"เจเจ" ถ่ายทอด "แสงกระสือ2" ทุกคนมีความพิเศษ คบ "ต้าเหนิง" 7 ปี เติบโตรักมั่นคง

ท้าทายฝีมือนักแสดงหนุ่ม “เจเจ–กฤษณภูมิ” อีกครั้ง กับบทบาท “คล้าว” ชายหนุ่มผิวเผือกผู้มีจิตใจอ่อนโยนที่ได้มาพบกับกระสือ ชีวิตจริงความรัก “ต้าเหนิง” ก็เติบโตมา 7 ปี เคียงข้างกัน

"เจเจ" ถ่ายทอด "แสงกระสือ2" ทุกคนมีความพิเศษ คบ "ต้าเหนิง" 7 ปี เติบโตรักมั่นคง

ท้าทายฝีมือนักแสดงหนุ่ม “เจเจ–กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม” อีกครั้ง กับบทบาท “คล้าว” ชายหนุ่มผิวเผือกผู้มีจิตใจอ่อนโยนที่ได้มาพบกับกระสือ “สาว” รับบทโดย นิ้ง–ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ ใน “แสงกระสือ 2” ภาพยนตร์โรแมนติก-ทริลเลอร์ โดยเนรมิตรหนังฟิล์ม และ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม ร่วมสร้าง จัดจำหน่ายโดย ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ กำกับโดยผู้กำกับ ดี้–ปภังกร ปุณจันทรักษ์ ที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เรื่องราวเมื่อ 2 คน ที่แตกต่างเติบโตอย่างโดดเดี่ยวมาเจอกันกลายเป็นความรักต่างสายพันธุ์ แต่ในชีวิตจริงความรัก “ต้าเหนิง–กัญญาวีร์ สองเมือง” ก็เติบโตมา 7 ปีเคียงข้างกัน เลยชวนหนุ่ม “เจเจ–กฤษณภูมิ” มาพูดคุย

ถามถึงการทำงานใน “แสงกระสือ 2” เป็นยังไงบ้าง?

“ตื่นเต้นมากเพราะหนังแสงกระสือภาคแรกประสบความสำเร็จมาก พอมาภาคสองเลยตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่ง ตอนเริ่มการถ่ายทำก็ยากพอสมควร เพราะคาแรกเตอร์ “คล้าว” ต่างจากตัวจริงของผมคนละเรื่อง คาแรกเตอร์ของคล้าวเค้าจะค่อนข้าง Introvert เก็บตัว ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทุกคนมองเค้าว่าประหลาดเพราะเป็นคนผิวเผือกและในยุคนั้นมันดูแปลก ก็ยากช่วงการทำคาแรกเตอร์เราต้องพัฒนาตัวละคร มีความเก็บอะไรบางอย่าง บรรยากาศในการถ่ายทำ ส่วนใหญ่ถ่ายในป่าลึก การไปถึงโลเกชันต้องนั่งรถโฟร์วีลข้ามน้ำตกไป 2 คลอง ส่วนการแต่งผิวเผือก ใช้เวลา 3 ชม. ต้องทาตัว ย้อมผม ย้อมคิ้ว แต่เวลาตรงโคนเริ่มขึ้นจะเห็นชัด ต้องเอาสีมาฉีดผมกับคิ้ว ขนตา ตอนนั้น ย้อมผม 2-3 เดือนเลย”

อะไรทำให้ตัดสินใจรับเล่น?

“คงเป็นเรื่องคาแรกเตอร์และมุมมองของ พี่ดี้-ปภังกร ผู้กำกับ ตอนแรกที่ติดต่อมาผมก็สนใจ พอได้คุยบทและลองมาแคสต์เลยมีโอกาสได้คุยกับพี่ดี้ เล่าเรื่องให้ฟังว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน และความท้าทายคืออย่างที่บอกคือว่าพอคาแรกเตอร์มันไกลจากตัวมากแบบที่เรียกว่าไม่มีจุดไหนเชื่อมกับเรา ด้วยความที่คาแรกเตอร์คล้าวมีความแปลก ไปเจอกับสาวที่แปลกเหมือนกัน มีจุดนี้เชื่อมโยงมันเลยเกิดเป็นเคมีความรักความโรแมนติก และตัวคล้าวเองก็มีอะไรให้ค้นหา”

ทำงานกับผู้กำกับ ดี้–ปภังกร ผู้กำกับโฆษณาที่คว้ารางวัลต่างๆเป็นยังไงบ้าง?

“ก็ชิลกว่าที่คิดครับ เราก็เตรียมตัวเองให้ดีที่สุด เวลาเวิร์กเรื่องการแสดงผมจะชอบเวิร์กกับผู้กำกับและหาภาพตรงกลาง ซึ่งพี่ดี้เป็นผู้กำกับที่ภาพค่อนข้างชัดเลยทำให้การทำงานไหลลื่นและเราไว้ใจพี่ดี้ได้ เรื่องนี้แตกต่างจากกระสือภาคอื่นๆ ด้วยความที่เป็นกระสือเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความเชื่อเป็นผีไทย แต่เวอร์ชันนี้พี่ดี้หยิบมาเล่าในมุมที่จับต้องได้มากขึ้น เล่นกับการแพทย์ วิทยาศาสตร์ มีเหตุผลว่าทำไมกระสือถึงเป็นอย่างนั้น ผมว่าหนังเรื่องนี้มีความอาร์ตสูง ไม่ว่าจะเป็นบท อาร์ตไดเรกชั่น คนที่ดูหนังก็จะชอบ คนดูเอาสนุกก็จะชอบ”

ทำงานร่วมกับ “นิ้ง” เป็นยังไงบ้าง?

“กับพี่นิ้งรู้จักกันอยู่แล้ว แต่เพิ่งเคยร่วมงานกันเป็นครั้งแรก พอพี่นิ้งเค้ามีความเป็นนักแสดงมากๆ เลยทำให้การทำงานค่อนข้างดี ถามว่าช่วยเหลือกันยังไงเรารับผิดชอบในส่วนพาร์ตการแสดงของเรา เราก็ส่งให้เค้า แล้วเรื่องนี้เรานักแสดงเจ้าบทบาทสายการแสดง พี่น้อย วงพรู พี่ปีเตอร์ นพชัย พี่เอม ภูมิภัทร เราก็ชื่นชม ผมชอบดูเค้าเล่น รู้สึกว่าเค้าเล่นดีกันมากๆ”

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเล่นบทนี้?

“คงเป็นเรื่องการทำคาแรกเตอร์และการใช้ร่างกาย ด้วยบทบาทการแสดงงานที่ผ่านมาเราไปโฟกัสที่อินเนอร์มากกว่า แต่พอมาเป็นคล้าว มันมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เรานอกจากโฟกัสอินเนอร์ และโฟกัสร่างกายด้วย หลังถ่ายแสงกระสือผมได้ไปเล่นอีกโปรเจกต์นึงก็เอาไปใช้ได้ด้วย”

การรับบทคล้าว ได้อะไรเอามาปรับใช้ในการใช้ชีวิตบ้าง?

“ผมว่ามันเป็นเรื่องการยอมรับตัวตนของตัวเอง ตัวละครในเรื่องจะมีความไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งผมว่ามันมีความใกล้เคียงกับคนในปัจจุบันที่พอสื่อโซเชียลมันกว้าง ทุกคนเลยชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่น อยากเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่มั่นใจในตัวเอง ด้อยค่าตัวเอง แต่จริงๆผมรู้สึกว่าทุกคนมีความพิเศษของตัวเอง ไม่มีใครเหมือนกัน 100% การเป็นตัวเองของเรานี่ล่ะดีที่สุดแล้ว”

ถามถึงการมาทำบริษัท QOW Enter tainment เองเป็นไงบ้าง?

“มันก็มีอะไรหลายอย่างให้ต้องโฟกัสมากขึ้น ก็ค่อยๆเรียนรู้ไป มันยากเรื่องการตัดสินใจ พอเราประสบการณ์ยังไม่มากพอ มันทำให้การตัดสินใจบางอย่างของเรายังไม่คม แต่ก็ดีที่มี ต้าเหนิง–กัญญาวี พี่วุธ–อนุวัติ โฟร์โนล็อค ที่เป็นพาร์ตเนอร์ และพี่ๆใน QOW ช่วยกัน ตอนนี้งานหลักๆก็ยังคงเป็นงานของผมกับต้าเหนิง เรื่องพาร์ตงานส่วนตัวก็ช่วยกันดู งานพาร์ตโปรดักชันก็ช่วยกัน ก็เหนื่อยขึ้นแต่การจัดการต่างๆมันก็ง่าย ขึ้นถือเป็นข้อดี ทุกอย่างมันผ่านตาเราหมด เรารู้ทุกดีเทล”

ปีที่แล้วบริษัททำรายได้ 70 ล้าน ปีนี้ตั้งเป้าแค่ไหน? “ก็พยายามให้เติบโตอีก 10-20%”

หลายคนมองว่าการทำบริษัทเองเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่? “ก็จริงครับ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ชิน ก็ค่อยๆเรียนรู้ไป ด้วยความที่บริษัทมันยังใหม่ มันก็ยังพลาดได้ ถามว่าตอนนี้งานแน่นมั้ยก็แน่นแต่ก็ยังมีเวลาให้ได้หายใจบ้าง ตลอดเวลาที่ผมทำงานมา ผมเพิ่งได้สโลว์ดาวน์ลงเมื่อปีที่แล้วกับงานในวงการ ได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง”

พอมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ทบทวนตัวเองบ้างหรือมองเป้าหมายตัวเองมั้ย? “ณ ทุกวันนี้ถ้าถามว่าเป้าหมายของผมคืออะไรก็ยังไม่รู้นะ เราก็ทำทุกๆวันให้ดีและในบริษัทเราก็พยายามต่อยอดไป ปีที่แล้วเราเพิ่งเปิดและรันบทบาทเป็นเอเจนซี ทำโปรดักชันโฆษณา ตอนนี้รับเพื่อนมาอีกคนคือ จิงจิง ยู ทีมงานก็ค่อนข้างโตขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้เราขยับไปในเรื่องการทำอีเวนต์ในส่วนของศิลปินก็ไม่ได้เป็นศิลปินแค่นักร้องหรือนักแสดง”

เวลาเปิดโหมดคุยงานจริงจังกับต้าเหนิง เป็นยังไง? “แล้วแต่เลยครับ บางทีก็จริงจัง บางทีก็ตะโกนใส่กัน เถียงกัน (ยิ้ม) จริงๆเวลาคุยงานก็เป็นเหตุและผล”

ใครละเอียดกว่ากัน? “เค้าละเอียดกว่าผม”

อยากชื่นชมอะไรต้าเหนิงในเรื่องการทำงาน? “ผมว่าเค้าเป็นคนเพอร์เฟกต์ (ยิ้ม) หมายถึงในวิธีการทำงาน”

แล้วจุดเด่นน่าชื่นชมในการทำงานของเราล่ะ? “เน้นเอนเตอร์เทนครับ (หัวเราะ)” เป็นแฟนกันทำธุรกิจด้วยกันทะเลาะกันมั้ย? “ก็ทะเลาะกันเหมือนเวลาทะเลาะเรื่องอื่นปกติ ตีกันปกติ”

มองตัวเองเติบโตแค่ไหนในวงการ 11 ปี จากวันที่เข้ามาตามฝันกับวันนี้?

“ผมว่ามันก็ใกล้เคียงกันนะ วันที่เราเข้ามาไม่ได้มีความฝันที่ชัดเจนว่าอยากจะเป็นนักแสดงหรือเป็นนักร้อง เราแค่โชคดีที่เราได้โอกาสและเราก็รับโอกาสนั้นมา เราก็ทำมันให้ดีที่สุด จนผู้ใหญ่อาจจะเห็นและให้โอกาสให้งานเราเพิ่ม ผมว่ามันเป็นแนวนั้นและเราก็ทำมันไปเรื่อยๆ มันก็พาเรามาเรื่อยๆ”

เคยคิดมาก่อนมั้ยว่าจะได้ร่วมงานระดับโลก? “ไม่เคยครับ ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามโชคชะตา”

ทุกวันนี้เราจัดการบาลานซ์เวลาชีวิตตัวเองยังไง? “จริงๆก็ไม่ได้ถึงกับจัด เราก็ดูงานที่ติดต่อมา ถ้ามีเวลาและเหมาะสม เราก็ทำ แต่ช่วงนี้ก็เบาลง จัดสรรเวลาได้มากขึ้น”

แพชชันวันนั้นกับวันนี้ เด็กคนนั้นโตขึ้นเยอะมั้ย? “ก็ไม่มาก ยังตื่นเต้นอยู่ ทุกวันนี้เวลาไปแคสต์ยังตื่นเต้นอยู่เลย ใจเต้นตุ้บๆตลอด”

แพชชันด้านงานเพลงล่ะ? “กำลังทำครับ แต่ยังไม่มีเวลา เราประชุมคอนเซปต์ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ช่วงนี้ก็จะลุยงานเพลงเลย”

ที่ผ่านมาคนจำในภาพศิลปินได้แล้ว? “ใช่ครับ แต่พอเพลงเรายังไม่ได้มีเยอะมาก ภาพยังอาจจะยังไม่ชัดเรื่องสไตล์และเพลง แต่น่าจะเป็นแนวฮิปฮอป อาร์แอนด์บี อยู่ในช่วงพัฒนาผลงาน ปีนี้ก็จะไปโฟกัสที่เพลงจะเป็นศิลปินเบอร์แรกของ QOW”

คบกับ “ต้าเหนิง–กัญญาวี” ต้าเหนิง 7 ปีเป็นยังไงบ้าง? “ผมว่ามันดีนะ เราเห็นการเติบโตของกันและกัน โตไปด้วยกันและเรียนรู้กันไปตลอดเวลา และในขณะเดียวกันทุกคนก็เห็นเราเติบโต”

คบกันนานเติมเต็มความสัมพันธ์กันอย่างไร? “เราก็ไม่ได้เติมอะไรขนาดนั้น ทุกวันนี้ผมกับเหนิงก็ยังเหมือนวันแรกที่คบกัน ผมรู้สึกว่าด้วยความที่เราเจอกันตลอด ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อย เป็นเพื่อนกันด้วย”

คู่เราเวลางอนหรือมีปัญหากันที แฟนๆก็รับรู้ทั้งประเทศและเชียร์ให้ดีกัน? “จริงๆมันก็มีเรื่อย ทะเลาะกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเคลียร์กัน ด้วยความที่อย่างที่บอกว่าเราโตมาด้วยกันและทั้งคู่ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เลยเกิดการเรียนรู้กันตลอดเวลา พอเราโตขึ้นอายุเท่านี้เราอาจจะผิดพลาดเรื่องนี้ พอเราโตอีกอายุเท่านี้เราอาจจะผิดพลาดอีกเรื่อง พอมันได้ทะเลาะกัน และปรับความเข้าใจกัน มันก็เลยยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น”

ทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวฮอต มีกลัวว่าวันนึงอีกคนจะไปเจอใครใหม่มั้ย? “ไม่นะครับ ผมรู้สึกว่าถ้ามันถึงจุดที่ใครคนใดคนหนึ่งไปเจอคนที่ดีกว่า มันก็ไม่แปลกกับการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เราเคยคุยกันตั้งแต่แรก ถ้าวันไหนเจอใครที่โอเคกว่าจะไปได้ แต่ก็ต้องมีข้อตกลงกันที่เข้าใจได้ เช่น ถ้าคบกับใครคนต่อไปต้องโอเคกับต้าเหนิง”

แปลว่ามีการเผื่ออนาคตที่ไม่แน่นอน? “ใช่ครับ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่วางอนาคตของเรานะครับ เราก็แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดแต่ก็มองภาพที่เรามีด้วยกันด้วย”

อะไรทำให้รักของเรามั่นคง? “ผมว่าคงเป็นเรื่องทะเลาะนี่ล่ะครับ แล้วปรับความเข้าใจ”

รู้สึกยังไงที่เป็น เจเจ–ต้าเหนิง เป็นคู่ที่คนชื่นชอบทั้งคู่? “ก็ขอบคุณมากครับ ด้วยความที่วันที่เราตั้งใจเปิด เราไม่อยากโกหกคนที่ติดตามเรา ก็ขอบคุณคนที่สนับสนุนเราทั้งคู่”

เปรียบต้าเหนิงเป็นอะไรในชีวิต? “เป็นเพื่อน เป็นพาร์ตเนอร์ และเป็นทุกอย่างครับ”.

คุณกำลังดู: "เจเจ" ถ่ายทอด "แสงกระสือ2" ทุกคนมีความพิเศษ คบ "ต้าเหนิง" 7 ปี เติบโตรักมั่นคง

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด