลเวลาแต่ยังคงความสง่างามทางประวัติศาสตร์อยู่เหมือนเดิม และในปี ค.ศ. 2005 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโบสถ์แห่งนี้ให้เป็นมรดกโลก
นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ
เซนาโด้สแควร์ (Senado Square)
สร้างโดยช่างชาวโปรตุเกส
สถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกสีพาสเทลแล้วยังเป็นช็อปปิ้งที่รวมร้านค้า
ร้านอาหารต่างๆ เอาไว้มากมาย
ที่นี่จะได้พบกับช็อปแบร์นดังแทรกตัวท่ามกลางสถาปัตยกรรมเก่าอย่างลงตัวและกลมกลืน
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของชาวเมืองและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของมาเก๊า โดดเด่นด้วยลวดลายพื้นถนนที่สลับไปมาเป็นเกลียวคลื่น รวมถึงตัวอาคาร โบสถ์ ทุกอย่างล้วนมีสีสันสวยงาม
เซนาโด้สแควร์ (Senado Square) สร้างโดยช่างชาวโปรตุเกส สถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกสีพาสเทลแล้วยังเป็นช็อปปิ้งที่รวมร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เอาไว้มากมาย ที่นี่จะได้พบกับช็อปแบร์นดังแทรกตัวท่ามกลางสถาปัตยกรรมเก่าอย่างลงตัวและกลมกลืน
พูดเลยว่าถนนช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยกัน หากเดินมาสุดทางเราจะได้เจอกับ “โบสถ์ เซนต์ โดมินิค (St. Dominic’s Church)” ที่ยังคงความสวยงามจากอดีตถึงปัจจุบัน
อิ่มท้องก่อนกลับที่พักด้วยการสัมผัสประสบการณ์อาหารแมคกานีส (มาเก๊า) อาหารฟิวชั่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี ที่หาทานได้เฉพาะในมาเก๊าเท่านั้น
บอกแล้วว่าเกาะแห่งนี้ไม่เคยหลับ ดังนั้นยามค่ำคืนเราจึงพลาดไม่ได้กับการล่องเรือที่ เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า (The Venetian Macau) ล่องเรือกอนโดลา ถ่ายรูปสวยๆ
อีกที่พลาดไม่ได้ก็ต้อง TeamLAB MACAO (ART EXHIBITION) พื้นที่อินเทอร์แอกทีฟแบบสามมิติ ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุด ที่มาเก๊า เหมาะสำหรับคนชอบแสงสีเสียงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลสุดอลัง เราสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การฟัง และการสัมผัสได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง ยิ่งไปกว่านั้นคือเราจะได้เดินชมนิทรรศกาลศิลปะดิจิทัลสุดตระการตา ขอบอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การชมงานศิลปะที่เพลินมาก
- ตั้งอยู่ใน: เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า
เดอะปาริเซียน (The Parisian Macao) รีสอร์ทคาสิโนมาในธีมของประเทศฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยหอไอเฟลจำลองขนาดใหญ่ด้านหน้า บอกเลยว่าหอไอเฟล (The Parisian Eiffel Tower) เหมือนมาก หากมาเที่ยวเราไม่อยากให้คุณพลาด เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยจริงๆ
สำหรับคนที่ชอบความท้าทาย ต้องมา GoAirborne Indoor Skydiving Macau เป็นศูนย์กระโดดร่มในร่มแห่งแรกในมาเก๊า บอกเลยว่าใครชอบความท้าทายไม่ควรพลาด ^^
ตั้งอยู่ใน: Lisboeta Macau
ฝากท้องอีกมื้อที่ สแตนลีย์ คาเฟ่ (Stanley’s Cafe) คาเฟ่บรรยากาศย้อนยุค ตกแต่งสไตล์วินเทจ Stanle ให้บริการอาหารคาเฟ่สไตล์ฮ่องกง – Bing Sutt Cuisine สำหรับร้านนี้เราได้เปิดประสบการณ์ครั้งแรกกับโค้กโฟลต (มันก็จะมีไอติมวนิลากับโค้ก) อร่อยไม่ไหว
อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำคือ เราอยากให้คุณได้ลองมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศย่านโคไท Eiffel Tower, หอนาฬิกา The Londoner (บอกไว้ก่อนว่าหากได้มาเที่ยวที่มาเก๊าต้องห้ามพลาด มุมถ่ายรุปเยอะมากไม่ว่ามุมไหนก็สวย )
และอีกหนึ่งสถานที่ ที่หากมาเยือนมาเก๊าแล้วต้องไปคือ การได้สักการะองค์เจ้าแม่กวมอิมปรางค์ทองริมทะเล เพื่อรับพลังในจุดที่ฮวงจุ๊ยดีที่สุดในมาเก๊า "เจ้าแม่กวนอิมกลางทะเล (Kun Iam Statue)" แลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรง Outer Harbour ทางตอนใต้ของมาเก๊า หากมาต้องห้ามพลาด จุดนี้เราขอเน้น
หมายเหตุ : ระหว่างเส้นทางที่พวกเราใช้เดินไป จะมี ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า (Macao Science Center) จุดนี้จะมีต้นไม่รูปหัวใจต้นใหญ่ตั้งอยู่เราสามารถแวะเข้าไปถ่ายรูปได้นะ
อีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนชอบถ่ายรูปเราขอแนะนำสตรีทอาร์ตในหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่
โซนโคโลอาน แวะร้านทาร์ตไข่มาเก๊าในตานาน สาขาเก่าแก่ที่สุด
Lord Stow’s Caféf Coloane & Nossa Senhora Village of Ká
Hó
แวะเก็บภาพที่ จัตุรัส Largo Eduardo Marques จัตุรัสเล็กๆ ที่อยู่ริมทะเล มีทั้งคาเฟ่และร้านอาหารเรียงรายอยู่รอบๆ และแน่นอนว่า Nga Tim Cafe คือร้านอาหารที่ต้องห้ามพลาดหากแวะมาแถวนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลิ้มรสอาหารท้องถิ่น(่เมนูห่านคือเลิศ) ร้านตั้งอยู่ตรงหน้าจัตุรัส Largo Eduardo Marques หาไม่ยาก อิ่มท้องแล้วก็สามารถแวะขอพรกันได้ที่ (เน้นว่าต้องมาให้ได้นะร้านนี้)
ร้านทาร์ต ลอร์ดสโตว์ (Lord Stow’s Bakery Coloane) เป็นอีกร้านดังของที่นี้ครับ หากคุณแวะมาที่มู่บ้านโคโลอานแนะนำว่าต้องห้ามพลาด!
และศาลเจ้าแม่กวนอิมโบราณที่แทรกตัวอยู่ภายในหมู่บ้านโคโลอานและหาเดินตรงไปสุดหาด
เราจะเจอกับวัดตำกง (Tam Kung Temple)
ซึ่งในวัดมีกระดูกปลาวาฬที่ประกอบกันเป็นเรือมังกรให้ได้ชม
ต่อกันที่พวกเรามีโอกาสได้แวะไปที่โรงแรม
Grand Lisboa Palace Jardim Secreto
โรงแรมดังที่มีสวนสวยเป็นจุดขาย
แต่...เปิดให้เข้าได้แค่ลูกค้าของโรงแรมเท่านั้น
^^
ต่อกันที่พิพิธภัณฑ์รถแข่งมาเก๊า กรังปรีซ์ (ใหม่) ใครชอบความเร็วต้องแวะให้ได้ สำหรับประวัติคร่าวๆ ของพิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์มาเก๊า Macau Grand Prix Museum เปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 เพื่อเฉลิมฉลองการแข่งรถกรังปรีซ์ครบ 40 ปี ภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีการรวบรวมเอารถแข่งรุ่นต่างๆ มาจัดแสดงโชว์เอาไว้ให้เราได้สัมผัสมากมาย
พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์ มาเก๊า เปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันอังคาร) ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น. มีค่าเข้าชม
และที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้สำหรับ Rock Hotel โรงแรมที่พวกเราใช้เป็นฐานขณะท่องเที่ยวครับ Rock Hotel อยู่ใกล้กับมาเก๊า ฟิช เชอร์แมน วาร์ฟ สามารถเดินไปถ่ายรูปสวยๆ ได้ด้วย
- ตั้งอยู่ใน: มาเก๊า ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ
เป็นไงกันบ้างครับสำหรับทริปเล็ก ๆ กับไปเที่ยวเมืองนอกในชีวิตครั้งแรกของผม หวังว่ามันพอจะเป็นไกด์ดี ๆ ให้ใครหลายคนที่กำลังจะมาเที่ยวมาเก๊าได้ไม่มากก็น้อยครับ และนี้คือไกด์เส้นทางที่เราอยากเอามาเล่าต่อ จริงๆ แล้วมาเก๊าคือเกาะที่ปลอดภัยและสามารถเที่ยวเองได้แบบสบายๆ แม้ว่าคนไม่เคยไปก็สามารถไปเองได้ ส่วนเรื่องความปลอดภัยคือหายห่วง และใครที่กังวลเรื่องภาษาขอบอกเลยว่าไม่ต้องเครียดเลย เพราะคนมาเก๊านิสัยน่ารักมาก และพวกเขาชอบคนไทย ...
มาเก๊าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณต้องลองมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต ทั้งเกาะสามารถเดินเที่ยวไปถึงกันหมดทำให้แต่ละวันเราสามารถเดินเที่ยวได้หลาย ๆ ที่เลยครับ หากใครต้องการที่จะเริ่มท่องโลกกว้างก็ทำได้ที่นี่ปลอดภัย ไม่ต้องแพลนอะไรมาก เที่ยวง่าย และที่สำคัญจ่ายคุ้ม เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินแล้ว เจอกันอีกทีทริปหน้าครับ
คุณกำลังดู: มัดรวมมาให้พิกัดต้องห้ามพลาด "มาเก๊า 2023" เที่ยวเล่น เดินเพลิน ช้อปไม่มีเบื่อ
หมวดหมู่: เที่ยวต่างประเทศ