เจาะพฤติกรรม เที่ยวแบบไหน โดนใจชาว LGBTQ+

เจาะพฤติกรรม เที่ยวแบบไหน โดนใจชาว LGBTQ+

การท่องเที่ยวคือการพักผ่อนหย่อนใจที่หลายคนชื่นชอบ แล้วสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ มีพฤติกรรมการเที่ยวที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปอย่างไร

เที่ยวแบบไหน ถูกใจชาว LGBTQ+

จากข้อมูลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคของ SCB EIC ในช่วงระหว่างวันที่ 8-22 กรกฎาคม 2565 เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มที่หลงใหลในการท่องเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของชาว LGBTQ+ จัดทริปท่องเที่ยวมากกว่า 5 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว

ทริปท่องเที่ยวส่วนใหญ่เน้นทริปสั้นไปกับแก๊งเพื่อนหรือจูงมือเที่ยวเป็นคู่ โดยราว 32 เปอร์เซ็นต์ จะเดินทางกับกลุ่มเพื่อนและ 28 เปอร์เซ็นต์ เดินทางเป็นคู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นจัดทริประยะสั้นเดินทาง 2-3 วันแต่ไปได้บ่อยๆ ขณะที่กลุ่มเดินทางคนเดียวเป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตาจากจำนวนที่มีสัดส่วนราว 26 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงระยะเวลาในการท่องเที่ยวที่ราว 40 เปอร์เซ็นต์ จะจัดทริปยาวๆ มากกว่า 4 วันขึ้นไป

ชาว LGBTQ+ ถึง 32 เปอร์เซ็นต์เลือกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน โดยเน้นที่การเดินทางสะดวก ที่พักเก๋ถูกใจ และมีโปรโมชั่นน่าดึงดูด
ชาว LGBTQ+ ถึง 32 เปอร์เซ็นต์เลือกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน โดยเน้นที่การเดินทางสะดวก ที่พักเก๋ถูกใจ และมีโปรโมชั่นน่าดึงดูด

เดินทางสะดวก ที่พักสุดชิก แถมมีดีลพิเศษ คือ 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกแหล่งท่องเที่ยว โดยที่พักที่มีสไตล์ ส่วนลดโปรโมชัน และแหล่งรวมคาเฟ่เก๋ๆ จะเป็นปัจจัยที่ชาว LGBTQ+ ให้ความสนใจมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ชาว LGBTQ+ ยังมีความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในธุรกิจการท่องเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวโดยรวมอีกด้วย

พักกาย พักใจเติมพลังให้กับตัวเองแล้วตะลุยกินของอร่อย ซึ่งกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน อีกทั้ง ยังเน้นนั่งชิลในคาเฟ่ ตระเวนหาร้านอร่อย รวมถึงการเที่ยวไปทำงานไปมากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไป โดยการออกทริปกับก๊วนเพื่อนราว 56 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นการเที่ยวสายมู ขอพรให้ปัง ขณะที่กลุ่มรักอิสระชอบเดินทางคนเดียวจะสนใจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเข้าถึงวิถีคนท้องถิ่น

ที่พักสุดปังแบบ LGBTQ+ ต้องใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย และตกแต่งอย่างมีสไตล์ โดยกว่า 44 เปอร์เซ็นต์ จะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ทันสมัย และราว 40 เปอร์เซ็นต์ เน้นการตกแต่งของที่พักโดยเฉพาะทริปเดินทางเป็นคู่ อย่างไรก็ดี ทริปเดินทางคนเดียวและทริปกับครอบครัวส่วนใหญ่จะมองหาที่พักที่ตั้งใกล้แหล่งช็อปปิ้งหรือใจกลางเมืองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง นอกจากนี้ ชาว LGBTQ+ มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จะเลือกพักโรงแรม 4-5 ดาว โดย 74 เปอร์เซ็นต์ จะจองที่พักผ่านผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์เป็นหลัก

3 กลยุทธ์เพิ่มความเฟียร์ซให้โดนใจชาว LGBTQ+

การนำเสนอแพ็กเกจเที่ยวกับแก๊งเพื่อนแบบ Exclusive ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งครอบคลุมทั้งที่พักสุดชิกบรรยากาศเงียบสงบเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่และหลีกหนีความวุ่นวาย สอดแทรกไปด้วยกิจกรรมเบาๆ อวดไลฟ์สไตล์ พร้อมอาหารมื้อพิเศษ และตบท้ายด้วยกิจกรรมความบันเทิงสายปาร์ตี้ในยามค่ำคืนแถมดีลพิเศษที่โดนใจจะสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

ความพร้อมด้านอุปกรณ์ที่ทันสมัยรับเทรนด์ Work from anywhere ซึ่งนักท่องเที่ยวเกือบครึ่งมองหาที่พักที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานสอดคล้องกับกระแสเที่ยวไปทำงานไป ซึ่งเป็นรูปแบบท่องเที่ยวที่ชาว LGBTQ+ ให้ความสนใจมากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไปถึง 2 เท่า

การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้น่าจดจำและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เช่น การออกแบบที่พักและการตกแต่งที่มีสไตล์แตกต่าง รวมถึงการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล และโปรโมตข้อมูลดังกล่าวให้กับนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

คุณกำลังดู: เจาะพฤติกรรม เที่ยวแบบไหน โดนใจชาว LGBTQ+

หมวดหมู่: เที่ยว-กิน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด