7 ประเด็นสำคัญหลังเกม พรีเมียร์ลีก เชลซี 4-4 แมนฯ ซิตี้ : ยิงไม่ยั้ง แต่แฝงไปด้วย "ข้อผิดพลาด" - FEATURE
7 ประเด็นสำคัญหลังเกม พรีเมียร์ลีก เชลซี พบ แมนซิตี : ยิงไม่ยั้ง แต่แฝงไปด้วย "ข้อผิดพลาด" - FEATURE
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
อาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566
เชลซี 4-4 แมนเชสเตอร์
ซิตี้
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี
เปลี่ยนแค่ 1
ในไลน์อัพที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ประกาศมาก่อนเกม สร้างความฮือฮาได้เล็กๆ กับการที่ดาวรุ่งผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์แมนแดนหลังอย่าง ลีวาย โคลวิลล์ หายไปจากทีม เชลซี โดยไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและตัวสำรอง โดยเป็น มาร์ก กูกูเรย่า ที่นานๆ จะถูกใช้ในตำแหน่งแบ็กซ้ายงานถนัด เสียบแทน
จาก 14 เกมของซีซั่นนี้ที่ เชลซี ลงสนามในทุกรายการ โคลวิลล์ ลงเล่นครบทุกนัด นี่จึงเป็นเกมแรกที่กองหลังสารพัดประโยชน์วัย 20 หายจากทีม
สำหรับสาเหตุ มีการเปิดเผยว่าเป็นเพราะ โคลวิลล์ ยังบาดเจ็บไหล่ติดพันมาจากเกมที่แล้ว (4-1 สเปอร์ส) ซึ่งเขาต้องถูกเปลี่ยนออกเมื่อสิ้นครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า โคลวิลล์ ไม่ได้บาดเจ็บหนัก และพอดีกับเข้าช่วงพักเบรคทีมชาติ 2 สัปดาห์ด้วย ดังนั้นเกมหน้าก็คงจะพร้อมคืนสนามตามปกติ
แมนฯ ซิตี้
เปลี่ยนเยอะ
ส่วนทาง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนทีมเยอะจากนัดล่าสุดที่เปิดบ้านอัด ยัง บอยส์ 3-0 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยถือว่าเกมกับ เชลซี นัดนี้ เป๊ป ใช้ชุด "แข็งกว่า" ลงสนามด้วย
แจ๊ค กรีลิช, มาเตอุส นูเนส, ริโก้ ลูอิส, มาเตโอ โควาซิช หลบฉากออกไป โดยมี ฮูเลียน อัลวาเรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้ และ เชเรมี่ โดกู คืนสู่ 11 คนแรก
นอกนั้น จอห์น สโตนส์ เจ็บไม่พร้อมเล่น และถูกแทนที่โดย มานูเอล อคานจี
6 นัด เรือฟาดเรียบ
เพราะในช่วงเวลาที่ แมนฯ ซิตี้
กำลังแข็งโป๊กแตะจุดพีคในการทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทางฝั่ง เชลซี
ก็เกิดความสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในแง่ของผู้จัดการทีมและฟอร์มการเล่น
นั่นจึงทำให้ แมนฯ ซิตี้, ที่เคยแพ้ เชลซี อย่างเจ็บปวด 0-1 นัดชิง ชปล. 2021, ผูกปีเอาชนะ เชลซี แบบ "เกมศูนย์" มาถึง 6 นัดติดต่อกันแล้ว
2021/22 : เชลซี 0-1 แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ซิตี้ 1-0 เชลซี
2022/23 : แมนฯ ซิตี้ 2-0 เชลซี (บาวคัพ), เชลซี 0-1 แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ซิตี้ 4-0 เชลซี (เอฟเอ), แมนฯ ซิตี้ 1-0 เชลซี
ส่วนถ้านับเฉพาะ พรีเมียร์ลีก แล้ว
แมนฯ ซิตี้ ก็เฉือน เชลซี ด้วยสกอร์ออกเบียด 1-0 มาถึง 4
เกมติดต่อกัน
อั้นมานาน ขอวันนี้
แต่หลังจากยิงไม่ได้มาเป็นปีๆ
มาถึงเกมนี้ เชลซี ก็สามารถเจาะประตู แมนฯ ซิตี้ ได้ถึง 4 ลูก จาก
ติอาโก้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, นิโคลัส แจ๊คสัน และ โคล
พาล์มเมอร์
ชัดเจนว่านี่คือช่วงเวลาที่ เชลซี กำลังเข้าฝักในเรื่องเกมรุก ถัดจากนั้นก่อนที่ก็มีแฮตทริกของ นิโคลัส แจ๊คสัน ช่วยให้ปราบ สเปอร์ส 4 ประตูมาแล้วเช่นกัน
แม้เอาเข้าจริง การเล่นภาพรวมของหอกเป้าอย่าง แจ๊คสัน ยังดูกระโดกกระเดกและ "ขาดคุณภาพ" ระดับ พรีเมียร์ลีก ไปพอสมควร แต่ 2 เกมหลัง อะไรๆ เป็นใจให้เขากดแล้ว 4 ลูก และสะสมยอดยิงรวมเป็น 7 ประตูในซีซั่นนี้ (6 พรีเมียร์ลีก 1 คาราบาว คัพ)
ทำไปทำมา มีแล้ว 7 ประตูจาก 14 นัด
อ่อ และเกมนี้ที่ฮึดตีเสมอ 4-4 ได้ ก็เป็นเครดิตของหอกเป้าอีกคนอย่าง อาร์มันโด้ โบรย่า ด้วย ที่ลงไปไม่ทันไรก็เรียกจุดโทษได้ทันที
ไม่ใช่เกมเปี่ยมคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การยิงกันสนั่น
สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมนี้ คงพูดได้ว่าเกิดจาก "เกมรับที่หละหลวม"
ของทั้งสองฝั่ง ที่ทำให้เกมนี้ไม่ได้ถือว่ามีคุณภาพสูง
หรือจัดเป็นเกมที่คู่ควรแก่การศึกษา สำหรับเวทีระดับโลกอย่าง
พรีเมียร์ลีก
ต่างฝ่ายต่างผลัดกันทำพลาด จนเกิดเป็น 8 ประตู
0-1 มาร์ก กูกูเรย่า ทำพลาด คว้า เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ จนเสียจุดโทษ
1-1 แนวรับ แมนฯ ซิตี้ พลาดทั้งแผง ที่ปล่อย ติอาโก้ ซิลวา โฉบขึ้นโขกเตะมุมโล่งๆ
2-1 ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำพลาดที่จัดการกับลูกไม่เด็ดขาด เสียท่าให้ รีซ เจมส์ เอาไปเปิดป้อนถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
2-2 หลังบ้าน เชลซี พลาดทั้งแผงบ้าง ปล่อย มานูเอล อคานจี สอดเข้าโหม่งสบายๆ
2-3 รีซ เจมส์ & อักเซล ดิซาซี่ พลาดที่ประกบ ฮาแลนด์ ไม่มิด
3-3 รูเบน ดิอาส พลาดที่ล้มตัวสกัดผิดจังหวะ เปิดพื้นที่ให้ แจ๊คสัน ปิดบัญชี
3-4 ติอาโก้ ซิลวา พลาดที่แหย่เท้าสกัดลูกยิง โรดรี้ ผิดเหลี่ยมเข้าเสาขวา
4-4 รูเบน ดิอาส พลาด (หน 2) พุ่งเสียบ อาร์มันโด้ โบรย่า จนเสียจุดโทษ
1
แต้มเข้ากระเป๋า
สำหรับ เชลซี นี่คือการได้ 1 แต้มเข้ากระเป๋า จากจุดที่ใครๆ ก็ต่างมองว่าคงไม่น่ารอด เมื่อโดน โรดรี้ ยิงลูก 4-3 ในนาทีอันตรายแล้วอย่าง น.86
ต้องชมความเยือกเย็นของ โคล พาล์มเมอร์ มือสังหารเบอร์ 1 ซีซั่นนี้ ที่ทั้งเป็นการเจอทีมเก่า ทั้งเป็นวินาทีสุดหวาดเสียว 90+5 ก็ยังยิงได้ไม่พลาดเป้า
1 แต้มช่วยให้ เชลซี ผ่าน
"โปรแกรมโหด" กับ 3 ทีมหัวแถวได้อย่างน่าพอใจทีเดียว -- เสมอ
อาร์เซน่อล 2-2, ชนะ สเปอร์ส 4-1, เสมอ แมนฯ ซิตี้
4-4
แต่ก็อีกนั่นแหละ การที่ 12 เกมแรกผ่านไปแบบ 4-4-4 ชนะเสมอแพ้เท่ากันหมด ก็ทำให้อันดับของ เชลซี อยู่กลางตารางไปตามเดิม และยังต้องเร่งเครื่องโกยแต้มอีกเยอะเลยกว่าจะไปถึงที่ชอบๆ อย่างโซนบนของตาราง
สองแต้มที่หล่นหาย
ตรงกันข้ามกับ 1 แต้มที่ เชลซี ได้ ก็ควรถือว่า แมนฯ ซิตี้ ทำ 2 แต้มหลุดมือกันไปเอง
คงมีไม่บ่อยครั้งนักที่ทีมเขี้ยวลากดินอย่าง แมนฯ ซิตี้ จะทำพลาดแบบนี้
แต่นี่คือเกมที่ รูเบน ดิอาส เตะหลุดแบบเป็นคนละคนกับ รูเบน ดิอาส ที่เคยรู้จัก ทั้งลูก 3-3 ที่ไม่รู้ว่าจะรีบทิ้งตัวสไลด์ทำไมเมื่อก็ยังมีเพื่อนขวางทางยิงของ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ไว้อยู่ และลูก 4-4 ที่ "รับเต็ม" กับการเข้าฟาวล์ อาร์มันโด้ โบรย่า
ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ เสีย 4 ประตู ต้องย้อนไปไกลถึงต้นปี 2018 ที่ออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 3-4 ที่แอนฟิลด์
มาคราวนี้ ทั้งเสีย 4 ลูก ทั้งเสีย 2 แต้ม
ไม่อยากนึกสภาพ นักเตะเรือใบจะโดน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกงิ้วบอมบ์ใส่ขนาดไหนที่ใต้ถุน สแตมฟอร์ด บริดจ์
คุณกำลังดู: 7 ประเด็นสำคัญหลังเกม พรีเมียร์ลีก เชลซี 4-4 แมนฯ ซิตี้ : ยิงไม่ยั้ง แต่แฝงไปด้วย "ข้อผิดพลาด" - FEATURE
หมวดหมู่: กีฬาอื่นๆ