รวมมือถือกำลังตกรุ่น แต่ยังน่าคบหาประจำเดือน มกราคม 2023

ส่องมือถือที่กำลังตกรุ่นหรือตกรุ่นแล้วที่ราคาลดจนน่าใช้ส่งท้ายเดือน มกราคม 2023

กลับมาพบกันกับรวมมือถือจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้สำหรับคนที่อยากได้มือถือใหม่ที่สเปกดีไม่อยากรอรุ่นใหม่หรือ ซื้อรุ่นเดิมที่วางจำหน่ายอยู่ราคาได้มากกว่า ในต้นปี 2023 เช่นเดือนมกราคม จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย

Samsung Galaxy S22 Ultra

 

เริ่มต้นกับเรือธงของ Samsung สายกล้องที่คุ้นเคยไม่ว่าจะเป็นคนที่มองหามือถือซูมเก่ง หรือ มือถือปล่อย เช่าดู Concert จนเป็นกระแส ไม่แปลกใจเพราะรุ่นใหม่กำลังจะมาอกีไม่กี่วันข้างหน้า แต่รุ่นเดิมกำลังลดและรุ่นนี้มือ 2 หาสภาพดีๆ ราคาแข็งแรงอยู่ จุดเด่นไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ซูมคือที่ 1 กล้องถ่ายไวและวิดีโอยังนิ่งและคมชัด ในราคาหาดีๆ จบ 2 หมื่นปลายๆ

รายละเอียด Samsung Galaxy S22 Ultra

• หน้าจอ DynamicAMOLED 2X ความละเอียด 3088 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.8 นิ้ว  พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz (1 – 120Hz) ในแบบความละเอียด WQHD+ Touch Sampling Rate 240 Hz สำหรับ Game Mode
• ขนาดตัวเครื่อง 163.3 x 77.9 x 8.9 มม.   
• น้ำหนัก 229 กรัม   
• ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 2200 / Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 (ประเทศไทยใช้ Qualcomm)
• กราฟิก : Xclipse 920 | Adreno 730
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 / 12GB  (LPDDR5)   
• หน่วยความจำภายในความจุ 128 (คู่กับรุ่น RAM 8GB) / 256 / 512GB 
• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 ,UWB, 5G / 4G
• ลำโพง Stereo ทั้งบนและล่างปรับจูนโดย AKG
• การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 40 ล้านพิกเซล   
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น 

• กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล + Dual Pixel + Laser Focus, LED Flash + OIS เปลี่ยนเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น
• เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F/2.4
• เลนส์ Tele 10x ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล(Space Zoom 100x) F/4.9 
• เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้อง ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น    
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68   
• ระบบปลดล็อค สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ   
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh   
• รองรับระบบชาร์จไฟ Fast Charge 45W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi กำลัง 15W Wireless Power Share 2.0 กำลัง 9W
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.0
• สี Phantom Black / Phantom White / Green / Burgundy ไม่รวมสีพิเศษทั้ง ฟ้า Sky Blue, สีเทา Graphite และ สีแดง Red

realme 9 Pro+

แม้ว่าตัวแทนของมือถือรุ่นนี้มาแล้วแต่ถ้าใครยังหารุ่นเดิมที่ได้สเปกในเวลาที่เปิดตัวเรียกว่า ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้เยอะเท่ารุ่นนี้ ผมแนะนำว่าลองหันมามอง realme 9 Pro+ อีกรุ่นที่มีสเปกดีและราคาจับต้องได้ เห็นว่าลดลงมาเหลือราวๆ 8 พันปลายๆ แล้วครับ

รายละเอียดของ realme 9 Pro+

• หน้าจอ OLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+  ขนาด 6.4 นิ้ว   
• ขนาดตัวเครื่อง 160.2 x 73.3 x 8 มม.    

• น้ำหนัก 182 กรัม    
• ชิปเซ็ตประมวลผล  MediaTek Dimensity 920 5G 
• กราฟิก : Mali-G68 MC4 
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB 
• หน่วยความจำภายในความจุ 128GB 

• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, 5G / 4G 
• ลำโพง เป็นแบบ Stereo ทั้งบนและล่าง
• การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง  
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล    
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น  
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + PDAF (Sony IMX766) 
  • เลนส์ มุมกว้าง ความละเอียด 8  ล้านพิกเซล 119 องศา 
  • เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 
  • LED Flash

• ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps, FHD 30/60/120/480 fps, 720p 960 fps 
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ ไม่ได้ระบุ   

• ระบบปลดล็อค สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ 
• ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร   
• แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh    
• รองรับระบบชาร์จไฟ Super Dart Charge 65W (ติดมาให้ในกล่อง)
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0 
• สี Aurora Green, Sunrise Blue 

Xiaomi 12

เรือธงอีกรุ่นที่ตอนนี้จัดว่าทำราคาดีอยู่กับ Xiaomi 12 โดยมีจุดเด่นที่ได้ลำโพงคู่ที่บนล่างและตัวเครื่องที่เล็กพกพาสะดวกมากขึ้นในราคาไม่เกิน เพียง 16,990 บาท แต่ได้สเปกเรือธงถือว่าโดดเด่นไม่น้อยเลยครับ

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 12

• ขนาดตัวเครื่อง: 152.7 x 69.90 x 8.16 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 180 กรัม
• จอแสดงผลขนาด 6.28 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, อัตรารีเฟรช 120HZ
  
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen1 Octa Core
• รองรับ 5G
• Nano-SIM รองรับ 2 ซิมการ์ด
• RAM: 8/12GB
• ROM: 256GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32ล้านพิกเซล (Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45
• กล้องด้านหลัง 3 ตัวหลังประกอบด้วย (Triple Camera)
  
  • เลนส์หลัก (Ultrawide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 เซนเซอร์ Sony IMX766
  • เลนส์เลนส์อัลตราไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 13ล้านพิกเซล , รูรับแสงขนาด ƒ/2.24
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 5ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh
• รองรับชาร์จไว 67W (Fast Charging)
• รองรับชาร์จไร้สาย 50W (Wireless Charging) และสามารถแบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless PowerShare) ได้
• ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Fingerprint Under Display)
• ระบบปฏิบัติการ: ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
• ระบบเสียง: SOUND BY Harman Kardon
• มี 4 สีให้เลือกได้แก่ Black, Green, Blue, Pink

Redmi Note 11S

สำหรับคนที่อยากจะเปิดตัวมือถือรุ่นที่คุ้มค่าและอาจจะเปิดตัวรุ่นใหม่ในช่วงไม่นานหลังจากนี้ Redmi Note 11S กำลังลดราคาหลักพันบาท แต่ได้สเปกดีทั้งกล้อง 108 ล้านพิกเซล กล้องมุมกว้าง ให้ในงบไม่เกิน 8,000 บาท นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แม้จะไม่รองรับ 5G ก็ตาม

รายละเอียดสเปกของ Redmi Note 11S

• ขนาด 159.9 x 73.9 x 8.1 มม.
• หนักเบาเพียง 179 กรัม
• หน้าจอ หน้าจอ FHD+ AMOLED DotDisplay รีเฟรชเรท 90Hz 
• ชิปประมวผล MediaTek Helio G96 | GPU :  Mali-G57 MC2
  
• ความจุ 8GB+128GB
• ความจำเสริม : Micro SD
• Dual SIM (Nano-SIM)
• การเชื่อมต่อไร้สาย : 4G LTE / Wi-Fi 802.11 B/G/N/AC, ฺBluetooth 5.0, GPS A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
• กล้องหลังประกอบไปด้วยกล้อง 4 ตัวประกอบไปด้วย
  
  • กล้องหลักความละเอียด 108ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ/1.9, 26mm (wide), 1/1.52", 0.7µm, dual pixel PDAF
  • เลนส์อัลตร้าไวลด์ 8ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ/2.2, 118˚ (ultrawide)
  • เลนส์มาโคร 2ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ/2.4, (macro)
  • กล้องความลึก 2ล้านพิกเซล ƒ/2.4, (depth)
    
• กล้องหน้า 16ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ/2.4, (wide)
• ลำโพงของเครื่อง : บนและล่าง แบบ Dual Speaker
• ช่องเสียบ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.6 มิลลิเมตร
• ระบบความปลอดภัย
  • เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้าง
  • AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า
• แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh
• เทคโนโลยี 33W Pro Fast Charging 
• ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13 (Global)
• สี Graphite Gray, Twilight Blue และ Pearl White

OPPO Find X5 Pro

อีกมือถือเรือธงของค่าย OPPO ที่สเปกมาครบ และมีกล้องเก็บรายละเอียดดี โดยเฉพาะการถ่ายภาพบบุคคล ความแรงของ Find X5 Pro จัดหนักจัดเต็มอยู่ ในราคาตอนนี้ก็ถือว่าลดลงมาจนคุ้มค่าอยู่ครับ

รายละเอียดของ OPPO Find X5 Pro

• หน้าจอ LTPO2 AMOLED ขนาด 6.7  นิ้วความละเอียดระดับ 3216x1440 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 1 - 120Hz 
• ขนาดตัวเครื่อง 163.7 x 73.9 x 8.5มม.
• น้ำหนัก 218 กรัม
• ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
• กราฟิก :Adreno 730
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB LPDDR5 3200MHz
• หน่วยความจำภายในความจุ 256GB
• การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, 5G / 4G
• ลำโพงStereo ทั้งบนและล่าง รองรับ Dolby Audio
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น
  • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง F/1.8 พร้อม OIS, EIS, Omni-directional PDAF
  • กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 เลนส์ Ultra Wide รูรับแสง F/2.2
  • กล้องTelephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4 รองรับการซูมแบบ Optical 2x, Hybrid Zoom 5x และ ซูมไกลสุด Digital Zoom 20x
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68
• ระบบปลดล็อค Face Recognition Optical Finger Print ในหน้าจอ
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว SuperVOOC กำลัง 80W(แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย AirVOOC Wireless กำลัง 50W จ่ายไฟออก หรือ Power Share กำลัง 10W
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วยColor OS 12.1
• สี Ceramic White, Glaze Black

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือถือกลุ่มนี้แม้ว่าจะลดราคาลำกำลังจะตกรุ่นแต่ในเวลานี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดีแล้วที่จะหาซื้อมาใช้งานเพราะได้ราคาลดลงมาพอสมควร แต่ในเดือนหน้าจะมีกลุ่มมือถือรุ่นไหนที่น่าสนใจมานำเสนออีก รอติดตามต่อในครั้งหน้าครับ

คุณกำลังดู: รวมมือถือกำลังตกรุ่น แต่ยังน่าคบหาประจำเดือน มกราคม 2023

หมวดหมู่: เทคโนโลยีใหม่