แจกแพลน Roadtrip เที่ยวแม่ฮ่องสอน ตะลุย 1,864 โค้ง พิชิตดินแดนเหนือหมอก
แจกแพลนสำหรับคนกำลังวางแผนเที่ยวแม่ฮ่องสอนในช่วงปลายปีนี้ กิน เที่ยว ที่พัก ครบ จบในทริปเดียว
เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ หลายๆ คนคงกำลังวางแผนออกไปเที่ยวรับลมหนาวกันที่ภาคเหนือของเมืองไทย ซึ่งหนึ่งจังหวัดที่ดูจะได้รับความนิยม และเป็นดั่ง Dream Destination ของหลายๆ คน นั่นก็คือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองแห่งขุนเขาที่มีอากาศหนาวเย็นแทบจะตลอดทั้งปี
ซึ่งใครกำลังทำแผนจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนกันในช่วงปลายปีนี้อยู่ Sanook Travel มีแพลน Roadtrip เที่ยวแม่ฮ่องสอนมาให้ทุกคนได้ไปตามรอยกันครับ ไปกอดป่า ไปหาเขา ไปคลุกเคล้ากับธรรมชาติกันให้หัวใจกลายเป็นสีเขียวไปเลย
โดยในทริปครั้งนี้เราได้ร่วมเดินทางกับทาง Booking.com ที่ได้จัดทริปภายใต้แนวคิด "Grow Green Together with Booking.com" การท่องเที่ยวในแนวอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางในครั้งต่อไป
ไฮไลท์ทริป
-ไร่ชิวอวี๋
-Riverie Siam
-ถนนคนเดินปาย
-ทะเลหมอกหยุนไหล
-บ้านรักไทย
-แสงปอย คอทเทจ
-สะพานซูตองเป้
-ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่
Day 1
เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ เราใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงขึ้นสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยแวะเที่ยวที่จุดหมายแรกคือไร่ชิวอวี๋ ไร่ชาบนยอดเขาสูงของชาวไทยเชื้อสายจีนยูนนาน บนไร่ชานี้จะเป็นจุดชมวิวและร้านอาหาร ให้เราได้มาทานอาหารจีนยูนนานในบรรยากาศที่สวยงาม มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขาที่โอบล้อม
นอกจากนี้ยังจะได้ชิมชาพันธุ์ดีของทางไร่ที่ชงสดๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมด้วย บอกเลยว่าหลังจากผ่านมาหลายโค้ง ได้ดื่มชาหอมๆ แบบนี้ไป สดชื่นจนลืมเวียนหัวเลย
จากนั้นเราไปพักกันที่ Riverie Siam ที่พักที่สร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมากในเขตอำเภอปาย ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับถนนคนเดินปายเลย มีบริการรถรับส่งสำหรับใครที่จะไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน
บรรยากาศโดยรอบที่พักตกแต่งสไตล์ยุโรปคลาสสิค เหมือนหลุดไปในเมืองอิตาลียุคโบราณเลย นอกจากนี้ยังมีความร่มรื่นของต้นไม้ใบหญ้า พื้นที่สีเขียวที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสบายตา แถมยังเป็นมุมถ่ายรูปสวยที่คุณจะได้ภาพประทับใจกลับไปเป็นความทรงจำอย่างแน่นอน
ด้านในที่พักจะเป็นห้องสไตล์วิลล่า มีสวนหย่อมด้านหลังห้องเป็นส่วนตัว ให้คุณได้ออกไปนั่งเล่นชิลๆ หลังห้องได้ และด้านในห้องก็จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะโซนห้องน้ำคือใหญ่โตอลังการมาก มีอ่างแช่ตัวหินอ่อนแบบหรูหรา ไม่น่าเชื่อว่าห้องพักที่ดีงามขนาดนี้จะมีอยู่ที่ปายด้วย
และหากใครอยากจะทานอาหารของทางรีสอร์ตที่นี่ก็มีห้องอาหารขนาดใหญ่ไว้ให้บริการ บริเวณห้องอาหารตกแต่งได้อย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิค อาหารที่นี่รสชาติอร่อย มีทั้งอาหารพื้นถิ่นและอาหารนานาชาติไว้ให้บริการ ใครมาพักที่นี่แนะนำว่าต้องมาลอง
หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มที่แล้วก็ได้เวลาออกไปสำรวจเมืองปาย เราไปเดินเล่นกันที่ถนนคนเดินปาย ซึ่งในช่วงนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเยอะมากแล้ว น่าดีใจแทนผู้ประกอบการในพื้นที่จริงๆ
บรรยากาศในถนนคนเดินปายยังคงคึกคักเช่นเคย พ่อค้าแม่ค้านำของพื้นเมืองมาวางขาย รวมไปถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับและของกิน เดินเล่นท่ามกลางแสงทไวไลท์ในช่วงเย็นอากาศเย็นสบาย เป็น Mood & Tone ที่ดีงามสุดๆ
Day 2
เช้ามืดของวันที่ 2 เราเร่งรีบขึ้นรถเพื่อไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกบนจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของปายเลยก็ว่าได้
และการรอคอยของเราในเช้านี้ก็ไม่ผิดหวังทะเลหมอกมาตามนัด ถึงแม้พระอาทิตย์จะไม่มาเพราะอากาศค่อนข้างปิด แต่ได้ชมวิวทะเลหมอกลัดเลาะตามขุนเขาแบบนี้ก็ถือว่าสบายใจแล้ว เป็นภาพที่สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ ใครมาเที่ยวปายอย่าลืมแวะขึ้นมาชมกันนะครับ
ในช่วงสายเรารีบลงมาเก็บของแล้วเดินทางต่อ โดยจุดหมายต่อไปคือที่บ้านรักไทย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของแม่ฮ่องสอนใน พ.ศ. นี้ เลยก็ว่าได้
ที่บ้านรักไทยแห่งนี้เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่อพยพมาอยู่ที่เมืองไทย คุณจะได้เห็นภาพบรรยากาศของหมู่บ้านที่ดูแปลกตา เหมือนกับว่ามาเที่ยวเมืองจีนอย่างนั้นเลย
ตรงกลางหมู่บ้านจะมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คประจำหมู่บ้าน มีกิจกรรมล่องเรือสไตล์จีนยูนนาน ที่ใครต่อใครมาก็ต้องมาเก็บภาพกันบนเรือนี้ และเราก็ไม่พลาดเช่นกัน เพราะวิวจากบนเรือนั้นสวยปังมากจริงๆ ใครที่เป็นสายคอนเทนต์แนะนำอย่าลืมหาชุดเก่งของคุณมาถ่ายรูปในมุมนี้กันครับ
หลังจากนั้นเราขึ้นมาทานข้าวกลางวันกันที่ร้านอาหารในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นอาหารสไตล์จีนยูนนานเช่นกัน ขาหมูหมั่นโถวอร่อยมาก! มาแล้วต้องลองครับ
ออกจากบ้านรักไทยเรามุ่งตรงสู่ที่พักของเราในคืนนี้ที่แสงปอย คอทเทจ ที่พักที่โอบล้อมไปด้วยวิวทุ่งนา และธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดีมากๆ
ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอนหลับพักผ่อนได้แบบสบายๆ เตรียมพร้อมเดินทางเที่ยวต่อในวันต่อไป
Day 3
เช้าวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางในทริปนี้ เรามุ่งหน้าไปที่สะพานซูตองเป้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่พักแสงปอยคอทเทจเลย สามารถเดินไปได้จากที่พัก ในช่วงนี้ทุ่งนาถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้วจึงไม่ได้เห็นทุ่งนาสีเขียวดั่งเช่นในหน้าฝน แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สวยงามเช่นกันกับทุ่งนาสีทอง ที่มีสะพานซูตองเป้พาดผ่านแบบนี้
จุดหมายสุดท้ายในทริปนี้ที่เราไปกันคือที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของแม่ฮ่องสอนเลยก็ว่าได้ ที่นี่ถือเป็นต้นแบบร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่หลายๆ ร้านนำไปใช้กัน
วิวด้านหน้านั้นงดงามเกินคำบรรยาย เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสีเขียวขจี ทานก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ในราคาหลักสิบ แต่วิวหลักล้านอย่างแท้จริง
เสร็จแล้วเดินเล่นชมบรรยากาศในหมู่บ้านจ่าโบ่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ทอดยาวไปตามสันเขา สองข้างทางจะเห็นวิวที่สวยงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราประทับใจและปิดท้ายทริปนี้ได้อย่างสมบูรณ์
โดยรวมแล้วสำหรับทริป 3 วัน 2 คืน ของเรานั้น ถือเป็นทริปสั้นๆ ที่ยังคงสำรวจแม่ฮ่องสอนไม่ได้ครบทั้งหมด แต่หากใครที่พอจะมีเวลาสัก 3 วันแบบเรา แนะนำเลยครับ แม่ฮ่องสอนเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องลองไปมาเยือนลองมาสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งจริงๆ หนทางแม้จะไกล แต่จุดหมายนั้นจะสร้างความประทับใจให้กับคุณอย่างแน่นอน
อัลบั้มภาพ 147 ภาพ ของ แจกแพลน Roadtrip เที่ยวแม่ฮ่องสอน ตะลุย 1,864 โค้ง พิชิตดินแดนเหนือหมอก
คุณกำลังดู: แจกแพลน Roadtrip เที่ยวแม่ฮ่องสอน ตะลุย 1,864 โค้ง พิชิตดินแดนเหนือหมอก
หมวดหมู่: เที่ยวทั่วไทย