บิ๊กเอ็ม เปิดใจครั้งแรก หลังฝ่ามรสุม เครียดหนักไอเป็นเลือด ถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่

บิ๊กเอ็ม เปิดใจครั้งแรก หลังฝ่ามรสุม เครียดหนักไอเป็นเลือด ถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่

พระเอกหนุ่มมาดเข้ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ เปิดใจครั้งแรกหลังฝ่ามรสุมดราม่า โดนช่องปลดแบบฟ้าผ่า เครียดจัดถึงขั้นไอเป็นเลือด ไม่อยากมีชีวิตอยู่ พร้อมเล่าชีวิตหลังผ่านมรสุมมาเป็นนักแสดงอิสระ ย้อนชีวิตสุดลำบากในวัยเด็ก ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ พีเค ปิยะวัฒน์ ดำเนินรายการ

เป็นนักแสดงอิสระ?

บิ๊กเอ็ม : หวิวๆ เหมือนกัน เมื่อก่อนเราอยู่ในบ้าน ตอนนี้เราต้องออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน แต่รู้สึกถึงอิสรภาพในการทำสิ่งต่างๆ ได้ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ ที่เรายังไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมงาน

การรับงานปัจจุบัน?

บิ๊กเอ็ม : คุณแม่เป็นผู้จัดการ เขาช่วยดู

มรสุมชีวิต รู้สึกอยู่แล้วว่าต้องโดนยกเลิกสัญญา?

บิ๊กเอ็ม : เตรียมใจมาสักพักนึงแล้ว เพราะข่าวมันรุนแรงมาก ผมอยู่กับช่องมานาน รู้ว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่นอน เตรียมใจว่ามันจะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง สุดท้ายทางช่องโทรมาวันที่ 6 มกราคม ช่วงเช้า คิดว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอน หัวใจเต้นแรง ผมขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ขอให้เป็นข่าวดีแล้วกัน แต่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ผู้ใหญ่อธิบายให้ฟังตั้งแต่เกิดเรื่อง มันจำเป็นที่ต้องขอยุติสัญญาจริงๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับช่อง ผมพูดไม่ออก พูดได้แค่ครับ

หลังจากโทรหา นานไหมกว่าช่องจะยกเลิกสัญญา?

บิ๊กเอ็ม : โทรหาตอนเช้า ตอนบ่ายก็ประกาศครับ เราเคว้งมาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต พอเรามาเป็นอิสระแล้ว ไม่รู้ว่ายังทำงานในวงการบันเทิงได้อีกหรือเปล่า มันกลัวไปหมดเลย

เครียดจนอ้วกเป็นเลือด?

บิ๊กเอ็ม : เป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนวันสิ้นปีครับ

เรารู้ว่าเปิดปีใหม่ต้องโดน?

บิ๊กเอ็ม : มันเป็นช่วงที่ข่าวกำลังร้อนมากๆ ผมก็เครียด มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญก่อนที่ผมจะออกไปพูดกับพี่ณวัฒน์ คืนนั้นผมรู้สึกแย่มาก กินข้าวไม่ได้ กินได้ทีละคำ นอนทั้งวัน ร่างกายก็ผอม คืนนั้นอ้วกออกมามีสีแดงปน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปทำบุญ เดินไม่ไหว ขับรถไม่ไหว นั่งเหมือนไม่มีวิญญาณ

ข้ามปีใหม่กอดกับคุณแม่ร้องไห้?

บิ๊กเอ็ม : วันสิ้นปีมันควรเป็นวันของการเฉลิมฉลอง มีความสุข แต่ครอบครัวผมไม่ใช่ ผมนั่งสวดมนต์ข้ามปีกับคุณแม่ที่ห้องพระ สวดจนข้ามปี ผมให้แม่อวยพรให้ เพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องไปแถลงข่าวกับพี่ณวัฒน์ ผมกอดแม่แล้วร้องไห้

คิดไม่อยากอยู่แล้ว?

บิ๊กเอ็ม : ไม่ถึงขั้นนั้น ผมเป็นคนต่อสู้ชีวิตมาก่อน ผมรักและหวงแหนตัวเองมาก กว่าที่เราจะมาถึงตรงนี้ได้ ยืนจุดนี้ได้มันผ่านอะไรมาเยอะ แต่มีความรู้สึกแวบนึง ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ตื่นล่ะ เรื่องราวพวกนี้จะยังอยู่ไหมหรือจบลง มันก็คิดแค่นี้

กำลังใจจากใครดีที่สุด?

บิ๊กเอ็ม : คนแรกเลยคือคุณแม่ บางอย่างที่ข่าวเกิดขึ้น บางทีผมไม่ได้มีที่ปรึกษา เราปรึกษากันเองแม่ลูก พอมีอะไรผิดพลาดไป เราก็อยู่กัน 2 คน มีคืนที่ผมบอกแม่ว่าไม่ไหว วันรุ่งขึ้นผมต้องไปคุยกับพี่ณวัฒน์ แม่โทรคุยกับพี่ที่สนิทกันว่า ผมจะไม่ไหวไหมไม่รู้ แต่มันต้องสู้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะจบแค่นี้ก็เป็นเวรกรรมของเรา แต่ถ้าเราได้ไปต่อก็ถือว่าเราคิดถูก แม่ให้กำลังใจ ลุกขึ้นมาสู้ มันเรื่องแค่นี้ เราไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่รักและสนับสนุน แฟนคลับก็อยู่เคียงข้างผมตลอด รักและขอบคุณมากๆ

แม่อยากบอกอะไรลูก?

แม่บิ๊กเอ็ม : สู้ๆ ค่ะ (ร้องไห้) แม่เป็นกำลังใจให้ มันลืมยาก เป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน คิดว่าลูกทำได้

ได้บทเรียนอะไรบ้าง?

บิ๊กเอ็ม : ถ้าใครรู้จักผม ผมไม่เคยมีข่าวเสียหาย พอเรามาเจอหลายคนโจมตีเรา มันหนักจริงๆ ช่วงที่เกิดเหตุการณ์ผมเป็นคนที่ขี้เกรงใจ เข้าถึงกับทุกคน เชื่อคนง่าย เขาให้ทำอะไรก็ทำ ผมมานั่งคิดทบทวน ต่อไปนี้เราต้องสแกนคน คิดแล้วค่อยตัดสินใจ ข้อดีข้อเสีย มีสติมากขึ้น เลือกคบคน

ตอนเด็กเคยผ่านช่วงยากลำบากกว่านี้มาแล้ว?

บิ๊กเอ็ม : เป็นช่วงวัยรุ่น ที่บ้านฐานะร่ำรวย มีธุรกิจหลายอย่าง ช่วงต้มยำกุ้งล้มละลาย อยู่สูงสุดแล้วตกลงมา ต้องขายรถขายบ้านหมดเลย มาอยู่ห้องเล็กๆ คนที่เข้มแข็งที่สุดในบ้านคือแม่

พ่อแม่แยกทางกัน?

บิ๊กเอ็ม : เป็นเหตุผลทางธุรกิจเลยต้องตัดสินใจหย่ากัน เพราะคนใดคนนึงล้มต้องเหลืออีกคนนึงไว้ แต่ยังอยู่ด้วยกันสักพัก

เหลือเงิน 8 บาท?

แม่บิ๊กเอ็ม : มีข้าวสาร ซื้อปลากระป๋องแล้วก็ไข่ ทำเมนูปลากระป๋องผัดไข่

ช่วยแม่หาเงินเพิ่มเติม?

บิ๊กเอ็ม : ผมหาเงินเก่งตั้งแต่เด็ก ผมชอบวาดรูป พออาจารย์รู้ เขาก็จ้างเราช่วยทำผลงาน จะได้ตังค์มาใช้เยอะมาก ทุกปิดเทอมจะมีโปรเจกต์ตั้งแต่เด็ก เอาเสื้อผ้ามาขาย ทำข้าวโพดคลุกเนยขายบ้าง

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว?

บิ๊กเอ็ม : ก่อนหน้านี้คือกลัวมากๆ พอเราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่หลายๆ ช่อง รู้สึกว่ามันก็ดีนะ ดีใจมากๆ ที่ผู้ใหญ่ยังให้โอกาสเรา

สถานะหัวใจตอนนี้?

บิ๊กเอ็ม : เกรงใจแฟนคลับ ก็มีคนคุยครับ ผมก็ค่อนข้างคาดหวัง เพราะ 34 แล้ว มีคนมาคอยอยู่กับเรามันก็น่าจะดี ผมก็เหงามานาน แต่ตอนนี้เอางานไว้ก่อน เป็นคนนอกวงการครับ เพิ่งคุยกันได้ไม่นาน.

คุณกำลังดู: บิ๊กเอ็ม เปิดใจครั้งแรก หลังฝ่ามรสุม เครียดหนักไอเป็นเลือด ถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด