"ยอซู" เกาหลีใต้ เมืองแห่งสายลมแห่งทะเล พร้อมความทันสมัยทางเทคโนโลยี
"ยอซู" เกาหลีใต้ เมืองแห่งสายลมแห่งทะเล พร้อมความทันสมัยทางเทคโนโลยี
"ยอซู" (Yeosu)
จากอดีตเมืองท่าและเมืองตากอากาศชายทะเลอันเงียบสงบ
เปิดตัวสู่สายตาชาวโลก ด้วยการเป็นเมืองที่เกาหลีใต้
เลือกให้จัดงานระดับโลกอย่าง "เอ็กซ์โป 2012"
ซึ่งนั่นทำให้หลานคนทั่วโลกได้ทำความรู้จักเมืองแห่งสายลมแสงแดดและสายลมแห่งท้องทะเล
เมืองที่อยู่ทางตอนไต้ของเกาหลีใต้
อุดมไปด้วยทรัพยากรที่หลากหลายมีความพร้อมและกำลังเป็นหมุดหมายของนักเดินทาง
และเมืองแห่งนี้กำลังพัฒนาตัวเองให้เป็น Smart Tourism City
แห่งเกาหลีใต้
"ยอซู"
ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์จากงาน "เอ็กซ์โป 2012"
ซึ่งต้องบอกว่าการจัดงานด้านเทคโนโลยี
ทำให้พวกเขายังคงเดินหน้าเก็บสิ่งเหล่านั้นและพัฒนามาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ซึ่ง "Yeosu Expo Ocean Park" สถานที่ตั้งของ Big-O แลนด์มาร์คของ
“เมืองยอซู” ได้กลายมาเป็นสถาปัตยกรรมเหล็กขนาดยักษ์
ที่ยังทำหน้าที่แสดงแสงเสียงและน้ำพุตั้งแต่งาน Expo
มาจนทุกวันนี้
นอกจากนี้แล้ว
ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโชว์รูมด้านนวัตกรรมที่อัดแน่นไปด้วย Gadget
ล้ำๆ มากมาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่เป็นการรวบรวมเอาเทคโนโลยีกับความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน
และวันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับ "ARTE MUSEUM OCEAN
YEOSU" ซึ่งสถานที่แห่งนี้
ได้ปรับให้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการศิลปะแนวมีเดียอาร์ต
คือใช้มัลติมีเดียประกอบกับศิลปะ
โดยภายใน "ARTE MUSEUM OCEAN YEOSU"
ถูกวางธีมหลักไว้หลายๆส่วน และมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โซนแรกคือ "Flower"
เมื่อเข้ามาจะได้เจอกับดอกไม้หลากสีสัน
ราวกับกำลังอยู่ท่ามกลางดอกไม้จริงๆ
โซนนี้เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้อันจัดจ้าน
เมื่อยืนไปเป็นองค์ประกอบหนึ่งของผลงาน
เราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของศิลปะชิ้นนี้
โซน "Beach" คือชายหาดที่มีฟ้าสลับสีอยู่เบื้องหลัง
บางเวลาเราจะได้เห็นแสงเหนือโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ไหน
หรือถ้าอยากนั่งมองดูเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ริมทะเลยอซูจริงๆ
แล้วไม่ได้มีแค่คลื่นเบาๆ ชิลๆ
แต่ยังมีห้องคลื่นยักษ์ที่ซัดสาดอย่างรุนแรง
เพียงยืนดูก็ระทึกใจแล้ว
โซน "Pink Lagoon"
จะได้เจอกับฝูงนกฟลามิงโกที่เดินเล่นผ่านไปมา
เมื่อมองไปทั้งสองฝั่งของห้องเราจะถูกรายล้อมด้วยฝูงนก
เป็นผลงานศิลปะที่มีสีสัน และมีมูฟเมนต์ที่น่าสนใจ
โซน "Waterfall"
คือน้ำตกขนาดยักษ์ที่ไม่ได้มีเพียงสายน้ำ
แต่เป็นเม็ดทรายจำนวนมหาศาลที่เปล่งประกายระยับร่วงลงมา
เป็นผลงานมีเดียอาร์ตสุดอลังการที่งดงามมาก
โซน "Moon"
ผลงานศิลปะกระต่ายบนดวงจันทร์ตัวโตที่ยืนรอให้ทุกคนไปชมความน่ารัก
เดินต่อมาอีกหน่อยคือโซน Star
ที่ไม่มีใครไม่โพสต์ท่าถ่ายรูปคู่กับบรรดาโคมกระดาษซึ่งแขวนอยู่เต็มห้องกระจกราวกับดวงดาวนับร้อยนับพันดวง
มีลูกเล่นคือแสงสีที่สาดใส่โคมหลายร้อยใบ
บรรยากาศจะเปลี่ยนไปตามแสงสีนั้นๆ
แม้เป็นเพียงโคมกับแสงแต่กลับเป็นผลงานตระการตาสุดๆ
อีกโซนที่หลบเร้นอยู่ไม่ไกลนักคือ "Romantic Thunder
" ห้องเล็กๆ ที่มีสายฟ้าฟาดเป็นสีสันต่างๆ
กับบรรยากาศของเมฆทะมึนที่เปลี่ยนไปตลอด
และไปตื่นเต้นกับเกลียวคลื่นยักษ์ที่ซัดสาดแล้วก่อตัวเป็นวาฬในโซน
Whale
ปิดท้ายส่วนมีเดียอาร์ตด้วยโซน "Garden"
โถงขนาดใหญ่ที่ฉายภาพศิลปะของศิลปินมีชื่อระดับโลกสลับสับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา
เหมือนได้หลุดไปในโลกจินตนาการซึ่งศิลปินได้รังสรรค์เอาไว้
สุดท้ายก่อนถึงทางออกอยากให้ลองแวะ Arte Tea Bar
บาร์เครื่องดื่มที่ยังไม่ทิ้งความเป็นมีเดียอาร์ต ที่เด็ดของเขา
คือเมื่อเราสั่งเครื่องดื่มเราวางแก้วลงบนโต๊ะ
เซนเซอร์จะตรวจจับแล้วฉายภาพดอกกุหลาบลงบนแก้วเครื่องดื่มของเรา
เรียกว่านี่คือความประทับใจก่อนออกจากที่นี่จริงๆ
จากนั้นผมเดินทางออกจาก "ARTE MUSEUM OCEAN YEOSU"
เพื่อเดินทางเดินทางไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ที่ชื่อว่า
เพื่อไปชมวิวยังจุดที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้
"Yeosu Cablecar"
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรก ที่เชื่อมต่อระหว่าง เกาะ Dolsan และ
เมืองยอซู โดยความพิเศษของที่นี่จะไม่ใช่การเที่ยวข้ามฝั่งด้วยถนน
หรือแม่น้ำ แต่เป็นอากาศ
ซึ่งก็ตามชื่อเลยคือเราจะข้ามฝั่งด้วยเคเบิลคาร์
โดยสิ่งทีเราจะได้ระหว่างการนั่งเคเบิลคาร์ของที่นี่
คือสุดยอดวิวที่เรามองเห็นเมืองเมืองยอซู
ที่น่าตื่นตาตื่นใจและต้องบอกว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน
(ภาพวิวชมได้ตามข้างล่างนี่เลย)
"Yeosu Cablecar" สามารถเลือกได้ว่า
จะนั่งกระเช้าแบบปกติ หรือกระเช้าคริสตัล โดยความแตกต่างระหว่าง 2
แบบนี้คือ กระเช้าคริสตัลจะให้ประสบการณ์ที่แปลกและตื่นเต้นกว่า
เนื่องจากว่าเป็นพื้นกระจก ฉะนั้นเราจะได้เห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต
และวิวเมืองด้านล่างแบบสวยงามและพิเศษจริงๆ
นอกจากนี้การขึ้นมาอยู่บนจุดที่สวยที่สุด
ได้ขึ้นมาชมวิวบนยอดภูเขา และมองวิวสวยๆ แบบ 180 องศา ที่ต้องบอกว่า
ทะเลของที่นี่สวยใช่เล่นจริงๆ
และคุ้มค่าจริงๆกับการได้ขึ้นมายังจุดนี้
และนี่คือสองสิ่งที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดจริงๆ เมื่อมาเยือนยังเมือง
"ยอซู" และเดี๋ยวสัปดาห์หน้าเราจะมาแนะนำที่เที่ยวอื่นๆ
เมื่อมาเยือนที่นี่กันอีกครั้ง
และจะบอกว่าทำไมเมืองแห่งนี้ถึงกำลังจะกลายเป็นเมืองแห่ง Smart
Tourism City แห่งเกาหลีใต้....รอติดตามได้เลยครับ
ขอขอบคุณ :
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) สนับสนุนการเดินทาง
ขอขอบคุณ : KTC
World
คุณกำลังดู: "ยอซู" เกาหลีใต้ เมืองแห่งสายลมแห่งทะเล พร้อมความทันสมัยทางเทคโนโลยี
หมวดหมู่: เที่ยวต่างประเทศ