บิ๊กเอ็ม รับไม่ถูกรางวัลที่ 1-ไม่ได้ตังค์ 6 ล. เข็ดแล้วโดนหลอกเป็นแพะ ฝากลีน่าจังหยุดพาดพิง
บิ๊กเอ็ม เครียดทัวร์ลง ยันไม่ถูกรางวัลที่ 1-ไม่ได้ตังค์ 6 ล. ขอโทษ ปชช. รับผิดที่ไว้ใจคนง่ายไป เข็ดแล้ว โดนหลอกเป็นแพะ ฝากถึงลีน่าจังหยุดพาดพิง สืบเนื่องจากกรณี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้ก่อตั้งเวทีประกว...
บิ๊กเอ็ม เครียดทัวร์ลง ยันไม่ถูกรางวัลที่ 1-ไม่ได้ตังค์ 6 ล. ขอโทษ ปชช. รับผิดที่ไว้ใจคนง่ายไป เข็ดแล้ว โดนหลอกเป็นแพะ ฝากถึงลีน่าจังหยุดพาดพิง
สืบเนื่องจากกรณี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้ก่อตั้งเวทีประกวดนางงามมิสแกรนด์ เปิดประเด็นว่ามีบุคคลหนึ่งชื่อว่า ‘เอก’ ได้รับว่าจ้างจัดฉากถูกรางวัลที่ 1 หลัง อิงฟ้า มิสแกรนด์ไทยแลนด์คนล่าสุดไปมอบดอกไม้แสดงความยินดี แต่ปรากฏว่าไม่ได้ถูกรางวัลจริง เพราะไม่มีเงินเข้าบัญชีหรือได้รับเงินสดเลย
กระทั่งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง และ “ฐิตาภา ธนทรัพย์ปรีชา” หรือซีอีโอวี เจ้าของหงษ์ทอง ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กหงษ์ทอง สำนักงานใหญ่ ยอมรับว่ามีการจ้างรับรางวัลที่ 1 จริง แต่ยังคงยืนยันว่ามีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 โดยได้ร่ำไห้ขอโทษณวัฒน์ และขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งตน
“สำหรับคุณเอกนั้น เป็นคนที่เราเซ็ตมาจริงๆ แต่มีรางวัลลอตเตอรี่ที่ 1 จริง แต่ลูกค้าไม่เปิดเผย แต่พร้อมจะไปขึ้นศาลกับเรา แค่ให้คุณเอกมารีวิว ก็ยอมรับผิด แต่ไม่รู้ว่าเอกนั้น ทางฝ่ายการตลาดเป็นคนจัดหามาให้ ซึ่งตนรู้เห็นด้วย เพราะสิ่งที่เราทำทั้งหมดนั้น ทำกันเป็นทีม เราอยากให้ภาพมิสแกรนด์มันชัดเจน ดูว้าว มิสแกรนด์รับตำแหน่งครั้งแรก ก็จะมีคนไปมอบรางวัลเลย” ซีอีโอวีกล่าว
กระทั่งหลายคนได้เข้ามาคอมเมนต์สอบถาม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ที่เคยโพสต์ว่าถูกรางวัลที่ 1 งวด 1 ตุลาคม 2565 กับเจ้าของร้านเพชรที่ตัวเองไปซื้อแหวนเพชรนั้น ได้โพสต์ยืนยันชัดว่า ไม่ได้รับจ้างไปสมอ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 ก่อนจะปิดการแสดงความเห็นในอินสตาแกรมไปนั้น
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มกราคม ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกับ บิ๊กเอ็ม – กฤตฤทธิ์ บุตรพรหม กรณีพัวพันกรณีลอตเตอรี่ออนไลน์ หงษ์ทอง.COM ผ่านเฟซบุ๊ก ณวัฒน์ อิสรไกรศีล – Mr.nawat Itsaragrisil
ณวัฒน์กล่าวว่า ผมว่าจริงๆ บิ๊กเอ็มอยากพูดความจริงทั้งหมดมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสและอาจจะถูกกดดัน วันนี้มาฟังความจริงจากปากของบิ๊กเอ็ม จะได้ไม่บานปลาย
ด้าน บิ๊กเอ็มเผยว่า ตอนนี้รู้สึกเครียดมากๆ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้องขอเล่าว่ารู้จักกับ โอ๊ต เจ้าของร้านเพชรผ่านทาง รินลดา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจสบู่ด้วยกัน ซึ่งโอ๊ตได้สั่งสบู่ คิดว่าน่าจะมีการคุยกับทางรินว่า หากวันที่มาส่งสบู่ให้พาตนไปด้วย จึงได้เจอกันในวันที่ไปส่งสบู่ ซึ่งทางโอ๊ตก็ไม่ได้มีการสัญญาว่าจะแบ่งเงินให้ แต่เป็นการพูดเล่นๆ ว่า ที่ร้านเพชรมีกิจกรรมแจกโฉนดที่ดิน ลอตเตอรี่
ซึ่งหลังจากนั้น ทางร้านเพชรได้ส่งลอตเตอรี่มาให้ตนประมาณ 5-6 ใบ ซึ่งไม่ถูกรางวัล ต่อมาได้ส่งมาให้อีก 1 ใบหลังจากหวยออก ซึ่งเป็นใบที่ถูกรางวัล แต่ทางนั้นได้บอกว่าอย่าเพิ่งโพสต์ เพราะทางร้านเพชรจะเอาไปทำรูปให้ก่อน แล้วค่อยโพสต์ ก่อนพบภายหลังว่ามีการเปลี่ยนรายละเอียดเรื่องเวลา ที่ขณะนั้นตนกำลังซ้อมคอนเสิร์ตจึงไม่ได้สังเกตและโพสต์ไป
“ทางร้านเพชรให้แคปหน้าจอ ก็งงอยู่ว่าจะเอาไปทำอะไร เขาก็บอกว่าทางร้านเพชรจะทำภาพมาให้แล้วค่อยลง ตอนที่เขาส่งมาผมก็ซ้อมเต้นอยู่ ก็เลยไม่ได้สังเกตว่าเขาเปลี่ยนแปลงเวลา แล้วโพสต์”
“เขาบอกว่าเขาถูกรางวัลที่ 1 24 ล้าน อย่างที่รู้ก็คือเขาส่งมาให้ผม 1 ใบ เขาจะแบ่งให้ 6 ล้าน โพสต์แรกที่ผมโพสต์บอกว่าถูก 24 ล้าน แล้วมีรายละเอียด เขาส่งมาให้ผมโพสต์ อยากให้โพสต์เพื่อให้เป็นกระแสเฉยๆ หลังจากนั้นผมก็ต้องมาชี้แจงว่าถูกคือ 6 ล้านคือที่เขาให้มา”
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีนี้ บิ๊กเอ็มชี้แจงความจริงว่า ตนไม่ได้ถูกรางวัล เงินที่ได้มีก้อนเดียวคือ เงินจากสปอนเซอร์ในการจัดคอนเสิร์ตที่คิงเพาเวอร์ จำนวน 150,000 บาท
รวมถึงเงินรางวัล 6 ล้านก็ไม่ได้รับ ยืนยันว่าอีกฝ่ายนำมาให้ถ่ายรูปเท่านั้น แต่ด้วยไม่เจอบิ๊กเอ็ม แต่เจอคุณแม่ของบิ๊กเอ็มแทน จึงมีการถ่ายรูปกับเงิน 6 ล้าน พอถ่ายเสร็จอีกฝ่ายก็นำเงินกลับไปทั้งหมด
“ผมเริ่มรู้สึกเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่า ลอตเตอรี่ถูกจริงหรือไม่ เพราะมีอะไรที่ผิดปกติ จนรู้สึกว่าตนเองอาจจะถูกหลอก มันเกิดจากการที่ผมไม่รู้เรื่อง ไม่มีประสบการณ์เรื่องทำธุรกิจ และเชื่อใจคนมากเกินไป จนเกิดเหตุการณ์นี้ ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ”
บิ๊กเอ็มกล่าว และชี้แจงกรณีลีน่าจังบอกว่า คุณแม่ของบิ๊กเอ็มโทรหาบ่อยมาก
คุณแม่ของบิ๊กเอ็มเผยว่า คุยกันครั้งเดียว โดยลีน่าจังเป็นฝ่ายโทรมา ถามว่า บิ๊กเอ็ม เป็นไงบ้าง จะฆ่าตัวตายหรือ พร้อมกับพูดเรื่องทนายและคดีความ ซึ่งคุณแม่ได้ปฏิเสธไป แล้วก็วางสาย ขณะนั้นบิ๊กเอ็มก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
สุดท้ายนี้ บิ๊กเอ็มระบุถึงลีน่าจังด้วยว่า อย่าพาดพิงถึงผมเลยนะครับ
- เหตุผลอะไรที่ลบโพสต์
บิ๊กเอ็มกล่าวว่า ต้องชี้แจงว่าผมไม่ได้ลบ แต่กดซ่อนโพสต์ เพราะผมไม่เคยเจอดราม่าแบบนี้ กระแสสังคมที่รุนแรงขนาดนี้ ผมต้องรักษาสุขภาพจิตใจของตัวเอง มันเจ็บใจ ทรมานมาก ทุกรั้งที่อ่านเมนต์เหมือนโดนมีดแทง เลยไม่อยากอ่านเมนต์ดีกว่า
ซึ่งตอนนี้ ตนก็ไม่มีพันธะอะไรกับคนกลุ่มนี้อีก และจะไม่กลับไปคุยอีก ขออภัยชาวไทยทั้งประเทศเลย ตนไม่ทันได้คิด อยากให้ทุกคนให้อภัย เพราะตอนนี้ทุกคนก็ได้รับบาดแผลกันหมด
- หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ ?
บิ๊กเอ็มเผยว่า ธุรกิจกับรินลดาที่ทำสบู่ด้วยกัน ในส่วนธุรกิจก็คงต้องไปคุยกัน
“ส่วนเรื่องคดีความหรือฟ้องร้องเอาผิดอาจจะต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน แต่ตลอด 3-4 วันที่เกิดเรื่อง ผมได้รับผลกระทบหนักมากๆ ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ผมกลายเป็นแพะรับบาป สังคมต่อว่า ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง”
“ตอนนี้ผมอยากขอโทษประชาชน คนรู้จักทุกๆ คน ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมโง่เอง ไม่มีประสบการณ์ เชื่อใจคนง่าย สุดท้ายผมก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกหลอกใช้ ตอนนี้ผมช็อกมาก สมองตื้อ รู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้ทางกลุ่มนั้นนำรูปไปใช้” บิ๊กเอ็มกล่าว
อย่างไรก็ตาม ณวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จากที่ผมดูแชตทั้งหมดแล้ว บางอย่างมีการบังคับ กดดัน แล้วตกกระไดไปเรื่อยๆ ถอยก็ไม่ได้ วันนี้ยังเป็นวันที่ดี ที่ออกมาก่อน ขอบคุณบิ๊กเอ็มที่ยังกล้าหาญ มีคนบอกว่ามีคนลงขันจะมายิงผม ผมก็เสี่ยงมากๆ แต่ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย อยากให้ทุกๆ คนใจเย็นลงกับบิ๊กเอ็ม มีอีกหลายๆ คนที่ยังไม่พร้อมจะพูด ฝากสังคมไว้จากใจ
คุณกำลังดู: บิ๊กเอ็ม รับไม่ถูกรางวัลที่ 1-ไม่ได้ตังค์ 6 ล. เข็ดแล้วโดนหลอกเป็นแพะ ฝากลีน่าจังหยุดพาดพิง
หมวดหมู่: ความบันเทิง