รถพลังงานไฟฟ้าครองส่วนแบ่งตลาด 54 เปอร์เซ็นต์ในประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์
กลายเป็นชาติแรกในโลกที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric
Car) ทำยอดขายได้มากกว่ารถทุกชนิด โดยครองส่วนแบ่งตลาด 54
เปอร์เซ็นต์
ประเทศนอร์เวย์ ได้ทำในสิ่งที่หลายประเทศยังทำไม่สำเร็จ
ด้วยการประกาศว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
สามารถทำยอดขายได้มากกว่ารถยนต์ประเภทอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้น้ำมันเบนซิน, ดีเซล รวมถึงรถยนต์ไฮบริด
ที่น่าสนใจ
สัดส่วนการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศนอร์เวย์มีความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ
โดยในปี 2019 ประเทศแห่งดินแดนไวกิง มีการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่
42.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ในปี 2020 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 54.3 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่รถยนต์ดีเซล ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในปี 2011
ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 75.7 เปอร์เซ็นต์
ตอนนี้เหลือส่วนแบ่งตลาดเพียง 8.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ทั้งนี้ นอร์เวย์
เหมือนกับนานาประเทศที่ประกาศว่าจะยุติการใช้งานรถยนต์เบนซินและดีเซล
โดยนอร์เวย์ตั้งเป้าจะทำให้สำเร็จในปี 2025
Øyvind Thorsen ผู้บริหารสูงสุดของกรมการขนส่งของประเทศนอร์เวย์
เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ผู้บริโภคจำนวนมากตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คิดเป็น 66.7
เปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในประเทศ
เมื่อย่อยลงมา แบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวนอร์เวย์ พบว่า
Audi ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยอันดับสองเป็นของ Tesla
ทางด้าน Christina Bu นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ประเมินว่า
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศนอร์เวย์ในปี 2021
จะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก
เนื่องจากค่ายรถยนต์จะมีการนำเสนอโมเดลรถรุ่นใหม่ๆ เช่น
รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ Ford และ BMW รวมถึง Tesla Model Y
อีกด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่รถยนต์ไฟฟ้าจะครองส่วนแบ่งแตะ 65
เปอร์เซ็นต์ได้เลย
นอกจากนี้ Christina Bu ยังเชื่อว่า แนวโน้มที่เป็นบวกเช่นนี้
โอกาสที่การยุติการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ซึ่งรัฐบาลนอร์เวย์ประกาศว่าจะทำให้สำเร็จในปี 2025
ก็เป็นเรื่องไม่ไกลเกินเอื้อม
คุณกำลังดู: รถพลังงานไฟฟ้าครองส่วนแบ่งตลาด 54 เปอร์เซ็นต์ในประเทศนอร์เวย์
หมวดหมู่: เทคโนโลยีใหม่