4 โรคตาอันตราย ที่เสี่ยงได้ทุกเพศทุกวัย
มองเห็นเป็นจุด เป็นใยแมงมุมลอยไปลอยมาขณะกลอกตา ปวดตา ตาแดง ตามัว อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายของโรคตาที่คุณอาจกำลังเป็นอยู่
สุขภาพกายเสื่อม ยังมีสัญญาณเตือน แต่สุขภาพตานี่สิไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ เลย แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าดวงตาเราจะไม่เป็นอะไร เพราะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีปัญหาแล้ว โรคทางตาบางโรคไม่แสดงอาการให้เห็นจนกว่าจะอยู่ในขั้นที่รุนแรง ซึ่งอาจไม่สามารถรักษาให้เป็นปกติได้ กว่าจะรู้ ก็เข้าขั้นสายเกินไป ปัญหานี้จะแก้ไขได้อย่างไร พญ.ปัจฉิมา จันทเรนทร์ จักษุแพทย์ TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ จะเป็นผู้ให้คำตอบค่ะ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าดวงตาเรากำลังมีปัญหา
การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปีสามารถให้คำตอบได้
ฉะนั้นการตรวจสุขภาพตาจึงมีความสำคัญมาก
เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรคทางตาที่อาจจะเกิดขึ้น
หรือวางแผนการรักษาโรคตาบางโรคที่กำลังเป็นอยู่ได้
ซึ่งโรคทางตาที่พบบ่อยมีดังนี้
-
โรคน้ำวุ้นในตาเสื่อม
ธรรมชาติเมื่อเราอายุมากขึ้น น้ำวุ้นตาจะเกิดการละลายกลายเป็นน้ำ
บางส่วนอาจจับตัวกันเป็นตะกอน
เมื่อแสงส่องผ่านเข้ามาในลูกตากระทบตะกอนนี้จะเกิดเงาบนจอประสาทตา ทำให้เราเห็นคล้ายมีจุด
หรือคล้ายแมลงบินไปมา
และขยับได้ตามการกลอกตาของเรา ซึ่งภาวะนี้มักไม่มีอันตรายหากไม่มีจอประสาทตาฉีกขาด
แต่จะเกิดความรำคาญใจได้
จึงควรตรวจตาเพื่อหาดูว่ามีจอประสาทตาฉีกขาดเป็นรู หรือไม่
ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดจอประสาทตาหลุดลอก
-
โรคจอประสาทตาหลุดลอก
เกิดขึ้นเมื่อจอประสาทตาหลุดลอกออกจากเนื้อเยื่อลูกตา
จึงทำให้จอประสาทตาไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
และหากปล่อยไว้โดยไม่มีการรักษาก็จะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุด อาการนำของโรคนี้ ได้แก่อาการมองเห็นแสงฟ้าแลบคล้ายไฟแฟลชกล้องถ่ายรูป
มีสิ่งบดบังในการมองเห็นมองเห็นเหมือนมีอะไรลอยไปมา
มองเห็นเป็นจุดหรือใยแมงมุม การมองเห็นมีเงาคล้ายผ้าม่านมาปิด
หรือเหมือนน้ำท่วมที่ค่อยๆ สูงขึ้น
การมองเห็นเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว เป็นอาการที่รุนแรง
และส่งผลต่อการมองเห็นได้ต้องรีบเข้ารับการรักษา
-
โรคกระจกตาย้วย หรือกระจกตาโก่ง
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างภายในกระจกตา ทำให้กระจกตาบาง
และโก่งออก ส่งผลให้การมองเห็นผิดปกติ มีสายตาสั้น สายตาเอียง
ความสามารถในการมองเห็นลดลง โรคนี้มักพบในช่วงผู้ที่อายุน้อย
และเชื่อว่าเกิดจากการขยี้ตา โรคมักจะมีอาการรุนแรงที่สุดในช่วง อายุ
20 - 39 ปี ในบางรายอาจใช้เวลาหลายสิบปีจึงจะมีอาการรุนแรง
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่ควรทำการแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์
เพราะจะทำให้โรคดำเนินมากขึ้น
-
โรคต้อหิน
เกิดขึ้นกับเส้นประสาทตา ซึ่งเชื่อมระหว่างดวงตา และสมอง หากความดันภายในตาสูงกว่าระดับที่เส้นประสาทตาสามารถรับได้จะทำให้ใยเส้นประสาทตาถูกทำลาย และตายไป คนไข้จะมีขอบเขตในการมองเห็นค่อยๆ แคบลง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา ขอบภาพจะค่อยๆหดเข้ามาจนถึงตรงกลาง และมองไม่เห็นในที่สุด ทำให้ตาบอดได้ ต้อหิน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่มีอาการ และ ไม่มีอาการ
- ประเภทมีอาการ หรือต้อหินชนิดมุมปิด
ความดันภายในตาจะสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการปวดตา
ตาแดง ตามัว คลื่นไส้ อาเจียน ต้องรีบพบจักษุแพทย์
- ประเภทไม่มีอาการ หรือต้อหินชนิดมุมเปิด ในช่วงแรกจะไม่มีปัญหาในการมองเห็นเลย เนื่องจากบริเวณที่มองไม่เห็นอยู่บริเวณขอบๆ ภาพเท่านั้น จึงควรตรวจเช็คสุขภาพตา และได้รับการรักษาตั้งแต่ยังเป็นน้อยๆ
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ยังไม่เป็นต้อหิน
แต่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรม
หรือลักษณะของลูกตาที่มีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นต้อหินได้ในอนาคต
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องได้รับการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง
คุณกำลังดู: 4 โรคตาอันตราย ที่เสี่ยงได้ทุกเพศทุกวัย
หมวดหมู่: รู้ทันโรค