บาเยิร์น มิวนิค 1-0 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม "ปืนใหญ่" สิ้นสุดทางฝันตกรอบ UCL
อาร์เซนอล สิ้นสุดเส้นทางยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2023/24
ไว้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย พร้อมกับการได้ไปต่อของ บาเยิร์น มิวนิค
ที่กลับมาสู่มาตรฐานการเล่นที่เหนียวแน่น
และเร่งจังหวะเพื่อหาประตูชัยได้ตามต้องการในเกมนี้
ก่อนเข้ารอบด้วยผลสกอร์รวมสองเกม 3-2 เข้าไปพบกับ เรอัล มาดริด
ในรอบรองชนะเลิศ
45
นาทีแรกแห่งความระมัดระวังตัว
การเจอกับระหว่างทั้งสองทีมในปีนี้
ถูกมองว่าสูสีกันตั้งแต่ผลประกบคู่ออกมาแล้ว ผลลัพธ์เกมแรกที่เสมอกัน
แทงกันได้คนละสองแผล
ทำให้เกมนี้ต่างกังวลที่จะเสียประตูด้วยกันทั้งสองฝ่าย บาเยิร์น
ไม่ค่อยเป็นตัวเองเท่าไรนัก กับการต้องมาเล่นเกมรอสวนกลับ ส่วน
อาร์เซนอล ได้เล่นแบบที่ชอบ เซตบอลจากแนวรับออกบอลกันเยอะมาก
แต่ก็เจาะไม่ได้ เพราะ บาเยิร์น ก็แน่นหนามีวินัย
และรอโอกาสสวนกลับที่พวกเขาก็ทำได้เด่นมาก เมื่อมีคนออกบอลอย่าง จามาล
มูเซียลา มีริมเส้นเร็วจัดอย่าง เลอรอย ซาเน และมีกองหน้าตัวเป้าอย่าง
แฮร์รี เคน พวกเขาอันตรายอยู่แล้ว ดังนั้น
พอกระแสเกมมีจังหวะให้พวกเขาได้บุกบ้าง
พวกเขาก็สร้างปัญหาให้ทีมเยือนได้กังวลกัน
แต่ด้วยเกมที่เกมรับเจ้าบ้านก็ไม่ได้ว่าแน่นหนา
ส่วนทีมเยือนก็มีบทเรียนเลกแรกบุกหนักแล้วหลังดันแน่นไม่สุด พลาดก็พัง
ดังนั้น เกมเลยออกมาเป็นลักษณะของการไม่ได้ก็ต้องห้ามเสียในช่วง 45
นาทีแรก โอกาสไม่เปิดก็ไม่พร้อมแลก
สถิติครึ่งแรกเลยออกมาแบบสูสีกันมากทั้งการครองบอล, การผ่านบอล
หรือกระทั่งการสร้างโอกาส
45
นาทีหลังที่ดุดันและเก๋าเกมของ "เสือใต้"
บาเยิร์น มิวนิค
ครึ่งหลังเริ่มต้นด้วยการลุ้นโอกาสถึงสองครั้งที่น่าจะได้ประตู
แน่นอนไม่ได้ประตูแต่ในแง่ของกำลังใจพวกเขามาเต็มเปี่ยมว่าพวกเขาเปิดแผลทีมเยือนได้แน่
เกมครึ่งหลังของบาเยิร์น ช่วงมองหาประตูขึ้นนำ
เราได้เห็นการเคลื่อนที่มีส่วนร่วมในแดนกลางของ บาเยิร์น มากขึ้น
เลออน โกเรตซ์กา หรือ โยชัว คิมมิช ขับเคลื่อนได้ดีในการเติมเกมรุก
โดยเฉพาะ คิมมิช ที่เติมจากแบ็กขยับขึ้นมาเล่นกลาง
แล้วทีมได้ทะลวงขึ้นมา จนสุดท้ายกลายเป็นคนทำประตูสำคัญในเกมนี้
จากจังหวะวิ่งสอดเข้ามาโหม่งเต็มแรงในเขตโทษที่สมบูรณ์แบบ
อาร์เซนอล หลังการเสียประตู พวกเขาพยายามเร่งเกม
เปลี่ยนตัวสำรองลงมาสู้ สวนทางกับ บาเยิร์น มิวนิค
ที่ปรับการเล่นให้แน่นอนขึ้น ออกบอลแบบเน้นความแน่นอนให้ อาร์เซนอล
ต้องไล่ล่าบอล ที่เป็นการทำลายพละกำลังอย่างยิ่ง ยิ่งเวลาลดลง
อาร์เซนอล ยิ่งเร่ง ยิ่งเหนื่อย และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ
ปืนใหญ่ไม่มีตัวจบสกอร์ที่เฉียบคมมากพอในพื้นที่สุดท้ายด้วย
คอนราด ไลเมอร์
กองกลางออสเตรีย เป็นกองกลางสไตล์สารพัดประโยชน์ที่การเจอกับ
อาร์เซนอล ทั้งสองเกม ทำหน้าที่ในการประกบการเคลื่อนที่ของ มาร์ติน
เออเดการ์ด กองกลางตัวรุกปืนใหญ่
ซึ่งการทำงานของเขาก็ยอดเยี่ยมมากที่ทำให้ตัวประกบไม่สามารถเล่นในเกมที่ต้องการมากนักมีผลต่อเกมรุกทีมเยือนโดยตรง
กับการทำงานหนักตลอดเกมของเจ้าตัว
ปัญหาการสร้างโอกาสของทีมเยือน
อาร์เซนอล จบเกมนี้ด้วยการยิงเข้ากรอบไป 3 ครั้ง
น้อยที่สุดในรอบหลายเกมของพวกเขา
นั่นหมายถึงการสร้างโอกาสที่ต่ำกว่ามาตรฐานในเกมรุก
และความยอดเยี่ยมของเกมรับทีมเจ้าบ้าน อาร์เซนอล
จำเป็นต้องมองถึงใครสักคนที่เป็นตัวหลักในการผลิตสกอร์ให้ทีม
นอกเหนือไปจากการวางภาระนี้ให้กับผู้เล่นหลายคนในทีมแบ่งกันทำงานนี้
โดยเฉพาะในวันที่ต้องการใครสักคน
พวกเขาคิดถึงใครได้บ้างเมื่อต้องการประตู กาเบรียล เซชุส และ เอ็ดดี
เอนเคเทียห์ ยิงประตูครั้งสุดท้ายได้เมื่อไร? คนแรกปลายเดือนมกราคม
อีกคนไปโน่นเลย ตุลาคม 2023
นี่คือหน้าเป้าธรรมชาติของทีมลุ้นแชมป์?
การเล่น False 9 ของ ไค ฮาแวร์ตซ์
เป็นสิ่งที่เติมเต็มเข้ามาในฤดูกาลนี้ และมันได้ผลดีก็จริง
แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะโดดเด่นในการทำประตู และอย่างไรเสีย
เขาก็ไม่ใช่ตัวผลิตสกอร์ที่ใครจะมาหวังว่าเขาจะทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำในแต่ละฤดูกาล
แต่มองว่าเป็นทางเลือกในแต่ละเกมที่เพิ่มโอกาสในการช่วยทีมให้เป็นผู้ชนะได้มากกว่า
คุณกำลังดู: บาเยิร์น มิวนิค 1-0 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม "ปืนใหญ่" สิ้นสุดทางฝันตกรอบ UCL
หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ