อร่อยล้ำแบบไคเซกิสมัยใหม่

อร่อยล้ำแบบไคเซกิสมัยใหม่

เป็นหนึ่งในเซเลบริตี้เชฟที่มีเสน่ห์ที่สุดของยุคนี้ สำหรับ “เจฟ แรมซีย์” เชฟมิชลินสตาร์ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน แห่งห้องอาหาร “คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์” (Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey) โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ผู้หลงใหลการนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิในรูปแบบสมัยใหม่ หากแต่ยังคงรักษาแก่นแท้ดั้งเดิมของวัฒนธรรมได้อย่างชาญฉลาด

เพื่ออธิบายความเป็นไคเซกิในแบบฉบับของเขาเอง “เชฟแรมซีย์” ตั้งชื่อห้องอาหารว่า “คินสุกิ” มีความหมายว่า “เชื่อมต่อด้วยทอง” อ้างอิงถึงศิลปะการซ่อมแซมเครื่องเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีทอง ซึ่งไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมเพื่อปกปิดรอยแตก แต่ทำให้เครื่องเคลือบโดดเด่นขึ้นมาด้วยสีทอง เปรียบเสมือนการคิดค้นเทคนิคใหม่เพื่อเชิดชูวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น

“เชฟแรมซีย์” เป็นเชฟรุ่นที่สามของครอบครัวฝั่งมารดาชาวญี่ปุ่น แม้เขาจะนำเสนออาหารในรูปแบบแปลกใหม่ทันสมัย แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง โดยทุกเมนูที่รังสรรค์ให้ห้องอาหารแห่งนี้ ตั้งใจรวมกลยุทธ์ต่างๆที่เรียนรู้มาไว้ที่ไคเซกิ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบจากฝั่งตะวันตกของแดนอาทิตย์อุทัยที่คุ้นเคย ผสมผสานกับวัตถุดิบในไทย เพื่อเชื่อมสองวัฒนธรรมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน

เขาเกิดที่ญี่ปุ่น บิดาเป็นทหารอากาศชาวมะกัน เริ่มเข้าสู่วงการอาหารในปี 2539 ด้วยการล้างจานที่ร้านอาหารเม็กซิกัน ในเมืองเบเธสด้า รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา จากนั้นฝึกงานกับทูตด้านการทำซูชิของญี่ปุ่น “มาซาโยชิ คาซาโตะ” จนกลายเป็นศิษย์เอกคว้าตำแหน่งซูชิมาสเตอร์คนแรกที่เป็นชาวต่างชาติ กระนั้น เขาเบนเข็มจากเชฟซูชิไปสร้างตำนานบทใหม่ของตัวเอง โดยเรียนรู้เพิ่มเติมกับเชฟสเปนระดับตำนานอย่าง “เชฟโฮเซ่ อังเดรส์” และ “เชฟแฟร์รัน อะเดรีย” แห่งห้องอาหาร “El Bulli” ก่อนนำทีมเปิด “The Molecular Bar Restaurant” ในกรุงโตเกียว สร้างชื่อในฐานะเชฟอเมริกันคนแรก ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินในต่างประเทศ

ทุกครั้งที่ “เชฟแรมซีย์” เดินทางมาเมืองไทย จะต้องมีเมนูใหม่ๆเซอร์ไพรส์เสมอ สำหรับฤดูกาลนี้เชฟภูมิใจเสนอเมนูไคเซกิขั้นเทพ เรียกน้ำย่อยด้วย “Shokuzenshu” สาเกหมักจากข้าว, น้ำ และโกจิ ที่เชฟหมักเองกับมือ เสิร์ฟคู่เมนู “Hassun” ถาดอาหารที่รวมเมนูเด็ดตามฤดูกาลให้ชิมอย่างละนิด
ละหน่อย เช่น กุ้งหวานกับไข่ปลากระบอกตากแห้ง, เนื้อปูขนปรุงกับซอสมิโซจากมันปู, มะเขือม่วงรมควันกับเยลลีมะเขือเทศและขิง, ไข่ตุ๋นใส่เนื้อปูกับซอสทรัฟเฟิล, กระเจี๊ยบกับมัสตาร์ดมิโซ และแตงกวาบ่มสาเกกับบาร์เลย์มิโซ

เมนูไฮไลต์ยกให้ “Mukozuke” รวมซาชิมิเกรดพรีเมียม มีทั้งปลาบลูฟิน, โอโทโร, คัมปาจิ, มาได, ไข่หอยเม่น และรอยัลออสเซียตคาเวียร์ เชฟภูมิใจเสนอเมนู “Mushimono” เต้าหู้สดโฮมเมดโบราณ ปรุงรสด้วยไข่ปลาแซล มอน, ซอสถั่วเหลือง และอาโอยูสุ อีกเมนูจัดว่าเด็ดคือ “Oshinogi” เป๋าฮื้อดำตุ๋น24 ชั่วโมงแบบชาริซอตโต ส่วนอาหารจานย่าง “Yakimono” เชฟเสิร์ฟปลาคามาสึย่างถ่านโรยด้วยหัวไชเท้าฝนแบบสมัยใหม่ “ยูมิกิ โอริชิ” ให้สัมผัสดุจเกล็ดหิมะ ตามด้วยอาหารตุ๋น “Nimono” ปลาอะมาไดตุ๋นซีอิ๊วหวานและขิง, เมนูทอด “Agemono” เสิร์ฟโคโรเกะปูวาตาริกับข้าวโพดอ่อนย่างและคานิมิโซ ตำรับไคเซกิต้องมี “Shokuji” ข้าวซูชิอบหน้าปลาไหล เสิร์ฟคู่มิโซซุปกับผักดอง ปิดท้ายด้วยขนมหวานในตำนาน “ไดฟูกุไส้เชอร์รี” มาพร้อมเต้าหู้เย็นเมล็ดแอปริคอท, ไวท์พีช และไอศกรีมสาเก...สำรองที่นั่งล่วงหน้าโทร. 0-2650-8800 หรืออีเมล [email protected].

คุณกำลังดู: อร่อยล้ำแบบไคเซกิสมัยใหม่

หมวดหมู่: อาหาร - ร้านอาหาร

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด