เปิด 10 แข้งพลาดโอกาสทองมากสุด "ลิเวอร์พูล" ขึ้นที่ 1 และ 2 หลังแพ้ "เบรนท์ฟอร์ด"
"ตัวเลขไม่เคยโกหก" เปิด 10 นักเตะพลาดโอกาสทองมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ครองที่ 1 และ 2 หลังแพ้ เบรนท์ฟอร์ด
วันที่ 3 มกราคม 2566 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยสถิติที่น่าสนใจหลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 ในเกมล่าสุด ทำให้ "หงส์แดง" พ่ายเป็นเกมที่ 5 ในฤดูกาลนี้ มี 28 คะแนนเท่าเดิม ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล 15 แต้ม และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 พื้นที่สุดท้ายของโควตายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อยู่ 4 คะแนน โดยที่แข่งมากกว่าทั้ง 2 ทีมอยู่ 1 นัดด้วย
เกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงถึง 16 ครั้ง แต่ตรงกรอบแค่ 6 ครั้ง ได้มาเพียง 1 ประตู ทำให้มีการเปิดเผยว่า "หงส์แดง" มีนักเตะที่พลาดโอกาสทองมากที่สุด ติดทั้งอันดับ 1 และ 2 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 นั่นคือ ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกปืนฝืดทีมชาติอุรุกวัย ที่ยังไร้สกอร์ตลอด 3 เกมหลังสุดที่กลับมาแข่งต่อหลังพักเบรกฟุตบอลโลก 2022 กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าทีมชาติอียิปต์ ที่ยิงไม่ได้มา 2 นัดติดต่อกัน
10 นักเตะพลาดโอกาสทองมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 2022-23
1. ดาร์วิน นูนเญซ (ลิเวอร์พูล) 15 ครั้ง
2. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) 12 ครั้ง
=อิวาน โทนีย์ (เบรนท์ฟอร์ด) 12 ครั้ง
4. กาเบรียล เชซุส (อาร์เซนอล) 11 ครั้ง
5. เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 10 ครั้ง
6. แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์ ยูไนเต็ด) 9 ครั้ง
=โอลลี วัตกินส์ (แอสตัน วิลลา) 9 ครั้ง
8. เช อดัมส์ (เซาแธมป์ตัน) 8 ครั้ง
= อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (ฟูแลม) 8 ครั้ง
10. มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 7 ครั้ง
คุณกำลังดู: เปิด 10 แข้งพลาดโอกาสทองมากสุด "ลิเวอร์พูล" ขึ้นที่ 1 และ 2 หลังแพ้ "เบรนท์ฟอร์ด"
หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- โหดจัด "ฮาลันด์" ยิงแซง "ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก" 4 ฤดูกาลหลังสุด แม้ผ่านมาแค่ 20 นัด
- ใช้งานแค่ 13 นาที "ลิเวอร์พูล" ส่อเมินซื้อขาด "อาร์ตูร์" เผยประหยัดค่าตัวไปได้เยอะ
- หนักกว่าที่คิด "ลิเวอร์พูล" เซ็ง "ฟาน ไดค์" ส่อพักยาว เจ็บจากพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด
- อดีตแนวรับหงส์แดง โบ้ย มือขวา “คลอปป์” เป็นตัวการสำคัญทำ “ลิเวอร์พูล” ฟอร์มบู่
- แฟนหงส์รอชม "ลิเวอร์พูล" เผยเกมประเดิมสนาม "กัคโป" หลังจัดการย้ายทีมเสร็จสมบูรณ์
- พูดได้ไหม "ฮาว" แจงปม "โรนัลโด" มีเงื่อนไขซบ "นิวคาสเซิล" หลังย้ายไป "อัล นาสเซอร์"