25 ที่เที่ยวไต้หวัน 2023 อัปเดตพิกัดตะลุยกิน ช็อป เที่ยวง่ายๆ ด้วยตัวเอง

เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง นักท่องเที่ยวไทย ฟรีวีซ่า 14 วัน ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2566 รวมเรื่องน่ารู้และอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก ติดตามได้จากบทความนี้

25 ที่เที่ยวไต้หวัน 2023 อัปเดตพิกัดตะลุยกิน ช็อป เที่ยวง่ายๆ ด้วยตัวเอง

เที่ยวไต้หวัน 2023 ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้กระแสท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองกำลังมาแรงสุดๆ หลังจากทางการไต้หวันเปิดประเทศ และออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ผู้มีสัญชาติไทย สามารถเดินทางเข้าไต้หวันและพำนักติดต่อกันได้นาน 14 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีผลไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566

"ไต้หวัน" จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยในปีนี้มีจุดเด่นทั้งเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารสตรีทฟู้ด โดยเฉพาะชานมไต้หวันที่ขึ้นชื่อมากๆ และวัดศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่งที่คนไทยนิยมเดินทางไปขอพร ที่สำคัญงบเที่ยวไต้หวันไม่แพงอย่างที่คิด เพราะสกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (TWD) ก็มีความใกล้เคียงกับเงินบาทไทย

ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสเดินทางไปยังไต้หวัน สำรวจร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยอาจไม่ค่อยรู้จักมากนัก พร้อมนำภาพบรรยากาศท่องเที่ยวไต้หวันมาฝากกัน เผื่อสามารถเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปเยือนไต้หวันในปีนี้

รวมเรื่องน่ารู้ ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน 2023/2566

Q : ไต้หวันเป็นประเทศไหม?
A :ไต้หวัน มีชื่อเรียกทางการว่า "สาธารณรัฐจีน" (Republic of China) เป็นพื้นที่ปกครองพิเศษที่มีกรุงไทเปเป็นเมืองหลวง โดยในทางนิตินัยแล้ว ไต้หวันถือเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) หรือที่เราเรียกกันว่า "จีนแผ่นดินใหญ่" นั่นเอง

Q : เที่ยวไต้หวันเดือนไหนดี?
A : ไต้หวันมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ มี 4 ฤดูกาลอุณหภูมิไต้หวันแปรผันไปตามฤดูกาล สำหรับฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยือนมากที่สุดคือ ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูหนาว
- ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
- ฤดูร้อน : เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
- ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายน-พฤศจิกายน
- ฤดูหนาว : เดือนธันวาคม-มกราคม

Q : ตั๋วเครื่องบินไต้หวัน บินตรง มีสายการบินอะไรบ้าง?
A : มีหลายสายการบินที่เปิดเส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ-ไทเป มีทั้งแบบ Low cost และ Full service เช่นการบินไทย, ไทยไลอ้อนแอร์, EVA Air, China Airlines, Thai Air Asia, Thai VietJet Air เป็นต้น ราคาแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ตั๋วเครื่องบินไต้หวันแบบไป-กลับ อยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบบริการและช่วงเวลาเดินทาง

ปัจจุบัน ยังมีสายการบินน้องใหม่STARLUX Airlinesของไต้หวัน ที่เพิ่งเปิดบริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-ไทเป (สุวรรณภูมิ-เถาหยวน) ด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวไต้หวัน

Q : เที่ยวไต้หวัน งบประมาณเท่าไร?
A : เรื่องงบในการท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริป ขึ้นอยู่กับการวางแผนท่องเที่ยวของแต่ละบุคคล บางคนอาจเน้นช็อปปิ้ง นอนโรงแรม 4-5 ดาว ในขณะที่บางคนอาจเน้นเดินทางข้ามเมืองและตะลุยกิน ซึ่งไต้หวันมีรถไฟความเร็วสูง(THSR) ที่ให้บริการระหว่างเมืองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และมีขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั้งเกาะ แม้จะไปเที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน หรือเป็นทริปเที่ยวสั้นๆ ก็สามารถไปได้หลายเมือง และค่าเงินของไต้หวันก็มีความใกล้เคียงกับไทย สินค้าราคาไม่แพง จึงเป็นพิกัดเที่ยวต่างประเทศที่ราคาไม่สูงนัก (1 ดอลลาร์ไต้หวัน = ประมาณ 1.08 บาทไทย)

แนะนำที่เที่ยวไต้หวัน 2023 เที่ยวด้วยตัวเอง แบบไม่ง้อทัวร์

"อากาศในไต้หวันก็เหมือนอารมณ์ของผู้หญิง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ส่วนพยากรณ์อากาศก็เหมือนผู้ชาย โกหกเชื่อถือไม่ได้" เป็นคำกล่าวติดตลกที่ไกด์ชาวไต้หวันยกขึ้นมาเปรียบให้ฟัง เพื่อให้เห็นภาพว่าสภาพอากาศในไต้หวันแปรปรวนเพียงใด เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ ในวันที่ภาคเหนืออากาศหนาวเย็น ทางภาคใต้อาจจะร้อนจัดอยู่ก็ได้ โดยเฉพาะกรุงไทเปที่มีฝนตกบ่อย จนมีคำกล่าวว่า "ใครมาไทเปแล้วยังไม่เจอฝน แสดงว่ายังมาไม่ถึงไทเป"

สำหรับทริปนี้ เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินนานาชาติเถาหยวน โดยสายการบินสัญชาติไต้หวันอย่าง STARLUX Airlines ซึ่งตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมเป็นต้นไป จะมีการเพิ่มเที่ยวบินจาก 1 เที่ยวบิน สู่ 2 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.starlux-airlines.com

1. จุดชมวิวเมืองน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou)
เมืองเป่ยโถว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงไทเป ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำพุร้อน โดยเฉพาะในช่วงที่ญี่ปุ่นเคยเข้ามาปกครองไต้หวัน ได้พัฒนาให้ย่านนี้เป็นเมืองน้ำพุร้อน มีบ่ออาบน้ำ มีจุดชมวิวเป็นไฮไลต์สำคัญ โดยเฉพาะบริเวณ "บ่อนรกอเวจี" ที่มีควันไอน้ำร้อนพวยพุ่งตลอดเวลา เป็นจุดทิวทัศน์ธรรมชาติที่ควรได้มาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

2. ห้องสมุดประชาชนเป่ยโถว
ไม่ห่างจากจุดชมวิวน้ำพุร้อนเป่ยโถว มีสวนสาธารณะซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องสมุดประชาชนเป่ยโถว โดดเด่นด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 25 ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก มีหนังสือจำนวนหลายหมื่นเล่มรอนักอ่านจากทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นห้องสมุดสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้แผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานแทนการใช้กระแสไฟ

3. พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว
ในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำที่ใหญ่ของไต้หวัน สร้างในปี 1913 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาปกครองไต้หวัน ทำให้โรงอาบน้ำแห่งนี้มีกลิ่นอายญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด มีบุคคลชั้นสูงและมีผู้ชื่อเสียงมากมายเดินทางมาที่แห่งนี้ แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์อิฐแดงสองชั้นผสมไม้ ที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์น้ำพุร้อนของเมืองเป่ยโถวภายในมีการจัดแสดงวัตถุสิ่งของและให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการแช่น้ำร้อนในอดีต

4. วัดหนงฉาน (Nung Chan Monastery)
อาจเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่คุ้นเคยนัก แต่วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เบื้องหน้าคือผืนน้ำ เบื้องหลังคือขุนเขาหยางหมิงซาน สะท้อนความเรียบง่ายของธรรมชาติ บนตัวอาคารมีการสลักอักษรแห่งธรรมให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้ ตั้งอยู่บนฐานคิด Spiritual Environment ที่เน้นให้มนุษย์ใส่ใจผู้อื่น ใส่ใส่สังคมและธรรมชาติ เช่นเดียวกับ Master Ven Dongchu ผู้ก่อตั้งที่อุทิศตนเป็นนักพัฒนาและเน้นวิถีการทำเกษตรกรรม

5. ร้านอาหาร อาเฉิงเนื้อห่าน (阿城鵝肉)
ร้านอาหารมิชลินไกด์ในกรุงไทเปที่ได้รับความนิยมจากคนไต้หวัน ได้รับรางวัลBib Gourmand ถึง 2 ปีซ้อน เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดก็คือ "เนื้อห่านรมควัน" และ "หอยตลับอบเกลือ" พร้อมด้วยเมนูอื่นๆ ที่เน้นรสชาติและเครื่องดื่มแบบชาวไต้หวัน ที่สำคัญอาหารร้านนี้ไม่แพงอย่างที่คิด มีมุมปรุงซอสให้บริการ สามารถเดินไปปรุงซอสและน้ำจิ้มได้ตามใจชอบเลย

6. วัดเสียไห่เฉิงหวง
วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่คนไต้หวันนิยมเดินทางไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ หนึ่งในนั้นคือ เทพเจ้าเฉิงหวาง ที่ชาวไต้หวันเคารพนับถือเป็นองค์เทพผู้ดูแลเมือง ทุกๆ ปีจะมีขบวนพาเหรดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าเฉิงหวาง นอกจากนี้ ยังมีผู้เฒ่าจันทราที่ผู้คนนิยมไปไหว้ขอพรเรื่องความรัก ว่ากันว่าในแต่ละปีมีคู่รักประมาณ 6,000 คู่ ที่ได้เดินทางมาสักการะวัดเสียไห่เฉิงหวง หลังสมปรารถนาในสิ่งที่ขอไว้

7. วัดหลงซาน
วัดชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในปี 1738 เพื่อเป็นสถานที่ไหว้สักการะเจ้าแม่กวนอิมและม่าจ้อโป๋ บริเวณวัดเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ คนนิยมไปขอพรเรื่องการงาน โชคลาภ สุขภาพ ขอบุตร รวมถึงขอแฟน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตาของตัวเอง นอกจากนี้ ไฮไลต์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยก็คือ ด้ายแดงขอเนื้อคู่ และเครื่องรางวัดหลงซานที่ทุกคนต้องซื้อเป็นของที่ระลึกกลับมาฝากคนที่บ้าน

8. ร้านอาหารลิ่วปี้จวี (六必居)
ร้านข้าวต้มแต้จิ๋วในเมืองนิวไทเป ถือเป็นไฮไลต์เด็ดที่สายกินไม่ควรพลาด เพราะจะได้สัมผัสอาหารไต้หวันแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเมนูข้าวต้มแต้จิ๋ว ที่เสิร์ฟในหม้อตุ๋นร้อนๆ ผสมวัตถุดิบทะเลสดใหม่ในข้าวต้ม ใส่น้ำซุปเข้มข้นที่ปรุงนานถึง 30 นาทีกว่าจะได้หม้อตุ๋นข้าวต้มมาเสิร์ฟนักชิม

9. คริสต์มาสแลนด์ นิวไทเป
ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี บริเวณคริสต์มาสแลนด์ในเมืองนิวไทเป จะประดับประดาไปด้วยต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ตกแต่งหลอดไฟนีออนสวยงดงามท่ามกลางอากาศเย็นๆ เพื่อรับบรรยากาศคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะมาถึง หากใครเดินทางมาที่นี่ เดินทางง่ายๆ ด้วยการลงที่สถานีรถไฟBanqiao

10. หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง (Ten Drum Cultural Village)
หากใครมาเที่ยวที่ไถหนาน อย่าลืมไปเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง ที่ในอดีตเคยเป็นโรงงานผลิตน้ำตาลมาก่อน แต่นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานที่แห่งนี้ก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปิดถาวร ในปัจจุบันทางการได้พัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สามารถชมโชว์การแสดงศิลปะตีกลอง มีจุดชมวิวดาดฟ้า รวมถึงร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะห้องสมุด Magical Space ที่มีคาเฟ่ธีมเวทมนตร์อยู่ใกล้ๆ มีจุดให้ถ่ายรูปมากมาย น่าจะถูกใจชาวไทยไม่น้อย

11. ร้านอาหารจู้ซินจวี Zhu Xinju (筑馨居)
ขอยกให้เป็นสุดยอดร้านอาหารรสชาตดั้งเดิมที่ควรมาชิมสักครั้ง หากได้มาเยือนไถหนานของไต้หวัน เป็นร้านที่ได้รับรางวัลBib Gourmet ประจำปี 2022 ร้านเป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ที่เจ้าของยังคงรักษารุปแบบดั้งเดิมไว้ จุดเด่นคือร้านนี้ไม่มีเมนู โดยทางร้านจะจัดทำอาหารมาเสิร์ฟให้เอง ไฮไลต์สุดอร่อยต้องยกให้หมูตุ๋น ไข่สามสี หอยตลับใส่บวบ ฯลฯ เสิร์ฟพร้อมน้ำชา และหลังรับประทานอาหารเสร็จทางร้านจะเสิร์ฟเต้าหู้โฮมเมดปิดท้าย

12. ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ (Hayashi Department Store)
ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นแห่งแรกของไต้หวัน สร้างในปี 1932 ภายในห้างฯ มีลิฟต์คลาสสิกสีทองเหลือง ซึ่งเป็นลิฟต์ตัวแรกของไต้หวัน ในอดีตห้างฯ แห่งนี้ถือเป็นจุดนัดพบของบรรดาคนมีฐานะ บริเวณด้านบนของห้างฯ เคยได้รับความเสียหายจากระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันยังมีอนุสรณ์รำลึก ส่วนภายในห้างฯ ยังคงจำหน่ายสินค้าตามปกติ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ระลึก ของฝาก ขนม ชา เสื้อผ้าและของใช้น่ารักๆ ทั่วไป

13. วัดขงจื้อแห่งไถหนาน
วัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม เคยใช้เป็นสถาบันศึกษาสูงสุดในการร่ำเรียนวิชาต่างๆ ของลัทธิขงจื๊อ ชายที่ปรารถนาเป็นนักปราชญ์และรับราชการก็จะมาเรียนที่นี่ ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไต้หวัน ภายในมีรูปเคารพขงจื๊อ นักปราชญ์จีนผู้เป็นเสมือนเทพแห่งปัญญาและแนวคิดของขงจื๊อยังคงมีอทธิพลต่อชาวไต้หวันจนถึงปัจจุบัน

14.Xin Mala Hotpot (新馬辣)
เชื่อว่าหนึ่งในจุดหมายปลายทางการตะลุยกินของคนไทย ต้องมีชื่อของร้าน "ซินหม่าล่า" รวมอยู่ด้วย ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม ราคารวมทุกอย่างแล้วไม่เกิน 1,000 บาท มีน้ำซุปให้เลือกหลากหลาย วัตถุดิบอย่างดี พร้อมด้วยเครื่องดื่มและไอศกรีมรสชาติต่างๆ ปัจจุบันมีหลายสาขาด้วยกัน โดยเฉพาะในย่านซีเหมินติงที่คนไทยรู้จักกันดี

15. อุโมงค์ต้นไม้สีเขียว (Sihcao Green Tunnel)
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติในเมืองไถหนาน ชาวไต้หวันนิยมเดินทางมาล่องเรือชมธรรมชาติของป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 750 กว่าเมตร เพื่อสัมผัสความอุดมสมบูรณ์สองฝั่งคลอง จุดเด่นอยู่ที่ต้นไม้เขียวขจีที่โค้งเข้าหากันคล้ายกับอุโมงค์เหนือคลอง ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเรือลอดเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ

16. วัดมาจู่ (Luermen Tianhou Gong)
เรียกได้ว่าเป็นวัดที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพอย่างมาก เป็นสถานที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปไหว้ขอพรและเสี่ยงเซียมซี บริเวณหน้าวัดมีรูปปั้นของเทพเจ้าสองพี่น้อง ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยขององค์มาจู่ เมื่อมีผู้ตกทุกข์ได้ยากมาขอความช่วยเหลือ องค์แรกคือ "เกาหมิง" เป็นเทพตาทิพย์ มองเห็นได้ไกลหมื่นลี้ ส่วนองค์ที่สองคือ "เกาเฉียว" เป็นเทพหูทิพย์ ได้ยินเสียงจากดินแดนไกลหมื่นลี้ ทั้งสององค์นี้ถือเป็นเทพที่ชาวจีนกราบไหว้บูชามาหลายร้อยปี

17. ร้านอาหารตงเซียงDong Xiang (東香臺菜海味料理)
อีกหนึ่งร้านอาหารของไต้หวันที่ได้รับรางมัลมิชลินไกด์ เปิดครั้งแรกในปี 1989 สืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลรสชาติเด็ด วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารล้วนสดใหม่ และยังเน้นเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีข้าวเกรียบปลาเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำร้านอีกด้วย

18. ภูเขาเกลือชีกู่ (Qigu Salt Mountains)
เขตชีกู่ในเมืองไถหนานของไต้หวัน แต่เดิมเป็นแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญมาหลายร้อยปี แม้ในปัจจุบันจะใช้เทคโนโลยีและวิธีการผลิตที่ทันสมัยแล้ว แต่บริเวณภูเขาเกลือชีกู่ยังคงเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสร่องรอยทางประวัติศาสตร์ โดยบริเวณนาเกลือเดิมยังคงมีภูเขาเกลือที่เกิดจากการทับถมของเกลือ หิน ดิน ทราย จำนวนมาก จนดูคล้ายกับภูเขาเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ บริเวณใกล้ๆ ยังมีจุดทำของที่ระลึกด้วยเกลือหลากหลายสีด้วยตัวเองอีกด้วย

19. นาเกลือจิ่งไจ๋เจี่ยว (Jingzijiao Wapan Salt Fields)
ไม่ไกลจากภูเขาเกลือชีกู่เป็นที่ตั้งของนาเกลือกระเบื้อง สร้างขึ้นในปี 1818 เป็นบริเวณที่เคยเป็นนาเกลือขนาดใหญ่ ชาวบ้านนำแผ่นกระเบื้องมาปูในนาเกลือ เพื่อให้ผนึกเกลือไม่ติดหน้าดิน เมื่อแสงอาทิตย์สาดลงมาก็จะได้เป็นภาพผืนนาเกลือแวววาวสวยงาม บริเวณนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป มีจุดจำหน่ายของที่ระลึก ทั้งพวงกุญแจเครื่องรางเกลือ เกลือสปา รวมไปไอศกรีมที่ใช้เกลือเป็นวัตถุดิบ

20. สตรีทฟู้ดเมืองเจียอี้
เมืองเจียอี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูง (THSR) จากไทเปไปถึงได้ง่ายๆ นอกจากเป็นทางผ่านไปอุทยานแห่งชาติอาลีซานแล้ว เมืองแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อย และยังมีถนนสตรีทฟู้ดชื่อดังที่ขายอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มหลายชนิด รวมไปถึงเสื้อผ้าราคาไม่แพง

21. ร้านอาหารSmart Fish (林聰明沙鍋魚頭)
Smart Fish เป็นชื่อร้านอาหารต้นกำเนิดเมนูสตูว์หัวปลา (Fish Head Stew) อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเจียอี้ และยังเคยปรากฏอยู่ในสารคดีเรื่อง Street Food ที่ฉายผ่าน Netflix อีกด้วย รสมือของร้านแห่งนี้สืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะเมนูหัวปลาที่มาพร้อมน้ำซุปเข้มข้นเคี่ยวนาน 8 ชั่วโมง ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพ เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรเด็ด ใครผ่านมาเจี้ยอี้ควรแวะมาชิมให้ได้สักครั้ง

22. หมู่บ้านญี่ปุ่นฮิโนกิ (Hinoki Village)
หมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างด้วยอาคารไม้แบบดั้งเดิม ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟเจียอี้ ยังคงได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ภายในมีพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวในอดีต จัดแสดงใบชาเก่าแก่ ของสะสมโบราณ มีมุมสวนญี่ปุ่นให้ถ่ายรูป พร้อมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก อาหาร และเครื่องดื่ม

23. ร้านอาหารข้าวมันไก่ไต้หวัน (嘉義噴水雞肉飯)
ข้าวมันไก่ ถือเป็นเมนูอาหารพื้นเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองเจียอี้ โดยเฉพาะร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านเด็ดร้านดัง ที่มีคอนเซปต์การรักษารสชาติท้องถิ่นแบบดั้งเดิมยาวนานกว่า 80 ปีทำให้เป็นพิกัดที่ทั้งชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวมาตะลุยกินไม่ขาดสาย

24. ร้านอาหาร SAN HO YAN (叁和院 台灣風格飲食)
อาหารฟิวชั่นสไตล์ไต้หวันที่มีสาขาอยู่ในหลายเมืองใหญ่ๆ หากใครแวะมาช็อปปิ้งGloria Outlets ก็สามารถไปรับประทานอาหารร้านนี้ได้ มีหลายรางวัลการันตี โดยเฉพาะเมนูข้าวหมูตุ๋นที่ไม่ควรพลาด เมนูมีให้เลือกหลากหลาย จะเน้นการผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันออกและตะวันตก ตามด้วยเมนูซาลาเปาที่จะทำลวดลายสัตว์น่ารักๆ ให้ลูกค้า

25. Gloria Outlets
ปิดท้ายกันที่สถานที่ช็อปปิ้งชื่อดังของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติเถาหยวน สามารถนั่งรถไฟมาลงสถานี Taoyuan HSR Station และเดินผ่านทางเชื่อมเข้ามาได้ นอกจากมีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านสะดวกซื้อแล้ว ไฮไลต์สำคัญคือร้านแบรนด์ต่างๆ ที่เรียงรายจนกลายเป็นอาณาจักร Outlet ที่ไม่ควรพลาด กว้างขวางใหญ่โต เรียกได้ว่าเดินช็อป 1 ชั่วโมงไม่พอแน่นอน

ขอบคุณ :สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

คุณกำลังดู: 25 ที่เที่ยวไต้หวัน 2023 อัปเดตพิกัดตะลุยกิน ช็อป เที่ยวง่ายๆ ด้วยตัวเอง

หมวดหมู่: เที่ยว-กิน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด