แนะนำเส้นทางขับรถเที่ยว “ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส” สัมผัสเสน่ห์แดนใต้ 3 วัน 2 คืน

11 เม.ย. 2567 | 18:03 น.

แนะนำเส้นทางขับรถเที่ยว จ.ปัตตานี ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน สัมผัสเสน่ห์แดนใต้ ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ชมวิถีชีวิตชุมชนอิสลาม

แนะนำเส้นทางขับรถเที่ยว “ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส” สัมผัสเสน่ห์แดนใต้ 3 วัน 2 คืน

แนะนำเส้นทางขับรถเที่ยว จ.ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน สัมผัสเสน่ห์แดนใต้ ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ชมวิถีชีวิตชุมชนอิสลาม รับรองถูกใจสายชิคอย่างแน่นอน

เส้นทางเที่ยวปัตตานี วันที่ 1

เช้า

เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่ โดยทางเครื่องบิน

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านไก่ทอดเดชา (สาขาสนามบินหาดใหญ่) จากนั้นเดินทางสู่จังหวัดปัตตานี โดยรถยนต์

สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง

บ่าย

แวะชุมชนเมืองเก่าปัตตานี สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ศาลเจ้าเก่าแก่และมีตำนานคู่เมืองปัตตานี มาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง และมีเรื่องราวยึดโยงกับโบราณสถานอื่น ๆ ในจังหวัดอีกหลายแห่ง

จากนั้นเดินชมชุมชนเก่าแก่ย่าน 'กือดาจีนอ' หรือชุมชนจีนหัวตลาด บนถนนปัตตานีภิรมย์ เลียบขนานกับแม่น้ำปัตตานี บรรจบถนนอาเนาะรู อาคารแถบนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานไทยจีน อายุร้อยกว่าปี อาทิ บ้านขุนพิทักษ์รายา, บ้านตึกขาว, บ้านเลขที่ 5, บ้านกงสี, บ้านธรรมศาลา, โรงเตี๊ยมอาเนาะรู, บ้านเลขที่ 1, บ้านหลวงวิชิตศุลกากร

ย่านกือดาจีนอ หรือชุมชนจีนหัวตลาด

ถนนฤาดี ถนนอีกสายหนึ่งที่เชื่อมต่อกับถนนปัตตานีภิรมย์ ก็มีกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรม ชิโน-โปรตุกีส ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบบปัตตานีอยู่หลายหลัง จากนั้นแวะชม อาคารย่านกือดาจีนอ และถนนฤาดี บางหลังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว บางหลังเป็นร้านค้า บางหลังเปิดเป็นร้านอาหารร้านกาแฟ

เย็น

มัสยิดกรือเซะ มัสยิดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ตัวอาคารสร้างแบบศิลปะตะวันออกกลาง ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยเสากลม ประตูรูปโค้งแหลม เป็นศาสนสถานโบราณที่สำคัญของศาสนาอิสลามคู่เมืองปัตตานี และยังใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจสืบต่อถึงปัจจุบัน

นาลิอิแดกำปง

ตำบลบาราโหม เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นิเวศและวิถีวัฒนธรรม มีโบราณสถานอายุร่วม 500 ปี เกี่ยวเนื่องกับความเป็นมาของปัตตานี มีผ้าบาติก 'มาโก๊ะจาแว' พิมพ์ลายกระเบื้องโบราณ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีกิจกรรมล่องเรือชมอุโมงค์ป่าโกงกาง จากนั้นรับประทานข้าว 'นาลิอิแดกำปง' บนเรือกอและ

ค่ำ

แวะถ่ายรูปแสงไฟยามค่ำคืน ณ มัสยิดกลางปัตตานี ศาสนาสถาน ศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ นั่งพักผ่อนสนทนาสบาย ๆ ที่ร้าน Roti De Forest แล้วจึงเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

เส้นทางเที่ยวปัตตานี-ยะลา วันที่ 2

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

สาย

สักการะหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ (วัดราษฎร์บูรณาราม) อำเภอโคกโพธิ์ พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาแห่งปัตตานี ที่มีผู้บูชาเคารพศรัทธากันทั่วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากตำนาน 'หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด' จากนั้นแวะทานเฉาก๊วยเบตง กม.4 (บ้านไม้ ดั้งเดิม) แบบฉบับสูตรที่สืบทอดมา 4 ชั่วรุ่น

วัดช้างให้ (วัดราษฎร์บูรณาราม)

เที่ยง

รับประทานอาหาร ณ ร้านปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) เบตง

บ่าย

ชมสวนหมื่นบุปผา สวนไม้ดอกเมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ นั่งรถรางชมดอกไม้นานาพรรณ แปลงผักปลอดสารพิษ นั่งเรือถ่อสไตล์จีน จิบชากาแฟท่ามกลางบรรยากาศสวนดอกไม้

เย็น

สักการะวัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองเบตง มีองค์พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ทรงศรีวิชัยประยุกต์สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เด่นเป็นสง่า และจากลานเจดีย์สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองเบตงในอีกมุมหนึ่งที่สวยงาม

วัดพุทธาธิวาส

วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิม เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นโดยเชื้อสายชาวจีน ผู้มีจิตศรัทธาเมื่อ พ.ศ. 2509 นอกจากองค์เจ้าแม่กวนอิมแล้ว ยังประดิษฐานเทพเจ้าองค์สำคัญ ๆ อีกหลายองค์ และเจดีย์ 7 ชั้น ตั้งเป็นสง่าภายในบริเวณวัด จากนั้นเดินเล่นในตัวเมืองเบตง ชม Street Art, ตู้ไปรษณีย์ยักษ์, หอนาฬิกา, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์, ชิมอาหาร Street Food

ค่ำ

รับประทานอาหาร ณ ร้านต้าเหยิน (กิตติ) เมนูขึ้นชื่อ อาทิ ไก่สับ ผัดถั่วเจี๊ยน หมี่ฮกเกี้ยน เคาหยก จากนั้นเดินทางกลับโรงแรมที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย

เส้นทางเที่ยวยะลา - นราธิวาส วันที่ 3

เช้า

เดินทางไป Skywalk อัยเยอร์เวง ห่างจากเทศบาลเบตง ประมาณ 35 กิโลเมตร สกายวอล์ก 6 ชั้น อัยเยอร์เวงตั้งอยู่บนเขาสูงประมาณ 620 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลฯ เป็นจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกใต้สุดแดนสยามในมุมมอง 360 องศา จากนั้นรับประทานอาหารเช้า ณ ร้านสถานี 32 (ปากทางเข้าอัยเยอร์เวง)

Skywalk อัยเยอร์เวง

สาย

เดินทางสู่ จังหวัดนราธิวาส แวะสักการะศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ ในตัวเมืองนราธิวาส มีข้อสันนิษฐานว่าที่นี่เป็นศาลเจ้าแห่งแรกของเชื้อสายชาวจีนในนราธิวาส มาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน สร้างอยู่บริเวณเขามงคลพิพิธ ตามหลักชัยภูมิฮวงจุ้ย ซึ่งมีส่วนหัวมังกรหันออกสู่ทะเล เชื่อกันว่า 'พ่อปู่มังกรดำ' คือเจ้าที่ และเป็นที่มาของรูปเคารพ 'หัวมังกรคาบแก้ว' และยังมีเทพศักดิ์สิทธิ์องค์อื่น ๆ อีก 43 องค์

ในบริเวณพื้นที่ติดศาลเจ้าแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งประติมาองค์พระพิฆเนศสูง 16 เมตร ซึ่งมีประตูทางเดินเชื่อมถึงกันอีกด้วย