รีวิว "หมอหลวง" ย้อนเวลาสู่ยุคแพทย์แผนไทยเฟื่องฟู

รีวิวละคร หมอหลวง ละครแนวโรแมนติกแฟนตาซีข้ามเวลา ที่มาแรงเรตติ้งพุ่งไม่พัก ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวของนักศึกษาแพทย์ยุคปัจจุบัน ข้ามเวลาไปยังยุคสมัยที่การแพทย์แผนโบราณเฟื่องฟู อัดแน่นด้วยเรื่องราวความเข้มข้นการรักษาและยังอิงประวัติศาสตร์อีกด้วย

หากคุณได้ย้อนเวลากลับไปอดีต ช่วงเวลาไหนที่น่ากลับไปสำหรับคุณ? 

ละครแนวโรแมนติกแฟนตาซีข้ามเวลาที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน กระแสตอบรับดีวันดีคืนอย่าง หมอหลวง ทางช่อง 3 เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ตกคนดูให้ติดหนึบกับการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ว่าด้วยเรื่องราวการแพทย์แผนไทยที่น่าสนใจและเข้มข้น เปิดตัวตอนแรกทำเรตติ้งคนดูในกทม.สูงถึง 6.01 เรตติ้งทั่วประเทศ 3.2 เป็นตัวเลขเรตติ้งที่มาแบบทรงดีตั้งแต่เริ่ม และเรตติ้งเพิ่มสูงทุกตอนต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ 4.2 ใน EP.5 แล้ว

• “หมอหลวง” ละครไทยที่ทำให้กลับมาติดงอมแงมรอดูเรียลไทม์หลังจบ “บุพเพสันนิวาส”

 

เมื่อพายุปริศนา พัดพา บัว (คิมเบอร์ลี) ข้ามมิติมายังช่วงเวลาในอดีต ทำให้พบเจอกับ ทองอ้น (มาริโอ้ เมาเร่อ) ที่มาช่วยชีวิตเธอหลังถูกทำร้ายโดยบังเอิญ กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเจอกันของนักเรียนแพทย์ยุคปัจจุปันและนักเรียนแพทย์หมอหลวง 

 

นักแสดงหน้าเดิมแต่พล็อตไม่เดิม

การกลับมาเจอกันอีกครั้งของ มาริโอ้ เมาเร่อ และ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส หลายคนเห็นหน้านักแสดงนำอาจเข้าใจผิดคิดว่า หมอหลวง เป็นละครภาคต่อของ ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง แต่บอกไว้ตรงนี้อีกครั้ง (ผู้จัดก็บอก) ว่าไม่ใช่ภาคสอง ไม่ใช่ภาคต่อ และไม่เกี่ยวเนื่องกัน เพียงแต่ตัวละครนำคู่เดียวกัน แต่ไม่ติดตลกเท่าเรื่องนั้น และมีพล็อตแนวพีเรียดแพทย์แผนโบราณ โทนเดียวกันเท่านั้น แต่ถ้าได้ดูจริงๆ แล้วจะรู้ว่านี่เป็นละครแนวการแพทย์แผนโบราณอิงประวัติศาสตร์ที่น่าติดตามสุดๆ เหมือนเรากำลังดูซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์(แผนโบราณ) แต่พอดีว่าเป็นละครไทย ที่ทำดี ทำได้ และทำถึง! 

 

สมุนไพรจัดหนักยันการรักษา

เวลาเราดูซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์ ไม่ว่าจะปัจจุบันหรือโบราณ ก็มักจะเห็นการลงดีเทลรายละเอียดวิชาชีพเหล่านั้นให้เห็นแบบลงลึก จนบางทีก็จะนึกย้อนกลับมาว่าทำไมละครซีรีส์ไทยที่ทำเกี่ยวกับวิชาชีพ ไม่ใส่รายละเอียดลงลึกแบบนั้นบ้าง ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วในละครไทยเรื่องนี้ ตัวละครฝั่งบ้านพระเอกจะเป็นตระกูลหมอหลวง ตั้งแต่พ่อ พี่ชาย รวมถึงตัวพระเอกอย่าง ทองอ้น ที่มีความฉลาด รอบรู้ช่างสังเกต แต่มักจะทำตัวเกียจคร้านไม่สู้งาน เพราะต้องการปกปิดเอาไว้ไม่อยากให้โดดเด่นเกินหน้าพี่ชาย แต่จะมีฉากที่เข้ามาทดสอบความเป็นอัจฉริยะของทองอ้นอยู่ตลอด เราเลยจะได้เห็นการรักษาแบบแพทย์แผนไทย ผ่านตัวละครหมอในเรื่อง ลงดีเทลตั้งแต่การเก็บสมุนไพร ชนิด การปรุงยา ไปจนถึงการรักษากับแต่ละโรค บอกเลยว่ายิ่งดูยิ่งตื่นเต้นลุ้นตาม เพราะแต่ละเคสที่เข้ามาทดสอบตัวละคร มีแต่อาการหนักๆ ทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าการใส่รายละเอียดในเรื่องมากมายขนาดนี้ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ​ด้านสมุนไพร มาให้คำปรึกษา​อย่างใกล้ชิด

 

มีเคสรักษาใหม่ ลุ้นไม่พัก

อีกหนึ่งความสนุกของเรื่องนี้ จะพาคนดูไปลุ้นการร่ำเรียนหมอหลวงของตัวละคร ทองอ้น ที่เหมือนเป็นตัวตึงของโรงเรียนหมอหลวง ที่รวมตัวลูกหลานหมอ คนใหญ่คนโต และคนธรรมดา ที่จะต้องเรียนรู้และผ่านบทเรียนวิชาการแพทย์ไปด้วยกัน และอีกหนึ่งอย่างตัวละครจะเจอเหตุการณ์​ให้เจอผู้ไข้(คนป่วย)​ นอกโรงเรียนมาให้ทดสอบความสามารถ​และการรักษา ทำให้คนดูแบบเราคอยลุ้นเอาใจช่วยตอนต่อตอน ตัวอย่างเคสคนเลือดออกในสมองแต่ญาติเข้าใจว่าตายแล้ว และเคสล่าสุดที่มีการอิงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ เป็นการผ่าตัดครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสยาม โดยหมอบรัดเลย์ มิชชันนารี​ที่มาให้ความรู้ด้านการแพทย์ในสยามช่วงรัชสมัย​ร.3 ที่เป็นยุคเฟื่องฟูของแพทย์แผนโบราณ​ และต้องลุ้นกันต่อว่าจะมีเคสการรักษาใหม่มาให้ตัวละครได้เผชิญหน้าอีก

 

ปริศนาข้ามเวลา

ผ่านมาครึ่งเรื่องคนดูจะได้เห็นในพาร์ทการเติบโตของตัวละคร ทองอ้น ให้เอาใจช่วย แต่ในส่วนของตัวละคร บัว เราได้เห็นเธอวินิจฉัย​โรคในบางฉาก แต่ยังไม่ได้เห็นเธอโชว์สกิลนักเรียนแพทย์ปัจจุบัน​สักเท่าไร รวมทั้งปริศนาพายุที่พัดพาเธอข้ามมิติมายังรัชสมัย​ ร.3 อะไรเป็นสาเหตุ​ที่ทำให้เธอมาที่นี่ และตัวละครยุคอดีตจะทะลุมิติไปยังอนาคตด้วยหรือไม่ ยังคงชวนให้คนดูติดตามกันต่อไป

โดยรวมละคร หมอหลวง ผ่านมาครึ่งเรื่องเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ควรปักเข้าลิสต์​ละครที่ควรดู เพราะนอกจากความสนุกแล้วยังได้สาระเน้นๆ เรื่องสมุนไพรอีกด้วย ติดตามได้ทุกวัน จันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 

คุณกำลังดู: รีวิว "หมอหลวง" ย้อนเวลาสู่ยุคแพทย์แผนไทยเฟื่องฟู

หมวดหมู่: หนัง-ละคร