3 สัญญาณที่บอกว่า เราอาจต้อง “เลิกคบ” กับเพื่อนคนนี้แล้ว

3 สัญญาณที่บอกว่า เราอาจต้อง “เลิกคบ” กับเพื่อนคนนี้แล้ว

ว่ากันว่า หนึ่งในของขวัญที่ดีที่สุดในช่วงชีวิตของคนเรานั่นก็คือ “การมีเพื่อนที่ดี” เพราะเพื่อนที่ดีนั้นไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ ที่สำคัญ เพื่อนที่คบกันอยู่หลายสิบคนก็ใช่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีได้ทุกคน นอกจากนี้ ระหว่างทางของการเป็นเพื่อนกันนั้น มันยังมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถส่งผลถึงสุขภาพของความสัมพันธ์ได้ วันนี้อาจจะยังเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันอยู่ดี ๆ ก็จริง แต่วันพรุ่งนี้อาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยดี ๆ พังทลายลงก็ได้เช่นกัน

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และ “เพื่อน” ก็คือผู้ที่สนับสนุนการใช้ชีวิตแบบสัตว์สังคมของมนุษย์ จริง ๆ แล้วมนุษย์ทุกคนต้องการเพื่อน เพราะความต้องการความรัก การเป็นที่ยอมรับ และความเป็นเจ้าของ ถือเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน เราอยากมีใครสักคนที่สามารถนั่งปรับทุกข์ในวันที่เราท้อ อยากมีใครสักคนให้ยืมไหล่พิงในวันที่เสียศูนย์ อยากมีใครสักคนที่จะสนุกสนานไปกับเราในทุก ๆ วัน และอยากมีใครสักคนที่ปรบมือยินดีในวันที่เราประสบความสำเร็จ “มิตรภาพ” ก็ยังเป็นความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญ

ถึงอย่างนั้น มิตรภาพก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้คงอยู่ตลอดไป สักวันมันก็ย่อมจืดจางลงได้เป็นธรรมดา คนสองคนที่เป็น “เพื่อน” สามารถเกิดปัญหาที่ไม่เข้าใจกันได้ ตกลงกันไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง และสานสัมพันธ์กันต่อไม่ได้ ท้ายที่สุดก็อาจลงเอยด้วยการแยกทางกันเดิน เลิกคบกันไปก็ได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หลายคนก็อาจจะรู้สึกสงสัยว่ามิตรภาพที่ยังคงอยู่ในปัจจุบันนี้มีสักกี่ความสัมพันธ์ที่ยังควรค่าแก่การสานต่อ เนื่องจากการมีเพื่อนที่ไม่ดี มันก็ทำให้เกิดพิษภัยในชีวิตได้เหมือนกัน ซึ่งถ้ามันถึงจุดนั้น เราก็ควรจะตัดเพื่อนคนนั้นออกไป

แล้วเมื่อไรกันล่ะที่เราควรจะมาประเมินมิตรภาพกับคนรอบตัว คำตอบก็คือ เมื่อคุณเริ่มตั้งคำถามว่า “ฉันสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้หรือเปล่า” หรือ “นี่ฉันเรียกร้องมากเกินไปเหรอ” หรือ “ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าฉันรู้สึกดีเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนคนนั้น” ถ้าคุณมีคำถามพวกนี้ขึ้นมาในหัวล่ะก็ แปลว่าไม่คุณก็เพื่อนของคุณนั่นแหละที่เปลี่ยนไป อาจเป็นไปได้ว่าเพื่อนของคุณอาจจะไม่ใส่ใจคุณมากเท่าเดิม หรือไม่ คุณก็รู้ตัวแล้วว่าเพื่อนที่อยู่ข้างกายคุณดูจะไม่ได้แคร์คุณในฐานะเพื่อนสักเท่าไรเลย

หากคุณพบว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่ในสถานะดังกล่าว ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่กำลังเป็นอยู่ เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะต้องมานั่งประเมินความสัมพันธ์ของตนเองกับคนรอบตัว และเป็นเรื่องปกติเช่นกันที่มิตรภาพของบางคนจะหายไป แล้วสถานการณ์ในชีวิตเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งถ้าหากว่าคุณรู้สึกแล้วว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปจนถึงจุดที่คุณรู้สึกไม่สบายใจในความสัมพันธ์อีกต่อไป นี่อาจถึงเวลาที่คุณต้องตัดเพื่อนบางคนออกไปจากชีวิต มาลองดูกันว่าเพื่อนแบบไหนบ้างที่คุณต้องโบกมือลาได้แล้ว แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ คนเราไม่ควรเผาสะพานหรือตัดขาดใครด้วยเหตุผลเล็กน้อย แต่ถ้ามันมีผลต่อสุขภาพจิตของคุณ คุณก็คงต้องเลือกความสบายใจของคุณเช่นกัน

1. แสดงปฏิกิริยาด้านลบเมื่อคุณแบ่งปันข่าวดีกับพวกเขา

สิ่งแรกที่น่าสังเกตก็คือ เพื่อน ๆ ของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อคุณแจ้งข่าวสารที่น่าตื่นเต้นของคุณให้พวกเขาได้ทราบ จริง ๆ มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทเมื่อได้ยินข่าวดีของคุณสามารถตีความไปถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้เช่นกัน เพื่อนบางคนอาจจะรู้สึกยินดีกับคุณจริง ๆ ในขณะที่เพื่อนบางคนอาจแสดงปฏิกิริยาอิจฉาหรือเฉยชาใส่คุณ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนบางส่วนที่แสดงท่าทีตื่นเต้นพอเป็นมารยาทเท่านั้น ซึ่งมันอาจจะไม่ดีต่อใจของคุณ เพราะคุณเองก็คงคาดหวังว่าเพื่อนที่คุณรักและรู้สึกสนิทสนมมากที่สุด จะแสดงความชื่นชมยินดีกับคุณมากกว่านี้

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือคนเราควรจะมีเพื่อนที่คอยสนับสนุนและยกระดับความรู้สึกทางจิตใจ มากกว่าเพื่อนที่เอาแต่บั่นทอนกำลังใจของคุณ การถูกรายล้อมด้วยผู้คนที่มีทัศนคติเชิงบวก ที่จะสามารถร่วมยินดีกับความสำเร็จของคุณ รวมถึงให้คุณยืมไหล่เมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตและการสร้างความสุขในชีวิต เพื่อนที่ดีควรจะอยู่กับคุณในสถานการณ์นั้น ๆ เพื่อแบ่งปันความสุขและช่วยคุณรับมือกับความท้าทายในชีวิต หากเพื่อนที่คบอยู่ไม่สามารถสนับสนุนความสุขของคุณ และไม่ช่วยดึงคุณขึ้นมาจากเหวลึก ก็ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนแบบนั้นในชีวิตก็ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนทุกคนที่ไม่ตอบรับยินดีกับความสำเร็จของคุณจะไม่น่าคบหาจนถึงขั้นที่คุณต้องตัดพวกเขาออกไปจากชีวิตทั้งหมดหรอกนะ เพราะเราทุกคนก็เป็นมนุษย์ที่สามารถมีวันที่เลวร้ายได้ พวกเขาอาจจะกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีจนไม่สามารถแสดงความยินดีกับคุณได้เต็มที่นัก ต้องสังเกตต่อไป แต่คนที่คุณควรประเมินความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพวกเขาใหม่ คือคนที่มีท่าทีเฉยเมย ไม่มีความรู้สึกร่วมใด ๆ กับคุณทั้งสิ้น คนที่แสดงท่าทีอิจฉาริษยา หรือคนที่คุณสัมผัสได้ว่าเขากำลังพยายามเป็นศัตรูกับคุณทางอ้อม

2. หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องของตัวเอง

ความสัมพันธ์ที่ดีมันจะต้องไม่มีใครรู้สึกเสียเปรียบในความสัมพันธ์หรือรู้สึกว่าตนเองไม่มีตัวตน เจือจาง เหนื่อยหน่าย และต้องพยายาม ไม่ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหนก็ตาม คนเราควรเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ เป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟัง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ฉันเพื่อน เพื่อนที่ดีจะไม่เอาแต่หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องของตัวเอง จะไม่เอาแต่พูดเรื่องของตัวเองเวลาที่เจอกันโดยไม่เอ่ยปากถามอะไรเกี่ยวกับตัวคุณสักคำ จะไม่หายไปเวลาที่มีความสุขแล้วแวะเวียนกลับมาหาคุณแค่ตอนตัวเองลำบากเท่านั้น จะไม่ทอดทิ้งให้คุณเผชิญทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายตามลำพัง ทุกคนมีเรื่องของตัวเองต้องทำ แต่คนที่เป็นเพื่อนจะต้องวนเวียนอยู่กับคุณเผื่อว่าคุณต้องการกำลังใจ เพื่อนจะสนับสนุนกันแบบนี้แหละ

เพื่อนที่เอาแต่พูดถึงเรื่องของตัวเอง และไม่เคยถามสารทุกข์สุกดิบอะไรเกี่ยวกับคุณ ไม่เคยสนใจว่าคุณจะสุขจะทุกข์ ไม่เคยอยากรับรู้อะไรที่เป็นเรื่องของคุณ แต่พยายามให้คุณได้รับรู้เฉพาะเรื่องของพวกเขาฝ่ายเดียว นี่เป็นมิตรภาพที่เป็นพิษอยู่พอสมควร ที่แน่ ๆ ก็คือ พวกเขาทำลายความเปล่งประกายของคุณให้หมดไป เพราะคุณไม่มีโอกาสที่จะได้แชร์เรื่องราวดี ๆ หรือความสุขที่คุณมีให้ใครสักคนได้ชื่นชมยินดีไปด้วยกัน รวมถึงไม่มีที่ปรึกษาในวันที่คุณมองไม่เห็นทางออก แต่พวกเขากลับหาสิ่งเหล่านั้นจากคุณได้โดยไม่คิดที่จะให้กลับคืน ในทางกลับกัน เพื่อนที่ดีมักจะพยายามทำความเข้าใจมุมมองของคุณและรับฟังข้อกังวลของคุณอยู่เสมอ พวกเขาจะถามไถ่เรื่องต่าง ๆ ของคุณเมื่อมีโอกาส

พูดง่าย ๆ ก็คือ มันเหมือนความสัมพันธ์ฝ่ายเดียว พวกเขาได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียว และคุณก็หมดกำลังใจอยู่ฝ่ายเดียว มันทำให้คุณรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง รู้สึกไร้ค่า รู้สึกไม่มีความสำคัญ ไม่มีตัวตน ทั้งตัวเล็กลงและเลือนรางเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ ถ้าคุณต้องรู้สึกเช่นนี้กับเพื่อนคนไหนล่ะก็ เตรียมตัดคนแบบนี้ออกจากชีวิตได้เลย พวกเขาทำให้คุณรู้สึกแย่เกินไป ไปมองหามิตรภาพจากเพื่อนที่แสดงความสนใจในชีวิตของคุณจะดีกว่า ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของคุณเสมออย่างเอาใจใส่และห่วงใย นี่สิคุณค่าของการมีเพื่อนที่ดี การสื่อสารสองทางจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกันในมิตรภาพ

3. คุณรู้สึกว่าสูญเสียความเป็นตัวเองเมื่อคุณอยู่กับพวกเขา

ปกติแล้วคนเราจะรู้สึกสบายใจมากที่สุดเวลาที่อยู่กับเพื่อนสนิท นั่นเป็นเพราะเราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดแล้ว ไม่ต้องมีเงื่อนไข ไม่ต้องวางมาด สามารถวางกฎระเบียบที่ยุ่งเหยิงทั้งหมดได้เวลาที่อยู่กับเพื่อน แม้ว่าจะยังต้องรักษามารยาทระหว่างกันไว้เพื่อไม่ให้ล้ำเส้นหรือขอบเขตกันมากเกินไป แต่หน้ากากและหัวโขนใด ๆ ที่คุณจำเป็นต้องสวมใส่เมื่ออยู่กับคนที่ไม่สนิทใจด้วย แทบจะไม่จำเป็นเลยเวลาที่คุณอยู่กับเพื่อน คุณสามารถถอดมันออกได้ พวกเขารู้ดีว่าจริง ๆ แล้วคุณเป็นคนแบบไหนอยู่แล้ว มันจึงไม่จำเป็นที่คุณต้องแบกสิ่งเหล่านี้ไว้เมื่ออยู่กับพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจะให้คุณมีพื้นที่ในการเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณมากกว่า

กว่าจะเป็นเพื่อนที่รักและสนิทใจด้วยได้ขนาดนี้ มันเกิดจากการยอมรับในตัวตนของกันและกัน รวมถึงการสนับสนุนในสิ่งที่คุณเป็น รู้ถึงข้อดี รับได้ถึงข้อเสีย รักษามารยาทและความเกรงใจเพื่อที่จะได้ไม่เผลอทำร้ายจิตใจกัน ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค ตราบใดที่คุณไม่ได้ทำร้ายกันในทางอ้อม เพราะพวกคุณเคารพตัวตนกันและกันแบบนี้ แน่นอนว่าทั้งคุณและเพื่อนก็คงมีความลับบางอย่างที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว คุณสามารถไม่เห็นด้วยกับเพื่อนในหลายเรื่อง ๆ และเตือนกันได้เมื่อเห็นเพื่อนเดินผิดทาง แต่โดยทั่วไปพวกคุณก็ไม่ได้ปิดบังอะไรกัน ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าต้องซ่อนหรือเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณเพื่อให้เข้ากับเพื่อนบางคน ก็อาจถึงเวลาที่ต้องประเมินมิตรภาพกับคนนั้นใหม่แล้ว

เพราะหลัก ๆ ก็คือ เพื่อนคนนี้ของคุณดูจะไม่ใช่คนที่คุณรู้สึกสบายใจด้วยนั่นเอง คุณรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยที่จะเป็นตัวเองเวลาอยู่กับพวกเขา รู้สึกไม่สะดวกใจ ลำบากใจ ไม่ไว้ใจ อึดอัด กังขา หรืออะไรก็ตามแต่ คุณจึงต้องหลบซ่อนหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเวลาที่อยู่กับเพื่อนคนนี้ ซึ่งบางทีเขาอาจจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิมด้วยซ้ำที่ไม่สามารถเป็นตัวเองได้ ในขณะที่ความสัมพันธ์ก็ค่อย ๆ มีช่องว่างต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ถ้าทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้ คุณก็คงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจัดการกับความไม่สบายใจดังกล่าว เขาเป็นเพื่อนแบบไหนถึงทำให้คุณรู้สึกสูญเสียตัวตนได้มากขนาดนั้น และคุณยังจะเก็บความสัมพันธ์นี้ไว้อยู่หรือเปล่า

คุณกำลังดู: 3 สัญญาณที่บอกว่า เราอาจต้อง “เลิกคบ” กับเพื่อนคนนี้แล้ว

หมวดหมู่: วัยรุ่น

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด