รู้หรือไม่? Deep Rising "เลื้อยทะลวง 20,000 โยชน์" เกือบจะได้เป็นหนังภาคต้นของ King Kong
รู้หรือไม่ Deep Rising "เลื้อยทะลวง 20,000 โยชน์" หนังเอเลี่ยนที่สนุกเอาเรื่องแต่กลับโดนวิจารณ์เละเทะ เกือบจะได้เป็นหนังภาคต้นของ King Kong และนี่คือเบื้องลึกเบื้องหลัง...โดยเพจ ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส
เชื่อหรือไม่ว่า Deep Rising หรือชื่อไทย เลื้อยทะลวง 20,000 โยชน์ เป็นหนังที่น่าเห็นใจมากๆ อย่างแรกเลยคือมันเป็นหนังมอนสเตอร์ที่ดูสนุกเอาเรื่อง แต่กลับโดนคำวิจารณ์ถล่มเละเทะ โดยเฉพาะนักวิจารณ์ชื่อดังที่น่าเชื่อถือที่สุดอย่าง Roger Ebert โดยเขายกให้มันเป็นหนังที่ห่วยแตกที่สุดในปีนั้น
เริ่มแรกมันคือโปรเจกต์ที่ใหญ่โตใช้ได้ เพราะมันเป็นการผลิตของสตูดิโออย่าง Hollywood Pictures ซึ่งเป็นสตูดิโอลูกของ Walt Disney ที่ผลิตหนังที่มีเนื้อหาแรงขึ้นมาอีกระดับให้สตูดิโอใสๆอย่าง Walt Disney
พระเอกนั้นถูกวางตัวให้เป็น Harrison Ford กันเลยทีเดียว ที่พีคกว่านั้นคือหนังถูกวางแผนให้มันคือภาคต้นของ King Kong เวอร์ชั่นรีบูท โดยจะมีการเฉลยในภายหลังว่าเกาะร้างที่พวกพระเอกรอดชีวิตในท้ายเรื่อง Deep Rising ก็คือเกาะหัวกะโหลกตามท้องเรื่อง King Kong นั่นเอง มารู้ทีหลังแล้วก็ร้องว้าวไปตามๆ กัน ถ้าโปรเจกต์มันต่อเนื่องอย่างที่วางแผนไว้มันจะเป็นอะไรที่ดีงามมาก
ทว่าเกิดการล้วงลูกจากสตูดิโอมากเกินไป แนวทางของ Stephen Sommers ผู้กำกับที่กำลังร้อนฉ่ากับผลงานอย่าง The Jungle Book เมาคลีลูกหมาป่า เวอร์ชั่นที่ Jason Scott Lee นำแสดง เขาอยากทำหนังอสุรกายใต้ผืนน้ำเรต R ที่มีเนื้อหารุนแรง เต็มไปด้วยความดิบเถื่อน ซึ่งนั่นมันค้านกับแนวทางเดิมที่จะโยงไปสู่หนังลิงยักษ์เรื่องดัง หนังถูกลดสเกลลงจากความขัดแย้ง และงบประมาณก็ลดลงตามลำดับจนแทบจะกลายเป็นหนังเกรด B
มีเพียงนางเอก Famke Janssen สาวบอนด์แห่ง 007 GoldenEye เท่านั้นที่ยังพอทำให้หนังดูมีอะไร เธอสามารถเรียกแขกได้อยู่บ้าง ส่วนพระเอกนั้น อย่าได้หวังว่าจะได้ระดับ Harrison Ford มาใช้งานเลย เขาอยู่ในช่วงที่ยังฮ็อตมากๆ เพราะงบประมาณถูกลดลงเหลือเพียง 40 ล้านเหรียญ หนังจึงได้แค่ Treat Williams นักแสดงเกรด B+ ของวงการมานำแสดง เพราะสตูดิโอคิดว่าหนังสัตว์ประหลาดนั้นไม่มีใครแคร์พระเอกเท่าไอ้ตัวใต้น้ำนั่นหรอก
หนังถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามมีตามเกิด มันกัดกร่อนชีวิตของผู้กำกับ Stephen Sommers ไปพอสมควร แต่เมื่อได้เริ่มมันแล้ว เขาก็ทำได้แค่ทำงานของตนเองต่อไปในงบจำกัดจำเขี่ย ถึงขนาดที่ว่าต้องลดแสงหนังลงเพื่อให้กลืนกับ CG สัตว์ประหลาดราคาถูกกันเลยทีเดียว แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของเขาที่ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยใจกับโปรเจกต์ที่คั่งค้างอยู่ แต่เขาก็ได้พัฒนาโปรเจกต์ The Mummy ควบคู่กันไปด้วยเพื่อนำเสนอค่ายอื่น
ด้วยความที่คาดหวังอะไรกับ Deep Rising ไม่ได้แล้ว แผนการโยงไปสู่ King Kong จึงล่ม หนังอสุรกายเรื่องนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นงานเกรด B โดยสมบูรณ์ มันแค่ถูกทำให้เสร็จๆ ไปแล้วเข้าฉายเท่านั้น มีการพยายามตัดต่อให้มันเป็นหนังเรต PG13 แต่ไม่เป็นผล เพราะฟุตเทจหนังอสุรกายเรื่องนี้ถูกถ่ายทำบนพื้นฐานของหนังที่มีเนื้อหารุนแรง ซึ่งผู้สร้างก็ตัดสินใจเอาเข้าฉายในอเมริกาเวอร์ชั่นเรต R แต่ในบางประเทศหนังได้เรต 15+ หรือไม่ก็เรต PG ซึ่งแน่นอนว่าถูกตัดมั่วเละเทะไปหมด
ตอนเข้าฉายมันแทบไม่ได้รับการเหลียวแลเลย หนังทำรายได้ไปแค่ 11 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญ และมีระยะเวลาการสร้างที่ยาวนานจนกลืนกินชีวิตผู้กำกับคนเก่ง หลายปีต่อมา Stephen Sommers กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนซื้อ Blu-ray ไปดู เพราะส่วนใหญ่ผู้ชมจะได้รับชมกันทางเคเบิลทีวีมากกว่า ซึ่งเวอร์ชั่นฉายทีวีมันถูกตัดออกกว่า 30 นาที Stephen Sommers กล่าวว่าแม้มันจะเป็นหนังที่คว่ำสนิท แต่เขาก็รักมัน การถูกตัดออก 30 นาทีทำให้เขาอยากร้องไห้ และใน Blu-ray เขาได้เฉลยว่าไอ้ตัวหนวดๆ นั่นมันคือตัวอะไร เขาบอกว่ามันคือหมึกยักษ์กลายพันธุ์ที่จะเป็นหนึ่งในอสุรกายในจักรวาลเดียวกับ King Kong นั่นแหละ
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจอสุรกายที่ทำให้ชีวิตเขาเสียหมาไปแล้ว ยังมีข่าวดีตามมา เพราะ Universal Pictures ซื้อไอเดียและสั่งให้เขาดำเนินการเต็มสูบกับโปรเจกต์หนังผจญภัย The Mummy หนังที่เขาหมายมั่นปั้นมือว่ามันจะเป็นโคตรโปรเจกต์ที่เอาไว้แก้แค้นคำดูถูกที่มีต่อ Deep Rising ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่ Stephen Sommers จะจัดหนักจัดเต็มถลุงเงินกับหนังมัมมี่เรื่องนี้จนจินตนาการของเขาสร้างรายได้กว่า 415 ล้านเหรียญ ทั่วโลกจากทุนสร้าง 80 ล้านเหรียญ แถมมีภาคต่อออกมาโกยเงินไปอีกอื้อซ่า
ถามว่าแล้วโปรเจกต์ King Kong ที่ Stephen Sommers คิดจะทำตั้งแต่แรกหายไปไหน ไม่ได้หายไปไหน เพราะหลังจากที่หอบใจช้ำๆ ไปซบอก Universal Pictures เขาก็หอบเอาลิขสิทธิ์ King kong ไปเจรจาด้วย เพียงแต่เขาไม่ได้ทำ เพราะแค่โปรเจกต์ The Mummy เขาก็แทบไม่มีเวลาแล้ว โปรเจกต์จึงเปลี่ยนมือไปที่ Peter Jackson ผู้กำกับที่ฮอตมากกับ The Lord of the Rings ในตอนนั้น บังเอิญว่า Peter Jackson เองก็คลั่งเจ้าลิงยักษ์ตัวนี้ด้วยเช่นกัน เขาจึงพัฒนามันควบคู่ไปกับการกำกับ The Lord of the Rings ทั้ง 3 ภาค และเจ้า King kong ตัวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับ Deep Rising เลย
แต่หากใครเคยดูและสังเกตเห็นเสียงคำรามในฉากจบของ Deep Rising นั่นแหละคือเสียงเจ้า King Kong
คลิปตอนจบ
คุณกำลังดู: รู้หรือไม่? Deep Rising "เลื้อยทะลวง 20,000 โยชน์" เกือบจะได้เป็นหนังภาคต้นของ King Kong
หมวดหมู่: หนัง-ละคร