แอ่วเหนือให้ฉ่ำ ขับรถเที่ยว 10 หมู่บ้านเมืองรองภาคเหนือสุดฟินช่วง Green Season

30 พ.ค. 2567 | 10:51 น.

แนะนำ 10 หมู่บ้านภาคเหนือเที่ยวสุดฟินช่วง Green Season สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติอันเขียวชอุ่มอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับเที่ยวช่วงฤดูฝน จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย

ตั้งอยู่ตำบลโป่งงาม เป็นชุมชนขนาดเล็กตั้งอยู่ระหว่างทางจากดอยตุง ดอยช้างมูบ ลงมาสู่ถ้ำหลวง โดยอยู่ห่างจากบ้านผาหมีซึ่งอยู่ต่ำกว่าลงมาทางพื้นราบอีกราว 13 กิโลเมตร คนในหมู่บ้านผาฮี้เป็นชาวอาข่าที่เดิมในอดีตเคยปลูกฝิ่น แต่ภายหลังราวปี พ.ศ. 2524 ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้ปลูกกาแฟ และเมื่อโครงการพัฒนาดอยตุงเข้ามาเปิดแปลงทดลองวิจัยกาแฟเมื่อปี พ.ศ. 2531 ทำให้ชาวบ้านผาฮี้หันมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลักเลี้ยงตัวสืบมาจนปัจจุบัน

หมู่บ้านผาฮี้ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ธรรมชาติสวยไม่แพ้ใคร ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาสูง มีผืนป่าสีเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ปกคลุมไปทั่ว แถมยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีของจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ที่สำคัญมีชาวอาข่าอาศัยอยู่ทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตื่นเช้ามาจิบกาแฟ ชมวิวดี ๆ แค่นี้ก็ได้ชาร์จพลังกลับไปเต็มเปี่ยมแล้ว

บ้านแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน

อยากหาที่เที่ยวสงบ ๆ หมู่บ้านแม่ลาน้อยถือเป็นอีกหนึ่งในลิสต์เที่ยวได้เลย ที่นี่มีแต่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โอบล้อมไปด้วยป่าเขา ทุ่งนาขั้นบันไดที่เขียวขจี รวมถึงยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นเยี่ยม ซึ่งชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย มีกิจกรรมและที่เที่ยวหลากหลายด้วย เช่น เที่ยวชมโครงการหลวงแม่ลาน้อย ชิมผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่างกาแฟสด และช๊อปผลิตภัณฑ์จากผ้าท้อขนแกะบ้านห้วยห้อม ฯลฯ และถึงแม้ทุกวันนี้แม่ลาน้อยจะเป็นที่รู้จักกว่าแต่ก่อน แต่เสน่ห์ของแม่ลาน้อยก็ไม่มีลดลงเลย

บ้านป่าเหมื้ยง จ.ลำปาง

ตั้งอยู่ตำบลแจ้ซ้อน เป็นชุมชนที่มีอายุกว่า 200 ปี มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ชาวบ้านมีอาชีพปลูกข้าวไร่ กาแฟอาราบิก้า ลูกพลับ รวมถึงการเก็บใบชาป่าเพื่อนำมาแปรรูปเป็นของกินเล่นที่ชาวเหนือเรียกว่า “เหมี้ยง” หรือ “เมี่ยง” เพราะบริเวณนี้มีต้นเมี่ยงขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ "บ้านป่าเหมี้ยง"

กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การเดินป่าเก็บใบเมี่ยง การทำกระเป๋าชาใบเมี่ยง การชมวิธีการทำเหมี้ยง การคั่วกาแฟ รวมไปถึงการทำอาหารซึ่งเป็นพืชผักออร์แกนิคโดยเฉพาะอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ยำใบเมี่ยง”นอกจากนี้ ชุมชนยังมีโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจมาพักค้างแรมเพื่อสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายของธรรมชาติ มีลำธารน้ำใสไหลผ่านกลางหมู่บ้าน สามารถลงไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจริมลำธารเพลิดเพลินกับกาแฟสดที่ปลูกและคัดสรรโดยชุมชน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้ภูมิปัญญาต่างๆของชุมชนบ้านป่าเหมี้ยงได้อีกด้วย

บ้านนาคูหา จ.แพร่

บ้านนาคูหา จังหวัดแพร่ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา ที่ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 เส้นทางการท่องเที่ยวเกษตรสีเขียวของ Gastronomy หรือ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหาร ที่จะพาเราไปสัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน ทั้งการทำไร่ทำนา และปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อไปขายอย่าง เตา (เทา) สาหร่ายจากแหล่งน้ำจืดที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เราได้ชิมกัน เช่น ข้าวเกรียบเตา ก๋วยเตี๋ยวเตา ไข่เจียวเตา กะละแมเตา

ยิ่งในช่วง Green Season แลนมาร์คห้ามพลาดเช็คอิน คือ สะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนาที่ทอดยาวผ่านท้องนาสีเขียวไปยังวัดนาคูหา ที่ประดิษฐานของพระเจ้าต๋นหลวง องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ถือลูกสมอเพียงองค์เดียวในประเทศไทย ระยะทางห่างจากตัวเมือง 30 กม. สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดฤดูฝน และฤดูหนาว

บ้านสกาด อ.ปัว จ.น่าน

ตั้งอยู่บนเทือกดอยภูคา เป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย อาชีพหลักคือทำการเกษตร ปลูกเมี่ยง มะแขว่น ชา และกาแฟ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่ชาวบ้านนิยมปลูกกันมากขึ้น

"ดอยสกาด" มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกชา พันธุ์ที่นิยมปลูกคือชาอัสสัม ซึ่งปลูกทั้งแบบเพาะเมล็ดพันธุ์เอง และขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงทำให้ไร่ชาไม่เป็นแถว โดยปลูกใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่หรือไม้ร่มเงา

นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและหลงใหลในรสชาติของกาแฟและชา ได้มาพักผ่อนและแวะเวียนเข้ามาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวชุมชน

หมู่บ้านดอยสกาดเรียกว่าเป็นเมืองในหุบเขาที่มีร้านคาเฟ่วิวอลังการน่ามาเที่ยวเต็มไปหมด ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ เหมาะกับการมาจิบกาแฟและชาท่ามกลางสายหมอก

บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย

ตั้งอยู่ในตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีวิถีชีวิตแบบชาวบ้านแห่งล้านนา หมู่บ้านแห่งนี้มีโฮมสเตย์ ประมาณ 42 หลัง ค่าบริการเริ่มต้นพัก 1 ท่านราคา 950 บาท ถ้า 2 ท่านขึ้นไป ท่านละ 700 บาทขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าพัก ค่าบริการรวมค่าที่พัก อาหารเย็นและอาหารเช้า

บ้านนาต้นจั่นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น นอนโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปั่นจักรยานชมหมู่บ้าน นั่งรถอีแต๊ก ลิ้มลองมะนาวน้ำผึ้ง อาหารพื้นบ้าน อาหารถิ่นขันโตก และข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ ดูหมอกยามเช้าที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ ชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้สวย ๆ ที่สะพานนา สะพานไม้ไผ่ ชมสาธิตการทอผ้า วิธีการทำผ้าหมักโคลน ตักบาตรตอนเช้า ฯลฯ

บ้านมุงเหนือ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

ตั้งอยู่ตำบลบ้านมุง เป็นชุมชนขนาดเล็กที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน อายุกว่า 300 ล้านปี ท่ามกลางธรรมชาติ ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย เช่น การทำข้าวแดกงา การนั่งรถอีแต๊กเที่ยวชมรอบหมู่บ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน กิจกรรมทำผ้ามัดย้อม การชมฝูงค้างคาวนับล้านตัวบินออกหากินยามค่ำคืน

นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองอาหารพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น แขนบปลา ห่อหมกตาว น้ำพริกมะกอกสุก ทั้งนี้ ชุมชนยังมีโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจมาพักค้างแรม เพื่อสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย

บ้านห้วยปลาหลด จ.ตาก

ชาวลาหู่ หรือ ชาวมูเซอดำ ที่ก่อร่างสร้างบ้านเรือนในบริเวณห้วยปลาหลด ได้เรียกขานชื่อชุมชนตามลำห้วยว่า “ชุมชนห้วยปลาหลด” มีประวัติการเดินทางหลายพันกิโลเมตรจากลุ่มน้ำล้านช้างตอนบน (แม่น้ำโขง) ในสิบสองปันนา มาถึงเมืองตาก แต่เดิมยึดอาชีพปลูกฝิ่นและข้าวโพด จนมีส่วนทำให้ภูเขาหัวโล้น

กระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จมาเยี่ยมราษฎร บริเวณนี้เมื่อเดือนมกราคม ปี 2517 จึงเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ทำรายได้ทดแทน ซึ่งต่อมากลายเป็นแรงบันดาลใจเปลี่ยนวิถีการเกษตร หันมาปลูกพืชผสมผสาน พร้อมทั้งฟื้นฟูผืนป่า จึงทำให้ในปัจจุบันเป็นพื้นที่ภูเขาสูง เขียวขจี มีลำธารน้ำไสไหลตลอดปี มีกอไผ่ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติและปลูกเพิ่มเติมอยู่ทั่วไปในป่า ชุมชนห้วยปลาหลดมีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ลูกเนียง กาแฟ อโวคาโด้ และผักเมืองหนาว และมีพื้นที่ปลูกข้าวไว้กินในครัวเรือน และแปลงปลูกกาแฟ ที่เป็นรายได้หลักของหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ส่วนที่เป็นช่องของสันภูเขาในวันที่ฟ้าเปิด สามารถมองออกไปไกลเห็นตัวเมืองตาก อากาศที่นี่จะเย็นตลอดปี ยิ่งตอนเช้าในช่วง Green Season และ ปลายฝนต้นหนาวจะได้รับลมชมทะเลหมอกสวยมาก จัดเป็นสถานที่ควรค่าแก่การมาชมของนักท่องเที่ยว โดยหากจะนอนดูดาวยามค่ำคืน ทางหมู่บ้านได้ปรับปรุงเป็นที่กางเต้นพักแรมได้แล้ว นอกจากนี้ หากนักท่องเที่ยวที่สนใจท่องเที่ยวธรรมชาติและสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีอย่างใกล้ชิด ที่นี่มีบริการโฮมสเตย์พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน อิ่มอร่อยกับอาหารที่รับประกันว่าสดอร่อยจากไร่ ชมและเพลิดเพลินการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น

บ้านชายเขา จ.อุทัยธานี

บ้านชายเขา ตั้งอยู่ในอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุทัยธานีที่มีทิวทัศน์สวยงามเหมือนต่างประเทศ ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง หุบป่าตาด เพียงแค่ 2 กิโลเมตร ยิ่งช่วง Green Season ทิวทัศน์จะสวยงามและอากาศจะดีมาก จนได้ชื่อว่าเป็น จุดชมวิวบ้านชายเขาสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย โดยจะมีภูเขาหินปูนของ เขาปลาร้า หุบป่าตาด และภูเขาสีเขียวที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โอบล้อมสลับเรียงรายกันอย่างสวยงาม ตัดสลับกับไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ของชาวบ้าน ดูสวยแปลกตา ชาวบ้านแถวนี้จึงได้จัดทำเป็นจุดชมวิวเล็ก ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมชม

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไว้คอยให้บริการอีกด้วย นับได้ว่าบ้านชายเขาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุด Amazing ห้ามพลาดของเมืองอุทัยธานีกันเลยทีเดียว

บ้านเขาโล้น จ.พิจิตร

แต่เดิมในอดีตผืนป่าธรรมชาติของป่าบ้านเขาโล้นหายไปหมด จนกระทั่งชุมชนช่วยกันผลิกผืนป่าให้กลับมามีชีวิต เมื่อป่าอุดมสมบูรณ์ จึงตามมาด้วยดอกกระเจียวยักษ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หากเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่บ้านเขาโล้นนั้นมีระยะทางทั้งสิ้น 1 กิโลเมตร สองข้างทางจะพบดอกกระเจียวยักษ์สีชมพูสวยงามเบ่งบานสะดุดตา มีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติสองเท่า และมีความยาวประมาณหนึ่งศอก กระจายอยู่ในหลายพื้นที่บริเวณเขาโล้น กว่า 400 ไร่

โดยจุดที่พบดอกกระเจียวยักษ์จะอยู่บริเวณพื้นที่เขาโล้น เขาชะอม และเขาตะพานนาก หมู่ที่ 6 บ้านเขาโล้น ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ในช่วง Green Season สามารถเก็บภาพความประทับใจ และสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติของป่าดอกกระเจียวยักษ์ ได้ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมจะได้สัมผัสความงานทางธรรมชาติแล้วยังสามารถซื้อของฝากชุมชนได้อีกด้วย

#สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง
#เปิดประสบการณ์ใหม่เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม
#365วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง
#AmazingThailand