7 เรื่อง " MUJI" ONE BANGKOK ต่างจาก MUJI สาขาอื่นยังไง ทำไมต้องไปสักครั้งในชีวิต

แกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่กันไปแล้วสำหรับ "MUJI ONE BANGKOK" หรือ "มูจิ วัน แบงค็อก"

แกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่กันไปแล้วสำหรับ "MUJI ONE BANGKOK" หรือ "มูจิ วัน แบงค็อก" ซึ่งต้องบอกเลยว่าครั้งนี้มูจิยกระดับร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ภายใต้แบรนด์มูจิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะมีพื้นที่กว้างขวางกว่า 3 พันตารางเมตร และมีสินค้าที่ตอบสนองการใช้ชีวิตครบหมวดหมู่รวมแล้วกว่า 5,000 รายการ

สำหรับใครที่เป็นสาวกหรือแฟนตัวยงของ MUJI อาจจะสนใจว่า  MUJI ONE BANGKOK มีความแตกต่างจาก MUJI สาขาอื่นอย่างไร และทำไมต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้วว่า MUJI สาขานี้แตกต่างจากสาขาอื่นๆ อย่างไรบ้าง

7 เรื่องแตกต่างของ "MUJI ONE BANGKOK"

1.“Open MUJI” สเปซที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ คอลเลคชั่นพิเศษ และยังใช้จัดแสดงนิทรรศการ เวิร์กช้อป และกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้เพื่อให้มีการสะท้อนแนวคิดของแบรนด์เชื่อมโยงกับลูกค้า และชุมชน

2.โซน Grab & Go พื้นที่สะดวกซื้อ ซึ่งเปิดบริการตั้งแต่ 7.00 น. นำเสนอสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ เบเกอรี่ ทั้งแบบกึ่งสำเร็จรูป และแบบทำสดใหม่พร้อมรับประทาน

3.โซน Green& Outdoor Goods สินค้าต้นไม้หลากหลายประเภท ของประดับตกแต่งสวน และเฟอร์นิเจอร์แบบกลางแจ้ง

4.โซน PET Products เอาใจคนรักสัตว์ด้วยสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเช่น ชามอาหาร และเบาะสัตว์เลี้ยง

5.โซน Services ต่างๆ ที่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ “มูจิ วัน แบงค็อก” ที่เดียว เช่นบริการปักผ้า และสกรีนที่สามารถนำสินค้าของมูจิ มาปักหรือสกรีนตัวอักษร และลวดลายการ์ตูนที่มีให้เลือกกว่า 200 ลาย รวมถึงลายพิเศษที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสาขานี้

6.โซน Community Market ตลาดนัดมูจิ เพื่อให้ร้านค้าท้องถิ่นสามารถเข้ามาจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นหลากหลาย โดยจะมีการจัดกิจกรรมตั้งแต่วันเปิดคอนเซ็ปต์สโตร์จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. นี้ Refill Station ที่ MUJI วางจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์    Normal Refill ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบรีฟิล ที่ผลิตขึ้นจากส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างผลมะคำดีควาย เก็บเกี่ยวด้วยคนในท้องถิ่น สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน

7.ReMUJI การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ด้วยการนำเสื้อผ้าใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานในคอลเลคชั่นเก่าของมูจิ มาผ่านกระบวนการย้อมครามเพื่อนำกลับมาขายใหม่ Local Products ที่มีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสาขานี้ นำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งมูจิ ประเทศไทยที่ร่วมพัฒนาสินค้ากับผู้ประกอบการแบรนด์เซรามิกท้องถิ่นจากจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่ InClay Studio และ Charm-learn Studio โดยเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ทางแบรนด์สร้างสรรค์และคิดมาอย่างพิถีพิถันจะช่วยส่งเสริมให้ MUJI ONE BANGKOK เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

คุณกำลังดู: 7 เรื่อง " MUJI" ONE BANGKOK ต่างจาก MUJI สาขาอื่นยังไง ทำไมต้องไปสักครั้งในชีวิต

หมวดหมู่: อาหาร - ร้านอาหาร