5 วิธีแก้อาการ “เสียวฟัน” อย่างได้ผล
กินร้อนกินเย็นทีไรเสียวฟันทุกที เรามีวิธีแก้มาฝาก
ว่ากันว่า “ฟัน” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่เป็นตัวกำหนดว่าเราจะเจริญอาหารได้มากน้อยแค่ไหน เห็นจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะหากเรามีอาการผิดปกติที่ฟัน หรือไม่มีฟันที่แข็งแรงพอที่จะบดเคี้ยวอาหารได้ดีดังเดิม เราคงหมดความอยากอาหารไปเยอะเช่นกัน ยิ่งอาการเล็กๆ น้อยๆ แต่สร้างความลำบาก และรำคาญให้กับชีวิตอย่างอาการ “เสียวฟัน” ยิ่งทำให้เราที่อยากทานอาหารอร่อยๆ ต้องหมดอารมณ์ที่จะทานไปก็หลายครั้ง ดังนั้น Sanook! Health เรามีวิธีแก้อาการเสียวฟันอย่างถูกวิธีมาฝากกัน
5 วิธีแก้อาการ “เสียวฟัน” อย่างได้ผล
- แปรงฟันให้ถูกวิธี โดยแปรงจากโคนฟันไปทางปลายฟัน
และแปรงทั้งด้านนอก และด้านในของฟัน แปรงฟันซี่ละ 4-5 ครั้ง
และอย่าลืมสอดแปรงเข้าไปถึงฟันซี่ในสุดด้วย
นอกจากนี้ควรใช้แปรงสีฟันขนอ่อน เพื่อลดอาการเหงือกร่น
ซึ่งอาจเพิ่มอาการเสียวฟันให้มากขึ้นได้
>> เช็กด่วน! คุณอาจกำลังแปรงฟันผิดวิธีมาตลอดชีวิต
- ควรเลือกทานอาหารที่มีรสชาติพอเหมาะ ไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดจนเกินไป
รวมถึงอาหารที่ไม่แข็ง หรือเหนียวจนเกินไป
เพราะอาจทำให้ฟันที่อาจจะไม่ค่อยแข็งแรงมากอยู่แล้ว
เกิดการเสียหายมากขึ้น
ทั้งจากอาหารรสเปรี้ยวที่เป็นกรดทำลายผิวเคลือบฟัน
ที่อาจทำให้ฟันกร่อน หรือฟันผุได้ในเวลาต่อมา และการโยกคลอนของโคนฟัน
และเหงือกจากการเคี้ยวอาหารที่เหนียวหรือแข็งเกินไป
- การใช้ยาสีฟันที่มีสารที่ลดการเสียวฟัน เช่น strontium chloride
และ potassium nitrate ที่ทำหน้าที่อุดช่องเชื่อมต่อเล็กๆ
ที่มีอยู่ระห่วางผิวฟันกับเส้นประสาทฟัน
ทำให้เส้นประสาทมีความไวต่อการถูกกระตุ้นน้อยลง
อย่างไรก็ตามสารเหล่านี้สามารถลดอาการเสียวฟันที่เกิดจากฟันสึกถึงเนื้อฟัน
และฟันที่เหงือกร่นจนถึงเคลือบรากฟันได้เท่านั้น
ไม่สามารถแก้ไขอาการเสียวฟันที่เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น โรคเหงือก
หรือฟันผุได้
ซึ่งส่วนใหญ่อาการเสียวฟันมักมาจากเหตุผลทั้งสองอย่างหลังนี้
- การใช้เลเซอร์เพื่ออุดปิดท่อเนื้อฟัน
หากอาการเสียวฟันมาจากอาการฟันสึก กร่อน โดยจะใช้เลเซอร์เพื่อกรอฟัน
และอุดฟันด้วยเครื่องเลเซอร์ทางทันตกรรมหรือเออร์เบี่ยมแยคเลเซอร์
(Er-Yag Laser) ที่ทำให้เกิดเลือดออกน้อย และไม่รู้สึกร้อน
หรือสะเทือนขณะกรอฟัน
- เคลือบฟันด้วยซีลแลนท์ (Sealant) เป็นการเคลือบฟันเพื่อป้องกันฟันผุและลดอาการเสียวฟัน ส่วนมากมักจะทำบริเวณฟันด้านบดเคี้ยวของฟันกราม สารซีลแลนท์มีลักษณะเป็นของเหลว และมีส่วนผสมของสารคลอเฮกซิดีน และสารอื่นๆ ที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน และยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อในช่องปาก ป้องกันคราบอาหารเกาะติดฟัน แต่ต้องเป็นฟันที่ไม่มีอาการผุ ถ้าพบว่าฟันผุจะต้องกรอและอุดฟันซี่นั้นเสียก่อน แล้วจึงทำการเคลือบฟันได้ แต่หากเคลือบฟันแล้ว ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกเดือน หรือทุกๆ สามเดือน เพราะมีโอกาสที่สารเคลือบฟันกร่อน หรือหลุดระหว่างใช้งานได้
อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการเสียวฟันที่ดีที่สุด คือการพบทันตแพทย์โดยตรง เพราะอาการเสียวฟันของแต่ละคนอาจมีความรุนแรงไม่เท่ากัน และมีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟันไม่เหมือนกัน ดังนั้นให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดจะดีกว่า
คุณกำลังดู: 5 วิธีแก้อาการ “เสียวฟัน” อย่างได้ผล
หมวดหมู่: สุขภาพ