4 วิธีโหลดเตี้ยรถยนต์ มีอะไรบ้าง?

การโหลดเตี้ยเป็นการดัดแปลงช่วงล่างที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากรถจะมีรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตดุดัน และยังเป็นการลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ส่งผลให้รถมีการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น แต่การโหลดเตี้ยก็มีหลากหลายวิธี ต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป จะมีอะไรบ้าง Sanook Auto จะพาไปดูกัน

4 วิธีโหลดเตี้ยรถยนต์

1.เปลี่ยนสปริง

เป็นวิธีที่นิยมที่สุด เนื่องจากทำได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก โดยการเปลี่ยนสปริงเดิมออก แล้วใส่สปริงโหลดที่สั้นกว่าเดิม ทำให้ตัวถังลดระดับลงไป

ข้อดี - เปลี่ยนง่าย ราคาไม่แพง
ข้อเสีย - อาจส่งผลต่อความนุ่มนวลในการขับขี่ และอายุการใช้งานของโช้กอัปอาจสั้นลง

2.เปลี่ยนโช้กอัป

ควรเปลี่ยนคู่กับสปริง เพื่อให้ช่วงล่างทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โช้กอัปที่นิยมใช้คือ โช้กอัปแบบปรับเกลียว ซึ่งสามารถปรับความสูงต่ำได้ตามต้องการ

ข้อดี - ปรับแต่งได้หลากหลาย สามารถปรับความสูงให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ข้อเสีย - ราคาค่อนข้างสูง

3.ตัดสปริง

วิธีนี้ไม่แนะนำ เนื่องจากจะทำให้สปริงอ่อนตัวลง และส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ทำให้รถไม่เสถียร และอาจเกิดอันตรายได้

ข้อเสีย - ไม่ปลอดภัย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

4.ปรับตั้งช่วงล่าง

วิธีนี้ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยจะทำการปรับตั้งค่าต่างๆ ของช่วงล่าง เช่น ค่า camber, caster เพื่อให้รถมีความสูงที่ต้องการและการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ

ข้อดี - ปรับแต่งได้ละเอียด
ข้อเสีย - ต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ

ข้อเสียของการโหลดเตี้ย

การลดระดับความสูงของรถจะส่งผลให้การขับขี่ไม่นุ่มนวลเท่าเดิม เนื่องจากช่วงล่างที่แข็งกระด้างขึ้น และอาจทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างสึกหรอเร็วขึ้นได้ อีกทั้งการโหลดเตี้ยที่มากเกินไปอาจทำให้รถขูดขีดกับสิ่งกีดขวางบนถนนได้ง่าย สร้างความเสียหายแก่ตัวรถได้ จึงควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ประกอบด้วย

ทั้งนี้ การโหลดเตี้ยอาจทำให้รถดูดีขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ลดลง ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบก่อนตัดสินใจด้วยนะครับ

คุณกำลังดู: 4 วิธีโหลดเตี้ยรถยนต์ มีอะไรบ้าง?

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์