เปิดตัว DJI Air 3 เพิ่มความสามารถจากเดิมรองรับการใช้กล้อง 3 ตัวซูมได้ 3 เท่า

DJI ประเทศไทย ได้เปิดตัว DJI Air3 ที่มีกล้อง 2 ตัวระยะการบินทำได้สูงสุด 46 นาที

ในที่สุด DJI ประเทศไทยได้เผยโฉมโดรนรุ่นใหม่อย่าง DJI Air3 ที่มีกล้อง 2 ตัวระยะการบินทำได้สูงสุด 46 นาที นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญญาณวิดีโอแบบ O4 รองรับความคมชัดของภาพระดับ HD ได้อย่างสบายๆ

 

ไฮไลท์วัตถุในเฟรมด้วยกล้องหลักสองตัว

DJI Air 3 มีระบบกล้องหลักสองตัวตัวแรกของซีรีส์ Air ซึ่งมาพร้อมกล้องมุมกว้างขนาด 1/1.3 นิ้ว CMOS และกล้องเทเลระยะกลาง 3x ขนาด  1/1.3 นิ้ว CMOS กล้องทั้งสองตัวมีเซ็นเซอร์ขนาดเท่ากันแต่มีทางยาวโฟกัสต่างกัน พร้อมเก็บภาพมุมกว้างกับ เลนส์ขนาด 24 มม. ขนาดพิกเซล 2.4μm พร้อมรูรับแสง f/1.7 มาพร้อมกับกล้องเทเลระยะกลาง 3x เลนส์ขนาด 70 มม. ขนาดพิกเซล 2.4μm พร้อมรูรับแสง f/2.8 เท่ากับระยะ Optical 3x

ผู้ควบคุมสามารถใช้ FOV ที่กว้างของกล้องมุมกว้างเพื่อจับภาพทิวทัศน์ได้ทั้งหมด หรือเปลี่ยนไปใช้กล้องเทเลระยะกลาง 3x และจับภาพตัวแบบให้โดดเด่นออกมา โดยที่ทิวทัศน์ด้านหน้าและด้านหลังตัวแบบดูเหมือนอยู่ใกล้ราวกับจะสัมผัสได้ กล้องทั้งสองตัวให้ภาพถ่ายคมชัดระดับ 48MP

นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอ HDR 4K/60fps ในอัตราเฟรมสูงและรองรับสูงสุดถึง 4K/100fps ทำให้คุณภาพถ่ายออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแม้จะไม่มีการครอบตัด ทั้งนี้ กล้องทั้งสองตัวรองรับโหมดสี D-Log M ขนาด 10 บิต และ HLG ขนาด 10 บิต โหมด D-Log M ขนาด 10 บิตสามารถเก็บรายละเอียดไฮไลท์และเงาได้มากขึ้น

 

บินได้ยาวนานยิ่งกว่า โอนถ่ายแบตเตอรี่ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ความโดดเด่นของ DJI Air 3 คือสามารถบินได้นานกว่าเดิม 48% และยังสามารถใช้ระยะการบินได้นานสุด 46 นาที ส่วนการชาร์จไฟด้วยการรองรับฟังก์ชันการถ่ายโอนแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถกดปุ่มฟังก์ชันค้างไว้เพื่อถ่ายโอนพลังงานที่เหลือจากแบตเตอรี่หลายก้อน

 

มั่นใจในการบินขึ้นและลงจอดอย่างปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทางและการส่งสัญญาณวิดีโอ O4

DJI Air 3 เป็นโดรนตัวแรกใน Air ซีรีส์ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้รับรู้สภาพแวดล้อมรอบด้านได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้โดรนสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ในทุกทิศทาง

เมื่อตรวจพบสิ่งกีดขวาง DJI Air 3 ยังสามารถใช้ APAS 5.0 เพื่อหลีกเลี่ยงและอ้อมหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างราบรื่น ฟังก์ชัน ActiveTrack จะช่วยให้มือของผู้ควบคุมเป็นอิสระและทํางานร่วมกับ RTH ขั้นสูง ทำให้สามารถบินได้อัตโนมัติและกลับมายังจุดเดิมได้อย่างปลอดภัย

ระบบส่งสัญญาณวิดีโอ O4 เจเนอเรชันถัดไปทำให้ DJI Air 3 มีประสิทธิภาพโดดเด่น ไม่เพียงแต่ให้ระยะทางในการส่งสัญญาณสูงสุดที่ 20 กม. เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งสัญญาณภาพแบบเรียลไทม์ที่ติดขัดเพื่อการบินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น รองรับการส่งสัญญาณภาพแบบเรียลไทม์ได้คมชัดสูงสุด 1080p/60fps และอัตราเฟรมที่สูงขึ้นช่วยให้ประสบการณ์การรับชมลื่นไหลยิ่งขึ้น

 

และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายเช่น

• FocusTrack สําหรับกล้องทั้งสองตัว: FocusTrack ซึ่งประกอบด้วย Spotlight 2.0, ActiveTrack 5.0 และ Point of Interest 3.0 จะทำให้ตัวแบบอยู่ตรงกลางเฟรม เมื่อใช้กล้องเทเลระยะกลาง 3x จะให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของการบีบอัดของพื้นที่เพื่อเน้นตัวแบบให้เด่นชัดมากขึ้นเหมือนในภาพยนตร์
• QuickShot: ช่วยให้ DJI Air 3 ทำการบันทึกภาพได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น แบบ Rocket, Dronie, Circle, Helix, Boomerang และ Asteroid กล้องมุมกว้างสามารถให้ข้อมูลภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ในขณะที่กล้องเทเลระยะกลาง 3x จะแสดงภาพผู้ควบคุมหรือคนอื่นๆ เป็นตัวแบบได้ ช่วยให้การถ่ายภาพทางอากาศในแนวตั้งดึงดูดความสนใจได้ดียิ่งขึ้น
• MasterShots: ช่วยให้ DJI Air 3 สามารถเคลื่อนไหวกล้องได้หลากหลายโดยอัตโนมัติ ถ่ายภาพคลิปหลายคลิป แก้ไขคลิป และเพิ่มเพลงเพื่อสร้างฟุตเทจภาพยนตร์ที่รวดเร็วและง่ายดาย
• โหมดกลางคืน: ด้วยอัลกอริทึมการลด noise DJI Air 3 สามารถบันทึกฟุตเทจที่ดูสวยงามและสดใสได้สูงสุดถึง 4K/30fps แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
• HyperLapse: เลือกจากโหมดย่อยสี่โหมด ได้แก่ Free, Circle, Course Lock และ Waypoint เพื่อถ่ายฟุตเทจไทม์แลปส์แนวนอนได้ถึง 4K หรือแนวตั้ง ได้ถึง 2.7K
• Slow Motion: เลือก 4K/100fps หรือ 1080p/100fps เพื่อบันทึกวิดีโอ 4x สโลว์โมชัน
• SmartPhoto 3.0: ในโหมด Single Shot (ถ่ายภาพเดียว) DJI Air 3 จะใช้ SmartPhoto 3.0 โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งสามารถเลือกระหว่าง HDR, Hyperlight และ Scene Recognition โดยอัตโนมัติตามสถานการณ์เพื่อให้ได้ภาพที่ดียิ่งขึ้น ในรูปแบบ HDR DNG
• QuickTransfer: ดาวน์โหลดภาพถ่ายและวิดีโอจากโดรนไปยังสมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างรวดเร็วผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งช่วยประหยัดแรงและเวลา
• LightCut: เชื่อมต่อ DJI Air 3 แบบไร้สายกับแอป LightCut บนสมาร์ทโฟนของคุณ ซึ่งแอปจะไฮไลต์ช่วงเวลาสำคัญได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งให้คุณแก้ไขภาพได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
• Waypoint Flight: นี่เป็นครั้งแรกที่ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานใน Air ซีรีส์ ผู้ใช้สามารถวางแผนเส้นทางการบินและการถ่ายภาพของ DJI Air 3 ไว้ล่วงหน้าเพื่อให้การสร้างสรรค์ผลงานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น การถ่ายทำแบบ One Take ผู้ควบคุมยังสามารถบันทึกเส้นทางการบินเพื่อปฏิบัติภารกิจเดียวกันซ้ำอีกครั้งได้อย่างแม่นยําในเวลาหรือวันอื่น

พร้อมกับอุปกรณ์เสริมมากมายเช่น

• DJI Air 3 ND Filters Set: ชุดฟิลเตอร์นี้มีฟิลเตอร์ ND8/16/32/64 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างฟุตเทจที่นุ่มนวลขึ้นที่ความไวชัตเตอร์ที่ลดลง
• DJI 100W USB-C Power Adapter: อะแดปเตอร์แปลงไฟนี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่และรีโมตคอนโทรลได้อย่างรวดเร็วพร้อมกัน หรือชาร์จอุปกรณ์ผ่านพอร์ต USB-C
• DJI 65W Car Charge: อุปกรณ์ชาร์จในรถที่มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวกใช้พอร์ตอเนกประสงค์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ รีโมตคอนโทรล สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และอุปกรณ์อื่นๆ ได้

สำหรับราคาของ DJI Air 3 มีดังนี้

• DJI Air 3 (DJI RC-N2) ราคา 34,990 บาท
• DJI Air 3 Fly More Combo (DJI RC-N2) ราคา 42,490 บาท
• DJI Air 3 Fly More Combo (DJI RC 2) ราคา 48,490 บาท

DJI Air 3 พร้อมให้ pre-order แล้วที่ DJI Experience Store ทุกสาขาทั่วประเทศและตัวแทนจำหน่าย และจะพร้อมให้ทุกท่านเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

คุณกำลังดู: เปิดตัว DJI Air 3 เพิ่มความสามารถจากเดิมรองรับการใช้กล้อง 3 ตัวซูมได้ 3 เท่า

หมวดหมู่: เทคโนโลยีใหม่