ประวัติ ฮันโซฮี นางฟ้าติดดินผู้แตกต่างที่ใครๆ ก็หลงรัก

13 ก.ค. 2566 | 21:35 น.

ประวัติฮันโซฮี ไม่ใช่นางเอกเรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่ดาราหลายคนเป็น ทั้งรอยสัก อดีตเคยสูบบุหรี่ โพสต์ภาพตัวเองเมาเละในโซเชียล แต่ทำไมเธอถึงเป็นที่รักของคนทั่วโลกได้

ประวัติ ฮันโซฮี นางฟ้าติดดินผู้แตกต่างที่ใครๆ ก็หลงรัก

ฮันโซฮี ไม่ใช่นางเอกเรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่ดาราหลายคนเป็น ทั้งรอยสัก อดีตเคยสูบบุหรี่ โพสต์ภาพตัวเองเมาเละในโซเชียล แต่ทำไมเธอถึงเป็นที่รักของคนทั่วโลกได้

ฮันโซฮี เป็นนางแบบและนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เป็นที่รู้จักจากบทบาท ยอ ดา-คย็อง ในละครเรื่อง หลังภาพแห่งความสุข (2020) บทบาทนำใน เนเวอร์เดอะเลส: รักนี้ห้ามไม่ได้ (2021) และมายเนม (2021)

ประวัติ ฮันโซฮี (Han So Hee)

ชื่อ: ฮันโซฮี (한소희)
ชื่อจริง: อีโซฮี
วันเกิด: 18 พฤศจิกายน 1994
บ้านเกิด: อุลซัน เกาหลีใต้
สัญชาติ: เกาหลีใต้

ฮันโซฮี กับการเริ่มต้นสู่วงการบันเทิง

ฮันโซฮี เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเบาๆ ด้วยการแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง "Tell Me What To Do" ของ SHINee หลังจากนั้นเธอก็เริ่มงานแสดงจริงจังเป็นครั้งแรกจากซีรีส์ Into the World Again (หรือ Reunited Worlds) ในปี 2017

ฮันโซฮีในอดีต รอยสัก และบุหรี่

ฮันโซฮี โด่งดังและมีชื่อเสียงอย่างชัดเจนจากซีรีส์ The World of the Married (หรือ A World of Married Couple) ในบทหญิงสาวสวยลุคคุณหนูที่เข้ามาแทรกแซงครอบครัวให้ร้าวฉาน หรือหลายคนเรียกว่าบทเมียน้อย ความสวยของเธอสะดุดตาคนเกาหลีและแฟนซีรีส์เกาหลีทั่วโลกอย่างจัง ส่งผลให้หลังจากซีรีส์จบ ชื่อของฮันโซฮีเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสในหน้าที่การงานของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการได้รับบทแสดงอย่างต่อเนื่อง งานโฆษณา พรีเซนเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่เมื่อชีวิตเข้าสู่แสงสปอตไลต์ ภาพเก่าๆ ในโซเชียลก่อนเธอเข้าวงการบันเทิงก็เริ่มถูกเผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ต ฮันโซฮีมาในลุคสาวผมสั้นที่บนเรือนร่างมีรอยสักปรากฏชัดหลายจุด และยังมีรูปในอิริยาบถที่เธอคาบบุหรี่ออกมาอีกด้วย

แต่แทนที่เธอจะออกมาแก้ตัวหรือขอโทษขอโพยสาธารณชน ฮันโซฮีเลือกที่จะยอมรับอดีตของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันในตอนนี้ก็ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ค่ะ และฉันก็เป็นตัวของตัวเองในตอนนั้นด้วยเหมือนกัน

“จริงๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันเห็นโลกเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้นหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะคะ หลังจากที่ฉันก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว มันมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตไป แต่ทั้งหมดนั่นก็ทำให้ฉันเป็นฉันในทุกวันนี้ค่ะ”

ฮันโซฮียอมลบรอยสักทั้งหมดออกจากร่างกายของเธอ เพื่อการทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างไร้ข้อจำกัดให้ได้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังย้ำว่า การลบรอยสักไม่ได้หมายความว่าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเหมือนเมื่อก่อนแต่อย่างใด

“มันน่าอายเหมือนกันถ้าจะบอกว่ารูปพวกนั้นเป็นรูปในอดีต เพราะจริงๆ มันผ่านมาแค่ 3-4 ปีเองค่ะ

“ไม่กี่วันก่อน ทีมงานเพิ่งบอกฉันว่า ‘บางทีเธอน่าจะลองเก็บซ่อนความเป็นตัวของตัวเองจากสาธารณชนบ้างนะ’ แต่ฉันคิดว่าหลายคนก็ชอบฉันในแบบที่ฉันเป็นนะคะ รวมถึงตัวตนในอดีตของฉันด้วย เพราะฉะนั้นฉันเลยรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนในจุดนั้นด้วยค่ะ”

ปัจจุบัน ฮันโซฮี มีรอยสักบนร่างกายอยู่บ้างในบางจุดใต้ร่มผ้า เธอเลือกที่จะลบรนอยสักที่เห็นได้ชัดเจนอยางบนแขนหรือหัวไหล่ เพื่อการรับบทที่ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น และเป็นสิ่งที่จำเป็นในวงการแสดง นั่นทำให้เธอได้รับบทที่หลากหลายมากกว่าการเป็นเพียงลูกคุณหนู แต่ยังเป็นนักศึกษาหัวใจว้าวุ่นใน Nevertheless สาวนักบู๊ที่ฮันโซฮีต้องเพิ่มน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อใน My Name หรือจะเป็นนักแต่งเพลงสาวลุคอบอุ่นใน Soundtrack #1

ฮันโซฮี กับนิสัยติดดินที่มาจากตัวตนและครอบครัวของเธอจริงๆ

ฮันโซฮี ไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นมากนัก ความสัมพันธ์ของเธอกับแม่มีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องเงินทอง โดยแม่ของเธอสร้างหนี้ให้เธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวจากการแอบเปิดบัญชีด้วยชื่อของเธอ แล้วไปทำธุรกรรมยืมเงินแล้วเบี้ยวเงินคนอื่นจนทำให้เธอมีหนี้ที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อจำนวนมาก

อีจินโฮ นักข่าวรายงานว่า ฮันโซฮีต้องทำงานอย่างหนัก 12 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 6 โมงเช้าของอีกวันในผับ 6 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเก็บเงินและจ่ายหนี้ให้แม่ของเธอจำนวน 20 ล้านวอน ตั้งแต่ช่วงที่เธอยังไม่ได้เข้าวงการบันเทิงเต็มตัว

ดังนั้น การที่เธอเป็นคนติดดิน มีนิสัยเป็นกันเอง ง่ายๆ สบายๆ และไม่ค่อยเห็นด้านความเป็น “คนดัง” จากเธอทั้งๆ ที่เธอโด่งดังระดับซูเปอร์สตาร์ อาจเป็นเพราะว่าเธอเคยมีชีวิตที่ยากลำบากมาก่อน และเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นนักแสดง ไม่ได้เป็นเซเล็บ

“ฉันเป็นคนเขินง่ายนะคะ แต่ฉันก็แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา และฉันคิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบที่ฉันแสดงอารมณ์ออกมาโดยไม่มีอะไรปิดบัง เหมือนแฟนๆ รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉันน่ะค่ะ ฉันคิดว่าแฟนๆ อาจจะมองฉันแล้วคิดว่า ‘จริงๆ แล้วคนนี้คือใครนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้’ สำหรับฉันแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ฉันอยากใช้ชีวิตเหมือนวัยหนุ่มสาวที่อยากจะใส่อะไรก็ใส่ อยากกินอะไรก็กิน อยากแสดงออกยังไงก็ได้ที่อยากจะทำ ตราบใดที่ทุกอย่างยังอยู่ในศีลธรรมที่ถูกที่ควร ฉันอยากแสดงออกถึงตัวตนของฉันออกมาอย่างอิสระค่ะ แทนที่จะมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี ฉันหวังว่าคนอื่นๆ จะหาวิธีแสดงตัวตนของคุณออกมาได้ชัดเจนนะคะ”

นั่นทำให้เธอยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหลังเป็นดาราดัง เธอยังคงคบเพื่อนกลุ่มเดิม บางทีก็โผล่ไปช่วยงานร้านอาหารของเพื่อน เมาเละเทะกับเพื่อนจนเพื่อนถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วเธอก็เลือกที่แบ่งปันด้านนี้ของเธอให้แฟนๆ ได้เห็นอย่างไม่ปิดบัง ฮันโซฮีรักษาสมดุลขอลชีวิตในการเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์หรู ถ่ายแบบนิตยสารชื่อดัง เข้ากองถ่าย สลับกับการเป็นเพื่อนสาวในกลุ่มที่ยังคงแต่งตัวธรรมดาๆ ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งสองโลกคือตัวตนของเธอทั้งหมด

ฮันโซฮี กับนิสัยที่ทำให้แฟนคลับหลงรัก

ด้วยความติดดินและไม่เคยคิดว่าตัวเองดังของเธอ ทำให้เธอปฏิบัติกับแฟนเพลงเหมือนเป็นคนธรรมดาที่ชื่อชอบในผลงานของเธอ และเธอไม่ได้อยู่เหนือกว่าแต่อย่างใด แฟนๆ มักเห็นภาพฮันโซฮีพูดคุยกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง ถ่ายรูป แจกลายเซ็น รับของจากแฟนคลับอย่างใกล้ชิด ก้มลงไปเซ็นชื่อให้กับพื้น รับของจากมือพร้อมแสดงความยินดีอย่างชัดเจน ปลอมประโลมแฟนๆ เมื่อเธอเห็นแฟนๆ ร้องไห้เมื่อเจอเธอ ใช้ข้าวของต่างๆ ที่แฟนๆ มอบให้เธอเป็นของขวัญ โพสต์โน้ตที่แฟนๆ เขียนให้เธอลงในโซเชียลมีเดีย และอีกมากมายที่เล่ายังไงก็ไม่หมด สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ในตัวซูเปอร์สตาร์ทุกคน และฮันโซฮีก็ยังคงเป็นฮันโซฮีแบบนี้เสมอต้นเสมอปลายเรื่อยมา

… ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ฮันโซฮี เป็นนางฟ้าติดดินที่ใครๆ ก็หลงรักนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน