“พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย” ศรัทธาอันงดงามแห่งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์
พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย พระวิหารแห่งแรกในประเทศไทยและแห่งที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints)
อาคารยอดแหลมตั้งตระหง่านบนถนนเพชรบุรีที่สร้างความสงสัยให้ผู้สัญจรผ่านไปมาด้วยสถาปัตยกรรมที่สะดุดตา นับแต่วันเริ่มก่อสร้างในปี 2019 วันนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในนามของ “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย” (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) พร้อมเผยความงดงามโดยสมบูรณ์ของ “พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย” พระวิหารแห่งแรกในประเทศไทย และนับเป็นแห่งที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากศาสนจักรเข้ามามีส่วนในบริบททางศาสนาของประเทศไทยตั้งแต่ ค.ศ. 1854 ศาสนจักรเริ่มเติบโตอย่างน่าจับตา ในทศวรรษ 1960 พระวิหารเสมือนหลักชัยใหม่ในการเสริมสร้างศรัทธาของสมาชิกศาสนจักรในประเทศไทยและภูมิภาคโดยรอบเป็นเวลาหลายปี แต่เดิมสมาชิกศาสนจักรในประเทศไทยต้องไปนมัสการพระวิหารที่ฮ่องกง ไต้หวัน หรือประเทศอื่นๆ ซึ่งสำหรับบางคนอาจมีค่าใช้จ่ายสูงจึงทำให้จำกัดการเดินทางไปได้แค่ครั้งหนึ่งในชีวิตเท่านั้น แต่ปัจจุบันประเทศไทยได้มีพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพแล้ว พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย ในฐานะพระวิหารที่เปิดดำเนินการแห่งที่ 185 ของศาสนจักร เริ่มต้นโครงการนับแต่ประกาศโดยอดีตประธานศาสนจักร โธมัส เอส. มอนสัน เมื่อเดือนเมษายน 2015 ตามด้วยพิธีเบิกดิน ในเดือนมกราคม 2019 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 2023 นี้
พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย
พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย เป็นพระวิหารเปิดดำเนินการแห่งที่ 185 ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย นอกจากสถาปัตกรรมภายนอกอาคารที่โดดเด่นด้วยรูปทรงและยอดแหลมทั้ง 9 ที่แฝงคติความเชื่อเรื่องการเชื่อมต่อกับเบื้องบน แบบอาคารพระวิหารยังรักษาแบบแผนของลวดลายและสีที่พบได้ในสถาปัตยกรรมไทย ทั้งอาคารเต็มจึงไปด้วยลวดลายซ้อนทับรูปทรงข้าวหลามตัดหลายรูปแบบมีส่วนประกอบของดอกบัวและลายก้างปลา ที่ชวนนึกถึงใบลานสานที่ใช้ในงานศิลปหัตถรรมแบบดั้งเดิม ผสมผสานลายฉลุบนยอดแหลมและหน้าต่าง พระวิหารจึงเป็นภาพเงาที่สวยงามในเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ
รูปทรงข้าวหลามตัดและดอกบัวที่ปรากฏอยู่ทุกส่วนภายในอาคาร สื่อถึงความบริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์ และความตื่นรู้ทางวิญญาณ วิสุทธิชนยุคสุดท้ายเชื่อว่าที่นี่คือสวรรค์และแผ่นดินโลกมาบรรจบ ช่วยให้ผูกมัดกับบรรพชน ครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวเป็นนิรันดร์
ภายในอาคารพระวิหาร ได้รับการตกแต่งด้วยไม้กฤษณาสลักลายดอกราชพฤกษ์ดอกไม้ประจำชาติของประเทศไทยประกอบทองสัมฤทธิ์ในจุดต่างๆ การออกแบบพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย แห่งนี้จึงนับเป็นการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อแสดงถึงการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมศาสนจักร สะท้อนลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมไทยที่ส่งผ่านองค์ประกอบของเส้นทรงแสงเงาให้สะท้อนถึงสัญลักษณ์ของดวงประทีบแห่งศรัทธาอีกด้วย
พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
วิสุทธิชนยุคสุดท้ายเชื่อว่าชีวิตนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของนิรันดรด้วยผ่านทางพระคุณพระเมตตาของพระบิดามารดาบนสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรัก และผ่านทางการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ ผู้นมัสการจะกลับไปยังที่ประทับของพระองค์ได้ ภายในพระวิหารกรุงเทพจึงเป็นสถานที่ที่นำไปสู่ความศรัทธานี้ผ่านพิธีการในพระวิหารที่จะพาให้เข้าใกล้เป้าหมายนี้ได้มากขึ้น ห้องศาสนพิธีที่สำคัญจึงได้มีการแบ่งสัดส่วนอย่างพิพิถันสำหรับประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เช่น
โถงบัพติศมา หรือพิธีรับพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการ “จุ่ม” หรือ “ลงน้ำทั้งตัว" เพื่อการปลดบาปและเกิดใหม่ด้วยวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูคริสต์ทรงรับบัพติศมาและทรงสอนว่าบัพติศมาจำเป็นต่อการเข้าสู่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งนี้บรรพชนของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายสามารถรับบัพติศมาโดยผ่านตัวแทนที่ยอมรับ ศาสนาพิธีนี้จึงไม่ใช่เพียงสำหรับตัวเองแต่เพื่อสำหรับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วมากมายด้วย
ห้องซีเลสเชียล หลังจากผู้นมัสการได้รับการสอนผ่านห้องรับการสอนเกี่ยวกับจุดประสงค์ของชีวิตและแผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้า จะเข้าสู่ห้องซีเลสเชียล พื้นที่อันเงียบสงบสำหรับสวดอ้อนวอนและใคร่ครวญ เป็นห้องของสัญลักษณ์ของสวรรค์เสมือนเข้าสู่การเดินทางของแสงอันสว่างโชติช่วงจากภายในสู่ที่ประทับของพระเจ้า
ห้องผนึก ห้องพิธีกรรมสำหรับคู่สามีภรรยาที่ผูกมัดกันและกับพระบิดาบนสวรรค์ผ่านพันธสัญญาอันเป็นนิจนิรันดร์ วิสุทธิชนยุตสุดท้ายเชื่อว่าการแต่งงานระหว่างชายกับหญิงที่ผ่านพิธีกรรมที่นี่ไม่เพียงผูกมัดความสัมพันธ์สำหรับชีวิตนี้แต่สำหรับนิรันดรด้วย และเด็กที่เกิดในการแต่งงานนี้จะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันกับครอบครัวตลอดไป ดั่งเงาสะท้อนของกระจกสองบานภายในห้องพิธีที่สะท้อนต่อเนื่องกันไม่จบสิ้น
ความสำคัญของพระวิหารแห่งนี้ นอกจากเป็นสถานที่ให้รับรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ การสวดอ้อนวอน สายสัมพันธ์ และความรัก สำหรับสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย พระวิหารมีจุดประสงค์ต่างจากอาคารประชุมที่สมาชิกและคนอื่นๆ มาร่วมพิธีกันทุกวันอาทิตย์สัปดาห์เพื่อสวดอ้อนวอน ขับร้องบทเพลง และนมัสการพระผู้เป็นเจ้า ด้วยมีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่านั้น พระวิหารนี่คืออินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศแด่พระผู้เป็นเจ้า เป็นสถานที่พิเศษในการทำสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้า ตลอดจนประกอบพิธีแต่งงานและพิธีอื่นๆ ที่ผูกมัดครอบครัวไปจนถึงบรรพชนไว้ด้วยกันชั่วนิรันดร์
“พระนิเวศน์ของพระเจ้า”
ในโอกาสพิเศษสำหรับสื่อมวลชน เอ็ลเดอร์สุซาติ ไชยชะนะ สาวกเจ็ดสิบภาค ผู้นำระดับอาวุโสของศาสนจักรในประเทศไทย ได้กล่าวว่า พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย เป็นประจักษ์พยานถึงศรัทธาอันมั่นคงของสมาชิกศาสนจักรกว่า 23,000 คนในประเทศไทย และจะเป็นจุดศูนย์กลางของการเติบโตทางวิญญาณไปอีกนาน “พระวิหารเป็นมากกว่าอาคารทั่วไป พระวิหารเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญาของเราต่อคำสอนของพระเยซูคริสต์และธรรมชาตินิรันดร์ของครอบครัว”
เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง (Elder Gerrit W. Gong) อัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย กล่าวว่า “เราซาบซึ้งที่ประเทศไทยให้อิสรภาพในการนับถือศาสนา พระวิหารที่สวยงามนี้จะรับใช้สมาชิกของศาสนจักรจากทั่วทั้งประเทศไทย และนอกเหนือจากนั้น ประเทศลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้เราเรียกที่นี่ว่า พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย แต่อันที่จริงนี่คือ พระวิหารประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ”
อัครสาวกแบ่งปันถึง หลักความเชื่อของศาสนจักรสามประการ
ประการแรก เราเชื่อในความรักและรับใช้พระผู้เป็นเจ้า เราเชื่อว่าครอบครัวได้รับการแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า เราให้เกียรติและเคารพครอบครัว เราให้เกียรติและเคารพบิดามารคาและบรรพชน เราเชื่อในความเป็นศูนย์กลางและความสำคัญของครอบครัวนิรันดร์
ประการสอง ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นศาสนาคริสต์ระดับโลก ใน 190 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ เราสอนให้สมาชิกเป็นบิดามารดาที่ดี เป็นพลเมืองดีเลี้ยงดูครอบครัวด้วยคุณงามความคี มีศีลธรรม เคารพสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนที่เราอยู่ ในหลักแห่งความเชื่อข้อที่ 13 ของเรา กล่าวว่า "เราเชื่อในการเป็นคนซื่อสัตย์ แน่วแน่ บริสุทธิ์ มีเมตตา มีคุณธรรม และในการทำดีต่อมนุษย์ทั้งปวง...”
ประการสาม เราเชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์และความบริสุทธิ์สามารถทำให้ชีวิตของครอบครัวและส่วนบุคคลดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสังคมของคนสมัยใหม่ พระวิหารเป็นของขวัญอันสูงส่งจากพระบิดาบนสวรรค์ของเราที่เป็นประโยชน์และเป็นพรต่อครอบครัวและบุคคลในชีวิตนี้และชีวิตหน้า
“พระวิหารเป็นสถานที่ที่เราเป็นสื่อกลางและรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้า สถานที่ที่เราสามารถแสวงหาความสงบภายในและเรียนรู้ที่จะเป็นผู้สร้างสันติ พระวิหารเป็นสถานที่ที่เราแสวงหาการชำระให้บริสุทธิ์ ซึ่งพิธีการศักดิ์สิทธิ์และการชดใช้ของพระ เยซูคริสต์ช่วยให้ผลของบาปและความผิดพลาดได้รับการชำระล้างและการให้อภัย พระวิหารเป็นสถานที่แห่งความคารวะ เป็นที่หลบภัยอันเงียบสงบจากความกังวล ความฟุ้งซ่านและความมัวหมองของโลกนี้
นี่เป็นเหตุผลที่เราเขียนว่า "ศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า พระนิเวศน์ของพระเจ้า" อยู่เหนือประตูพระวิหาร” อัครสาวกกล่าว
เปิดวิหาร 1-16 กันยายน
2566
ประชาชนทั่วไปและต่างศาสนาเข้าชมได้ฟรี
เนื่องด้วยพระวิหารเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการนมัสการซึ่งเรารับศาสนพิธีที่จำเป็นและทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ในนั้น สมาชิกของศาสนจักรถือว่าพระวิหารเป็นบ้านของพระผู้เป็นเจ้า เพราะความศักดิ์สิทธิ์นี้และพันธสัญญาที่ทำ เฉพาะสมาชิกของศาสนจักรที่มีใบรับรองพระวิหารเป็นปัจจุบันเท่านั้นจึงจะเข้าพระวิหารได้ สมาชิกจะได้ใบรับรองพระวิหารเมื่อพวกเขารักษาพระบัญญัติที่กำหนดไว้อย่างซื่อสัตย์และดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
แต่ในโอกาสนี้ทางศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ได้จัดโอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารกรุงเทพฯ รอบสาธารณชนในวันที่ 1-16 กันยายน 2566 นับว่าเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับประชาชนในประเทศไทยที่จะเข้าชมได้โดยไม่จำกัดศาสนา ทุกท่านสามารถเรียนรู้และเดินชมพระวิหารในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ได้ เพื่อสัมผัสความรู้สึกแบบสวรรค์บนแผ่นดินโลกและความพิเศษที่มีอยู่ในพระวิหาร ซึ่งหลังจากพิธีอุทิศในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 นี้ การเข้าพระวิหารจะสงวนไว้สำหรับสมาชิกของศาสนจักรเท่านั้น
สำหรับประชาชนทั่วไปและต่างศาสนาสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 -16 กันยายน ยกเว้นวันอาทิตย์ โดยลงทะเบียนเพื่อจองการเดินชม (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) ได้ที่ BangkokTemple.ChurchofJesusChrist.org
ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าชม
- เข้าชมฟรี ขอแนะนำให้ทำการจองเวลาเข้าชมล่วงหน้า
- สามารถนำเก้าอี้รถเข็นเข้ามาได้
- ขอแนะนำให้สวมรองเท้าที่ใส่สบายและแต่งกายสุภาพ
- ไม่อนุญาตให้นำสัตว์ช่วยเหลือเข้ามาในพระวิหาร
- กรุณางดสูบบุหรี่ในบริเวณพระวิหาร
วันเวลา
วันที่ 1 - 16 กันยายน 2023
(ยกเว้นวันอาทิตย์)
เวลา 09:00 น. - 21:00 น.
ลงทะเบียน
ก่อนที่ BangkokTemple.ChurchofJesusChrist.org
สถานที่ตั้ง
1645/6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
10400
พิกัด https://goo.gl/maps/HKXNggh7t4hFBdBc9
ระยะเวลาในการเยี่ยมชม
งานโอเพ่นเฮ้าส์ประกอบด้วยวิดีโอสั้นๆ และการเดินชมบริเวณต่างๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณกำลังดู: “พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย” ศรัทธาอันงดงามแห่งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์
หมวดหมู่: ดูดวง