เที่ยว "ไร่สีฟ้า แก่นมะกรูด" กินสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากต้น ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

18 มี.ค. 2562 | 14:10 น.

พาเที่ยวไร่สีฟ้า แหล่งทอ่งเที่ยวเชิงเกษตร กับการทำไร่แบบทฤษฏีใหม่ท่ามกลางขุนเขาและลมหนาวแห่งแก่นมะกรูด อุทัยธานี

เที่ยว "ไร่สีฟ้า แก่นมะกรูด" กินสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากต้น ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

เชื่อว่าสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คนแล้ว การได้ไปสัมผัสกับความดิบที่ไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ ของวัฒนธรรมประเพณี รวมไปถึงธรรมชาติ ล้วนเป็นความสุขของการท่องเที่ยวทั้งสิ้น ซึ่ง Sanook! Travel ได้ไปค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เมืองรองที่เป็นรองแค่ชื่อ เพราะที่นี่มีของดีที่ซุกซ่อนอยู่มากมาย และที่สำคัญสถานที่เที่ยวของอุทัยธานียังคงสมบูรณ์

ดั่งเช่นที่ไร่สีฟ้า ไร่เกษตรทฤษฏีใหม่ในเขตพื้นที่ตำบลแก่นมะกรูด พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าหนาวที่สุดในเขตภาคกลางในช่วงหน้าหนาว ที่นี่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของไร่มีชื่อว่าพี่สีฟ้า เป็นชาวกระเหรี่ยง ที่ตั้งรกรากทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้มาอย่างยาวนาน

ภายในไร่ถูกแบ่งสันปันส่วนในการทำเกษตรอย่างเป็นระบบ บนพื้นที่กว่า 32 ไร่ ซึ่งสิ่งแรกที่เราจะได้เห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี่นั่นก็คือไร่สตรอว์เบอร์รี ซึ่งเราอาจจะไม่คุ้นชินนักกับไร่สตรอว์เบอร์รีในภาคกลางแต่ขอบอกเลยว่าที่ บ้านไร่อุทัยธานีนี้สามารถปลูกสตรอว์เบอร์รีได้ผลผลิตอย่างดีงาม และที่สำคัญมีรสชาติที่อร่อยมากด้วย

พี่สีฟ้าพาเราเดินชมไร่สตรอว์เบอร์รี ซึ่งปลูกขึ้นเป็นแนวยาว ผสมกับดอกไม้หลากหลายสีสันที่ขึ้นแซมอยู่ในแปลงสตรอว์เบอร์รี เป็นภาพบรรยากาศที่ร่มรื่นและสวยงามเป็นอย่างมาก มีแบ็คกราวด์ด้านหลังเป็นภูเขาใหญ่ที่ล้อมรอบไร่สีฟ้าแห่งนี้เอาไว้ นับเป็นวิวอันงดงามที่สร้างความประทับใจให้กับเราทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากรถเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชเมืองหนาวหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น กรีนโอ๊ค หอมญี่ปุ่น และพืชตระกูลสลัด เรียกได้ว่าเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ที่พร้อมเสิร์ฟผักสดๆ และวัตถุดิบที่มีคุณภาพออกไปสู่นักท่องเที่ยว

หลังจากนั้นเราก็ไปเดินชมไร่สตรอว์เบอร์รีแปลงใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถชืมสตรอว์เบอร์รี ที่เพิ่งจะเก็บเกี่ยวในตอนเช้าได้สดๆ เลยด้วย สตรอว์เบอร์รีที่นี่จะมีรสชาติหวานฉ่ำและมีกลิ่นที่หอมมากๆ ถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ทดแทนด้วยรสชาติที่อร่อยแบบนี้ บอกเลยว่าต้องซื้อกลับไปกินกันให้หนำใจ

ภายในบริเวณไร่ยังมีที่พักไว้ให้บริการ เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในไร่สตรอว์เบอร์รี ลองคิดภาพบรรยากาศในยามหน้าหนาวจะมีสายหมอกลอยเอื่อยๆ ปกคลุมไปทั่วไร่ อากาศที่หนาวเย็น ตอนกลางคืนรายล้อมด้วยหมู่ดาว ได้กินอยู่แบบชาวบ้าน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่สวยงาม แค่นี้ก็ฟินแล้ว หากมีโอกาสในช่วงหน้าหนาวเราจะกลับมาพักที่นี่สักคืนแน่นอน

เมื่อเดินสำรวจกันจนทั่วไร่แล้วก็ได้เวลาไปทานอาหารกัน ซึ่งอาหารมื้อนี้ทางชาวบ้านก็ได้จัดเตรียมให้แก่เราโดยเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวกระเหรี่ยงที่จะเสิร์ฟมาให้เราทานในกระบอกไม้ไผ่ ได้บรรยากาศสุดๆ เมนูอาหารในวันนี้ได้แก่ หมูทอด ผักสด น้ำพริกปลา แกงหยวกกล้วย แกงหมูสามชั้นใส่ข้าวคั่ว เป็นรสชาติที่แปลกใหม่แต่อร่อยดีงามมาก ใครที่กลัวว่ามาท่องเที่ยวที่นี่แล้วจะทานอาหารไม่ได้บอกเลยว่าหายห่วง

ต่อจากมื้ออาหารสุดพิเศษในช่วงกลางวัน ทางชาวบ้านก็ยังมีโชว์การทำ "ข้าวยืด" ขนมพื้นบ้านที่จะทำกันในช่วงที่มีงานเทศกาลและงานสำคัญของชาวกระเหรี่ยง โดยวัตถุดิบทำมาจากข้าวเหนียวนึ่งสุกและงาดำนำมาตำในครกไม้ขนาดใหญ่ นวดให้วัตถุดิบทั้งสองเข้ากันเป็นเนื้อเดียว โดยไฮไลท์อยู่ระหว่างการทำชาวบ้านจะนวดแป้งไปพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะการพูดคุยหยอกล้อกันกับนักท่องเที่ยว เป็นรอยยิ้มที่จริงใจ และภูมิใจกับวัฒนธรรมของตัวเองเป็นอย่างมาก เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ

โดยรวมแล้วนี่คือโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ทั้งตัวสถานที่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางโลเคชั่นที่งดงาม ทั้งวิวภูเขา ต้นไม้ และไร่สตรอว์เบอร์รี รวมไปถึงมีวัฒนธรรมประเพณีให้ได้เรียนรู้ วัฒนธรรมเหล่านี้มีเสน่ห์ของตัวมันเองโดยไม่ต้องการการปรุงแต่งใดๆ ผู้คนยิ้มแย้มน่ารักและพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ขาดเพียงแต่การโปรโมทเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในแนวนี้อยู่ ลองแวะไปอุดหนุนผลผลิตของชาวบ้าน ไปเยี่ยมชมความสวยงามของวิถีชีวิต ไปพักผ่อนท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ และที่สำคัญอย่าลืมไปชิมสตรอว์เบอร์รีของไร่สีฟ้า รับประกันว่าอร่อยมากจริงๆ