"Black Tie" เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของ “เจฟ ซาเตอร์” แรงบันดาลใจจากดีไซน์เนอร์ระดับโลก

เมื่อแฟชั่นมาพบกับดนตรี กลายเป็น “Black Tie” ซิงเกิลอันดับที่ 8 เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรก ของ “เจฟ ซาเตอร์” ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Valentino - Black Tie Collection

"Black Tie" เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของ “เจฟ ซาเตอร์” แรงบันดาลใจจากดีไซน์เนอร์ระดับโลก

เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินผู้ที่มีความสามารถครบเครื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างความบันเทิง (Entertainer) รุ่นใหม่แถวหน้า ปล่อยงานเพลงที่ทั้งไพเราะและเต็มไปด้วยคุณภาพ สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงบ้านเรามาอย่างต่อเนื่องอย่างเพลงที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)” และตามมาติดๆ กับเพลงเร็ว “Dum Dum (ดึม ดึม)” ที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเพราะความเท่ห์แบบอินเตอร์ในสไตล์ของเจฟ ซาเตอร์ และเพลงช้าล่าสุด “ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid)”  กับ เวย์เฟอร์ เรคอร์ดส์ (Wayfer Records) สังกัดเพลงในการดูแลของ วอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย (Warner Music Thailand) ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ความสำเร็จที่เจฟ ซาเตอร์ ได้รับจากซิงเกิลเหล่านี้ นอกจากทำให้ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงชาวไทยแล้ว คนฟังในต่างประเทศก็ให้ความชื่นชอบและชื่นชม จนเขาได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของรายการเรียลิตี้สุดฮิตในประเทศจีน Call Me By Fire 3 แล้วด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดี มีเอกลักษณ์ ได้นำพาเจฟ ซาเตอร์ ก้าวไปเป็นส่วนหนึ่งในโลกแฟชั่น และการเดินทางไปอิตาลีเมื่อต้นปีนี้ เพื่อร่วมงานแฟชั่นโชว์ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Valentino ซึ่งเจฟ ซาเตอร์ ได้ร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการนำแฟชั่นมาพบกับดนตรี ที่นำไปสู่ “Black Tie” เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของหนุ่มคนนี้  

โดยแรงบันดาลใจของเพลง “Black Tie” เจฟ ซาเตอร์ เผยว่า "มาจาก Collection “Black Tie” จาก Valentino และเขาได้นำมาถ่ายทอดเป็นบทเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ยอมรับตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์และใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ซึ่งทำให้ "Black Tie" ไม่ใช่แค่เพลงที่มีไลน์ดนตรีเท่ ๆ ซาวนด์สะดุดหู แต่ยังชื่นชมความเป็นตัวของตัวเอง, การแสดงตัวตน รวมทั้งพลังที่เกิดจากความรักในตัวเอง ซึ่งเจฟ ซาเตอร์ ส่งเรื่องราวเหล่านั้นผ่านเนื้อร้อง และท่วงทำนอง ที่บอกว่า “แม้เราจะต้องผูกเนกไทสีดำเหมือนคนอื่น ๆ แต่เราก็สามารถที่จะใส่เนกไทสีดำในแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้เช่นกัน” ซึ่งสื่อถึงพื้นที่ในการแสดงตัวตน และปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ที่มีอยู่ในตัวจนออกมาได้อย่างอิสระ"

“Black Tie” เป็นมากกว่าเพลง ๆ หนึ่ง เป็นยิ่งกว่าเพลงที่นำแฟชั่นมาพบกับดนตรี เมื่อเนกไทสีดำ Collection ของ Valentino ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการนำเสนอความเป็นตัวตนออกมา ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เจฟ ซาเตอร์ แสดงถึงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ในตัว จนอาจพูดได้ว่า เขาก็คือ “เนกไทสีดำ” ของวงการเพลงไทยเช่นกัน

คุณกำลังดู: "Black Tie" เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของ “เจฟ ซาเตอร์” แรงบันดาลใจจากดีไซน์เนอร์ระดับโลก

หมวดหมู่: เพลง

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด